17 มิถุนายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่อนุคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว.ว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องทางกฎหมาย ผู้ที่โดนกล่าวหาจะต้องให้ทนาย และนักกฎหมายดำเนินการ และตนและ สส.ภายในพรรค ที่ได้รับหมายเรียกที่มีลักษณะเป็นหมายเรียกแบบก๊อปปี้-เพรส เนื้อหาเดียวกันหมด ก็ได้แต่งตั้งทนายความดำเนินการแทนแล้วในวันนี้ (17 มิ.ย.2568) เพื่อเลื่อนการชี้แจง
ส่วนจะมีการต่อสู้ข้อกล่าวหาอย่างไรนั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำผิดอะไร และยังงงว่า เหตุใดถึงข้อกล่าวหาว่า ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ทั้งที่ตนเอง ก็มาตามระบอบฯ ประชาธิปไตย และมีความเชื่อมั่น ดังนั้น ทั้งนางสาวไตรสุลี ไตรสรณะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเนวิน ชิดชอบ ที่ได้รับหมายข้อหาล้มล้างฯ ก็ต่างเชื่อมั่นใจระบอบประชาธิปไตย จึงเป็นข้อกล่าวหาที่ต้องไปฟังก่อน เพราะไม่สามารถกล่าวหาเหมาเข่งได้
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการฟ้องเอาผิดคณะอนุกรรมการฯ กลับว่า ก็จะต้องต่อสู้ เพราะตามปกติหมายเรียกจะต้องระบุสาเหตุ มูลเหตุ วันและเวลา แต่หากแจ้งเพียงลอยๆ และค่อยแจ้งข้อกล่าวหาภายหลัง ตนก็ต้องต่อสู้ เพราะจะให้ชี้แจง ก็ยังไม่ทราบว่า ตนเองไปทำอะไรผิด
ส่วนมองกระบวนการดังกล่าวถือเป็นการเล่นกันแรงหรือไม่นั้น นายอนุทิน ได้ย้อนถามกลับว่า นี่ยังไม่แรงอีกหรือ? และไม่เคยมีในประวัติศาสตร์มาก่อน ซึ่งตนเองก็บอกกับนายกรัฐมนตรีว่า ไม่เคยเจอแบบนี้ ในอดีตสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกรัฐประหาร ก็ยังไม่มีการเล่นกันแรงขนาดนี้ แต่นี่ในสมัยที่มีรัฐสภาประชาธิปไตย เหตุใดต้องเล่นกันแรงขนาดนี้ จึงขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรีให้คุ้มครอง หากทำได้
ส่วนกรณีที่ปรากฏคลิปเสียงฮั้ว สว.นั้น นายอนุทิน ได้ย้อนถามว่า เป็นคลิปเสียงของใคร เพราะก็เคยมีคลิปเป็น AI ของนายกรัฐมนตรี ที่พูดภาษาจีนที่ AI สามารถทำได้
ส่วนความผิดจะถึงขั้นการยุบพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า พรรคฯ ไม่ได้ทำอะไร ดังนั้น จะต้องมีหลักฐาน พร้อมยังยืนยันด้วยว่า ตนเองไม่ได้มีการประเมินว่า การเล่นกันแรงขนาดนี้ จะทำให้อายุรัฐบาลสั้นหรือไม่ แต่ได้แจ้งนายกรัฐมนตรีว่า อะไรที่เกิดขึ้นตอนนี้ และไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน