
23 มิถุนายน 2568 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือ นายกอิ๊งค์ ขอให้ปรับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องไม่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ตรวจสอบให้ดี ก่อนที่จะเสนอรายชื่อรัฐมนตรีในการทูลเกล้าฯ
และในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หากทราบว่า มีคุณสมบัติต้องห้าม ทำให้สมาชิกภาพความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะราย โดยอยู่ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน ไต่สวน รวมถึงให้อัยการสูงสุดพิจารณาตรวจสอบ แม้ยังไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญก็ตาม
แต่กรณี นายพีระพันธุ์ มีลักษณะต้องห้าม ทั้งการทุจริตแจกถุงยังชีพ คดีซุกหุ้น และเป็นกรรมการบริษัท ทั้งยังแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิด มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ ถือเป็นการละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันเป็นการกระทำชัดแจ้ง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
จากข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงข้างต้น ผมได้ตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์มาแล้ว จึงขอแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วน และปรับนายพีระพันธุ์ ออกจากตำแหน่ง แต่ถ้ายังเพิกเฉย ผลร้ายจะกลับไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีเอง เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว กรณีของ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่กระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายเสกสกล ยังกล่าวถึงปัญหาภายในพรรครวมไทยสร้างชาติว่า นายพีระพันธุ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค พยายามใช้อำนาจครอบงำพรรค เรื่องนี้ตนเคยคุยกับ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ว่า ทำไมหัวหน้าพรรคไม่ฟังใครเลย และพยายามโหนกระแส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังนั้น ตนในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค จึงเชียร์ให้นายเอกนัฏเป็นหัวหน้าพรรคแทน
อีกทั้งปัญหาล่าสุดที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะถอนหรือไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล จากปมคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี คุยกับ ฮุนเซน ซึ่งผลปรากฏว่า มีเพียงนายวิทยา แก้วภราดัย และนายจุติ ไกรฤกษ์ รองหัวหน้าพรรค ที่ออกมาให้ข้อมูลผลประชุมแทน โดยบอกว่า ให้นายพีระพันธุ์ไปคุยกับนายกรัฐมนตรีว่า ต้องลาออก แล้วจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป แต่สุดท้ายโฆษกพรรคยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่มติพรรค และให้อำนาจนายพีระพันธุ์ดำเนินการคนเดียว จึงไม่แน่ใจว่า อะไรคือเรื่องจริง แต่ทั้งหมดทำให้พรรคเสียหายไปแล้ว