“นายกแพทองธาร” ลุยเมืองจันท์ จับเข่ารับฟังปัญหาชาวสวนทุเรียน

17 พฤษภาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อรับฟังปัญหา เรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ ในพื้นที่ภาคตะวันออก และแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ที่สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

โดยตัวแทนเกษตรกร ในฐานะผู้แทนผู้ปลูกทุเรียนในจันทบุรี ได้เรียกร้องให้รัฐบาล สนับสนุนผู้ประกอบการทั้งชาวไทย และต่างชาติ เพื่อรักษาฐานกลุ่มผู้ส่งออก เพื่อไม่ให้ถูกกดราคา เพราะอนาคตจะมีผลไม้มากขึ้น จึงต้องมีผู้ประกอบการช่วยผลักดันราคา และขอให้ส่งเสริมการตั้งห้องแล็ปในจังหวัดที่มีการปลูกผลไม้ และทุเรียน เพื่อให้สามารถตรวจสอบ และส่งออกได้รวดเร็ว รวมถึงสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้างสภาพคล่อง และรักษาระดับผลไม้ในตลาด และขอให้ชาวจีนสามารถเข้ามาค้าขายได้สะดวก เพื่อไม่ให้นักลงทุนหนีพื้นที่การลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ และอินฟลูเอ็นเซอร์ เพื่อดึงดูดการบริโภคผลไม้ไทย และให้ทุเรียน และผลไม้ไทย มีความยั่งยืน


พร้อมขอให้รัฐบาล ออกกฎระเบียบ เพื่อควบคุมคุณภาพทุเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าด้อยคุณภาพเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะระดับความแห้ง และการป้องกันผลอ่อน และขอให้รัฐบาลช่วยเจรจาประเทศคู่ค้าทำให้ทุเรียนไทย สามารถส่งไปยังปลายทางได้อย่างรวดเร็ว เพราะหากยิ่งขนส่งช้าก็จะยิ่งเกิดความเสียหาย โดยมั่นใจว่าหากรัฐบาลสนับสนุนเกษตรกรและชาวสวนอย่างเต็มที่ ผลไม้ไทยก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศได้ ไม่ต่ำกว่าปีละ 500,000 ล้านบาท จากเดิม 200,000-300,000 ล้านบาท พร้อมขอบคุณรัฐบาล ที่ช่วยเจรจากับทางการจีนให้สามารถผ่อนปรนการส่งออกทุเรียน และผลไม้ผ่านด่านต่าง ๆ ได้


 

ขณะที่ นางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี พรรคประชาชน ได้ขอให้นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในระบบในพื้นที่ โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว ทั้งการเพิ่มอายุการทำงานจาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน และให้แรงงานต่างด้าว สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ เพื่อช่วยภาคเกษตรกร รวมถึงการแก้ไขปัญหาช้างป่า ที่เข้ามาทำลายพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกร และยังทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิต โดยขอให้นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลางราว 100 ล้านบาท เพื่อมาเยียวยาผู้เสียชีวิต และเยียวยาพืชผลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 

ด้าน น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลจะไปหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร และรัฐบาลพร้อมส่งเสริมการวิจัยเพิ่มเติม หรือการทำ R&D สินค้าไทย เพื่อให้สามารถต่อสู้กับสินค้าทางการเกษตรกับประเทศเพื่อนบ้านได้

ส่วนปัญหาสินค้าทางการเกษตรติดด่านของจีน โดยเฉพาะด่านโหย่วอี้กวน และโม่ฮานโดยใช้เวลา 8-12 วันนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก่อนหน้าที่รัฐบาลได้แก้ปัญหา โดยมีคณะทำงานร่วมระหว่างไทย-จีน เพื่อลดระยะเวลาการติดด่านแล้ว แต่หลังจากนี้ก็จะพยายามลดเวลาการติดด่านให้เหลือจำนวนวันที่น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับผลไม้ไทย โดยจะลดขั้นตอนต่าง ๆ ให้เหลือน้อยที่สุด และตรวจสอบคุณภาพให้ตรงตามเงื่อนไขของทางการจีน


นายกรัฐมนตรี ยังย้ำได้ว่า หลังจากนี้ตนเองจะไปติดตามการแก้ไขปัญหาช้างป่าด้วยตนเอง เนื่องจากมีความอันตรายต่อประชาชนในพื้นที่ด้วย และหากติดขัดปัญหาใด ตนเองก็จะติดตามจากผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีโดยตรงด้วยตนเอง

นายกรัฐมนตรี ยังได้ปลูกต้นทุเรียน เคียงข้างต้นทุเรียนที่นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เคยปลูกไว้เมื่อ 10 มิถุนายน 2565 ในโอกาสมาศึกษาดูงานที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะไปชมการสาธิตการเก็บทุเรียนแบบดั้งเดิม ที่ใช้กระสอบรับผลทุเรียน พร้อมลองการตัดผลทุเรียน ในโอกาสเดินทางเยือนสวนทุเรียน เพื่อรับฟังปัญหาของเกษตรกรด้วย