ทนายอั๋น จี้ กกต. "คดีฮั้ว สว.สีน้ำเงิน" แขวะ "เลขาธิการ กกต." ได้ดี อย่าลืมกำพืดตัวเอง

21 พฤษภาคม 2568 นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ได้เดินทางมายัง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กรณีการยื่นคำร้อง หาช่องทางผ่านอำนาจของ กกต. และผู้ตรวจการแผ่นดินในการที่จะยุติการปฏิบัติหน้าที่ของ สว. ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดี "ฮั้วเลือก สว." ภายหลังจากที่ นางนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ไม่สามารถรวบรวมรายชื่อ ครบ 20 คน 

 

 

 

โดย ทนายอั๋น กล่าวว่า ส่วนตัวพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ "สว.สีน้ำเงิน" ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และกำลังทยอยรายงานตัวไปปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ในการสรรหาหรือลงมติรับรอง ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 

 

กลุ่ม สว.ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว ในทางสืบสวนไต่สวน พบว่า มีการยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง และบุคคลทางการเมือง ล่าสุดมีข่าวว่า ในการเลือก สว.ในระดับประเทศ ครั้งที่ผ่านมา มีผู้สมัครกว่า 63 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบ 2,000 คน โทรติดต่อกับ พรรคภูมิใจไทย

 

ซึ่งแม้กระบวนการจะยังไม่ถึงขั้นสิ้นสุด แต่ข้อเท็จจริงในการสืบสวน มันเห็นชัดว่ายุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง เป็นการทำให้ตัวเองตกต่ำอยู่ใต้พรรคการเมือง อานัตินักการเมือง ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 113 แต่ข้อจำกัดมันมี อาจารย์นันทนาหายังไม่ครบ 20 คน วันนี้จึงมากกต.เพื่อขอช่องทาง

 

กกต. สามารถหาช่องทางในการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้เอง และมีการดำเนินการแล้ว โดย นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ดังนั้นส่วนตัวจึงจะไปยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป พร้อมทั้งตั้งคำถามต่อว่า เป็นการยากหรือไม่สำหรับหน่วยงานอย่าง สว. จะส่งเรื่องใดๆ ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยับยั้งสกัดกั้นไม่ให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ดังนั้นจึงต้องรอดูท่าทีของ นายแสวง บุญมี ในฐานะเลขาธิการ กกต. รวมถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน 

 

ตนรู้สึกเสียใจกับกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า สว.สีขาว ยังไม่แสดงความกล้าหาญเลยวันนี้ แต่ถึงแม้จะไม่มีช่องทางให้เข้าถึงศาลรัฐธรรมนูญ ผมก็มีไม้สุดท้าย คือการใช้มาตรา 49 ด้วยการไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สว.กลุ่มนี้มีที่มาโดยล้มล้างการปกครอง เจอกันที่ศาลรัฐธรรมนูญวันจันทร์หน้า

 

ทั้งนี้ ทนายอั๋น ได้วิพากษ์วิจารณ์การให้สัมภาษณ์ของ สว.ที่ผ่านมาในเรื่องการใช้ภาษา และเปรียบเทียบความเชื่อมั่นของหน่วยงานระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษกับ กกต. ว่า ดีเอสไอ มีคะแนนมากกว่า 

 

"ตอนนี้ที่สังคมวุ่นวายก็มีแต่คนบุรีรัมย์ทั้งนั้น ก่อนจะพาดพิงไปยัง นายอลงกต วรกี สว. ว่ามีการพูดภาษาฝรั่งเศส ตนจึงขอพูดเป็นภาษากัมพูชาถึง นายแสวง เลขาธิการ กกต. ซึ่งแปลว่า "ได้ดิบได้ดี ก็อย่าเป็นวัวลืมตีน อย่าลืมกำพืดตัวเอง"  ทนายอั๋น กล่าวตบท้าย

 

 

 

 

 

 

ดูคลิป