21 มิถุนายน 2568 ที่วัดสว่างสุวรรณาราม ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 เป็นประธานนำเจ้าภาพเจ้าศรัทธา ประกอบพิธีถวายพระพุทธรูป ปางสะดุ้งมาน สมัยพระชัยวรมัน ทองสำริด หน้าตัก 29 นิ้ว สูงประมาณ 1.2 เมตร มูลค่ารวมกว่า 1.9 แสนบาท
โดยมีการประกอบพิธีแห่รอบอุโบสถ 3 รอบ ก่อนประกอบพิธีทางศาสนา ถวายประดิษฐาน ภายในองค์พระธาตุแสงนคร พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ของ อ.เมืองนครพนม ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2568 โดยมี เจ้าคุณเพชร พระราชสิริวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณาราม เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานสงฆ์ มี พี่น้องประชาชน สายบุญ สายศรัทธา ให้การต้อนรับ มอบดอกไม้ให้กำลังใจ
ทั้งนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีนัยสำคัญในการทำบุญ เป็นการทำบุญตามปกติ ร่วมกับเจ้าภาพที่เดินสายถวายพระพุทธรูปตามวัดสำคัญ
นอกจากนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงสงบ ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการขยับกำลังทหารที่น่าเป็นห่วง แม้ว่ากองกำลังทั้งสองฝ่ายจะยังคงประจำการตามเดิม แต่การเจรจาและการประสานงานระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา ยังคงดำเนินอยู่
ทางฝ่ายกัมพูชายังคงอยู่ในเขตแดนของตน ไม่มีการรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย ความตึงเครียดส่วนใหญ่เกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทยมากกว่า ซึ่งทางกองทัพ จะยังคงมุ่งเน้นการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ
“ยืนยัน ว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพในการดูแลรักษาชายแดน ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการปะทะนั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลกัมพูชาเป็นสำคัญ” พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มชาวกัมพูชาร้องเพลงสรรเสริญที่ปราสาทตาควายนั้น กองทัพไทยได้ประสานงานกับทางการกัมพูชา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางทหารโดยตรง
กองทัพไทย ขอให้ประชาชนมั่นใจในความสามารถและความมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และขอให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ทางกองทัพยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่โดยคำนึงถึงชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน
ส่วนกรณีข่าวความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแม่ทัพนั้น เป็นเพียงความเข้าใจผิด และได้มีการชี้แจงและขอโทษกันแล้ว ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกองทัพแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงความหนักใจต่อสถานการณ์ในอนาคต แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบอย่างหนักแน่นว่า "ไม่หนักใจ เราก็ต้องแก้ปัญหาไปตามสถานการณ์บ้านเมือง รัฐบาลก็ต้องแก้ไปในระดับรัฐบาล ส่วนพื้นที่ก็พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย หลักๆ เราก็พูดคุยกันกับกำลังทหารในพื้นที่ของไทยและกัมพูชาก็พูดกันประจำ"
“เรื่องการเมืองเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่ต้องแก้ไขส่วนของการเมืองไป ส่วนกองทัพมีหน้าที่รักษาอธิปไตย แยกกันปฏิบัติอยู่แล้ว โดยย้ำว่าการเมืองไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมาตรการตามแนวชายแดน ซึ่งกองทัพกำกับดูแลอยู่แล้ว” พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2