“ณฐพร” เปิดใจ มีใครอยู่เบื้องหลังร้องยุบ"พรรคภูมิใจไทย" หรือไม่?

3 มิถุนายน 2568 กรณีการตรวจสอบและดำเนินคดีเกี่ยวกับการฮั้วเลือก สว. ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ที่กลายเป็นหนังม้วนยาว กรณีที่ ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึง นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. ต่างคนต่างยื่นคำร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณาเรื่องขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย

โดยมีรายงานว่า ในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ณฐพร เตรียมเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัย ว่า กกต. ผู้บริหารพรรค สมาชิกวุฒิสภา และบุคคลที่มีรายชื่อตามสำนวน การสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงาน กกต.ร่วมกันฝ่าฝืน บทบัญญัติรัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 49 ซึ่งปลายทางก็จะนำไปสู่การยุบพรรคภูมิใจไทย อีกด้วย

ความพยายามร้องขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย ของ ณฐพร จึงถูกตั้งคำถาม ว่า มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ โดยล่าสุด ณฐพร เปิดใจกับเนชั่นทีวี เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว

ก่อนตอบคำถาม ณฐพร พนมมือขึ้นมาไหว้ พร้อมตอบว่า  ขอบคุณมากที่ถามคำถามนี้ ปัจจุบันผมได้ชื่อว่า ผมได้รับเงินจากคนเสื้อแดงว่ามาโค่นเสื้อน้ำเงิน

"ผมเรียนเลยว่า สิ่งที่ผมทำ ทั้งสองส่วน เสื้อน้ำเงินก็ดี เสื้อแดงก็ดี โดยเฉพาะ ฮั้ว สว. ถ้าดีเอสไอ ทำเรื่องอั้งยี่ ซ่องโจร ฟอกเงิน ไม่เสร็จง่าย เพราะเป็นคดีอาญา เรียกข้อกล่าวหามาร้อยกว่าคน แค่เขาบอกว่ายืดคำให้การ 30 วัน ต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่"

ส่วนคดีฮั้ว สว. หรือการได้ สว. มามิชอบด้วยรัฐธรรมนูญอันนี้ กกต.ดำเนินการ แต่ไม่ได้ทำให้การฮั้วหมดไป แค่กำหนดบทลงโทษ และหากคนไหนให้การเป็นประโยชน์กันไว้เป็นพยาน 30-40 คนก็ได้ แต่จะโดนปลาซิวปลาสร้อย

โดยเหตุผลที่ผมยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรค ผมเห็นว่าถ้าปล่อยไปอย่างนี้ องค์กรอิสระอย่าลืมว่า 41 คนที่ สว. ชุดนี้ต้องเลือก อันนี้คือที่มา ถ้าปล่อยไปแบบนี้ ถ้าผมไม่ใช่คนกลางมาทำ ผมนี่ล่ะใครซื้อผมไม่ได้ และทั้ง 3 สำนวน ที่ผมยื่น ยังไงก็ต้องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ 

ทั้งนี้ กกต.ไม่สอบไม่ได้ เพราะกกต.ไปชี้มูล สว.138 ท่าน เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว และความเชื่อมโยงไปยังพรรคการเมือง ไม่ยุบพรรคก็ไม่ได้"

 

ถูกกาหัว ค้านกม.พนันออนไลน์ –เขากระโดง 

ท่ามกลางข้อสงสัย ชนวนเหตุให้นักร้องระดับจตุรเทพ อย่าง ณฐพร เปิดหน้าชน อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชนิดกัดไม่ปล่อย เป็นผลมาจากมาจากความไม่พอใจที่อนุทิน เขี่ย ณฐพร พ้นที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยหรือไม่

"ณฐพร" จึงออกมาเคลียร์แต่ละประเด็นที่สังคมคาใจ  

อย่างเรื่องความขัดแย้งไม่ให้เป็นที่ปรึกษามหาดไทยนั้น เจ้าตัวบอกว่า เดิมตนเป็นที่ปรึกษารมต. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อรมต.พ้น ก็ออกตามวาระ   

แต่ก่อนหน้านี้ ก็เป็นที่ปรึกษาหลายกระทรวง  ส่วนที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทย เดิมไม่ได้สนิท คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ  เดิมผมอยู่ สอบ. คุณสุทธิพงษ์ มาประชุมสอบ.ให้ตนไปช่วยดูโคกหนองนา  ท่านจึงแต่งตั้งผมเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน (พช.) หลัง ท่านขึ้นเป็นปลัด ฯ อธิบดีกรมการปกครอง ก็แต่งตั้งตนเป็นที่ปรึกษากรมการปกครอง ทุกอธิบดี แต่งตั้งผมเป็นที่ปรึกษาเกือบทั้งหมด 

“ก่อนปลัดมหาดไทย เกษียณ แต่งตั้งผมเป็นกรรมการกลั่นกรองกฎหมายของกระทรวง ช่วงนั้น มีเรื่อง พ.ร.บ.การพนัน ก็แต่งตั้งกรรมการกลั่นกรองกม.ฉบับนี้ โดยมีอจ.จรัญ ภักดีธนากุล เป็นประธาน  ผมเป็นรองประธาน เป็นตัวจักรสำคัญร่างกม.พนัน ก็มีปัญหา เช่นเดียวกับ  การยกระดับ เทศบาลในเมือง เทศบาลอีสาน เป็นเทศบาลนคร ในที่ประชุมผมก็คัดค้าน ว่า ควรเกิดจากความต้องการของประชาชน ไม่ใช่เกิดนักการเมือง  ผมคัดค้าน ตอนหลังเป็นเทศบาลนคร  พื้นที่เกี่ยวโยงถึงเขากระโดง  ซึ่งผมอยู่. ก็มีคนพูดถึงผมว่า ใครเอาณฐพร มานั่งเป็นที่ปรึกษา" 

ยุครมต.เก่าไม่มีปัญหา พอมาเป็นกรรมการร่างกม.พนัน ทางกระทรวงเสนอว่าจะให้ยกเลิกพ.ร.บ.การพนันแล้วทำบทเฉพาะกาลให้มีการพนันออนไลน์ อันนี้ ผมไม่เห็นด้วย   ซึ่งตอนนั้น ก่อนรมต.หมดวาระ พอรัฐบาลใหม่มาต้อง แต่งตั้งคณะใหม่ ตอนนั้นปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ผมลงชื่อในการทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ แต่ ผมไม่ได้ลงชื่อ เพราะผมเข้าใจดีหมดวาระผมก็ออกมา ฉะนั้นผมไม่เคยถูกรมต.ขับไล่ และไม่เคยถูกไล่ออกจาก ที่ปรึกษาในส่วนของปลัดมหาดไทย แต่อย่างใด

"ผมเรียนตรงๆที่แต่งตั้ง ผมไม่เคยร้องขอเลย เขาแต่งตั้ง เพราะความรู้ความสามารถผมเท่านั้น และผมไม่อยากเป็น เพราะการเป็นที่ปรึกษาไม่ได้เงินเดือน เบี้ยประชุมอะไร แต่ที่มาก่อนหน้านี้ ผมไปนั่งที่ปรึกษากรมการปกครอง ผมทำเรื่องมูลนิธิเพราะมีเรื่องคนจีนอาศัยมูลนิธิ ให้วีซ่า แล้วเอาคนจีนเทาออกวีซ่ามา ผมก็ทำคดีนี้ จะร่างพ.ร.บ.มูลนิธิสมาคมใหม่ เท่านั้นเอง"

ณฐพร ยังขยายความ เมื่อครั้ง คัดค้าน ร่างกม.พนันว่า ตอนนั้น มีการเชิญหลายหน่วยงานมาร่วมหารือ ทั้งกฤษฎีกา ตำรวจ มีความเห็น ไม่ควรมีพนันออนไลน์ เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน หลักการเราไม่ต้องการให้มีพนันออนไลน์ เช่นเดียวกับ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์   เราก็ขัดขวาง ลองคิดดูคนเล่นเป็นแสนๆ จะป้องกันอย่างไร  ฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ ขับไล่แล้วไม่ออกจากที่ปรึกษามหาดไทย จึงไม่ใช่เลย " 

เหตุใด คำร้องฮั้วเลือกสว.เหมือนดีเอสไอ ?

ณฐพร เล่าถึงที่มาที่ไปในการทำสำนวนคำร้อง ฮั้วเลือกสว. ที่ ถูกสังคมกังขาว่า เหตุใดเนื้อหาคำร้อง มีความคล้ายคลึงกับดีเอสไอ ราวกับปริ้นท์ออกมาจากดีเอสไอ. คำถามตามมาไปเอาสำนวนจากดีเอสไอมาได้อย่างไร  /การเอาสำนวนราชการออกมาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ณฐพร กล่าวยืนยันว่าไม่เคยไปเอาสำนวนจากดีเอสไอ แต่เป็นการรวบรวมจาก สื่อมวลชน และได้รับเรื่องจากผู้สมัครสว.ทีร้องเรียนว่ามีการฮั้วสว.

"ผมเป็นคนทำเรื่องร้อง ผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 67 กรณีที่กกต.จัดการเลือกไม่บริสุทธิยุติธรรม  ข้อมูลฮั้วสว. ผมได้ข้อมูลบางส่วนจากคนที่ฟ้องร้องต่อศาล อย่าลืมคนที่ฟ้องร้องต่อศาลกว่า 200 คดี  และ ผมมีทีมงาน  6-7 คน  มอนิเตอร์ ข้อมูลจากสื่อ ข่าวทุกชิ้น ปริ้นท์มาหมด นำมาอ่านวิเคราะห์" 

"ที่บอกว่าสำนวนเหมือนดีเอสไอ ขอกล้าพูดอย่างลูกผู้ชายเลยว่า ทุกวันนี้ ผมไม่เคยเห็นสำนวนดีเอสไอ ทั้งที่ เคยทำหนังสือ ถึงอธิบดีดีเอสไอ ขอข้อมูลมาประกอบ ยื่นศาลรธน. ทางหัวหน้าดีเอสไอ บอกว่า ให้ศาลทำมาดีกว่า ส่วนถามว่า มีรูปภาพมาอย่างไร ก็มันมีคลิป เหมือน สามบก.เนชั่นที่มี ผมก็ตามเก็บมาเป็นสำนวน อ่าน วิเคราะห์ และผมยังลงพื้นที่ไปหาผู้ถูกชักจูงเข้าร่วมขบวนการด้วย เอางี้แล้วกัน  ผมร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อเดือนกันยายน 2567  มีการยกร้องคำร้องผม ประมาณ  31 มกราคม 2568  ผมถึงยื่นศาลรธน. ทำให้ผมมีเวลาเขียนสำนวน" ณฐพร เล่าเบื้องหลังการทำงานก่อนยื่นคำร้องเอาผิดพรรคภูมิใจไทย