9 พฤษภาคม 2568 มีรายงานว่า ขั้นตอนการส่ง “หมายเรียก” หรือ หนังสือแจ้งข้อกล่าวหาไปยัง สว. ล็อตแรก 53 คน และล็อตต่อๆ ไปในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า รวมประมาณ 150 คน นั้น จะมีทั้ง สว. ผู้สมัคร สว. และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งระดับรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญของพรรคการเมืองบางพรรค
สำหรับกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหา ถือว่าเป็นไปตามกฎหมาย และเป็นการทำงานร่วมกันของ "กกต."กับ "ดีเอสไอ" และ "ปปง."
โดยเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ กับ ปปง.ที่ไปร่วมในคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน มีสถานะเป็น “เจ้าพนักงาน” ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 หรือ พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว. ตามที่ กกต.แต่งตั้ง และการแจ้งข้อกล่าวหา เป็นการใช้อำนาจของ กกต. ตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว.
การแจ้งข้อกล่าวหาเป็นหนังสือที่ออกโดย กกต. จะดำเนินการไปจนครบ 150 คน คาดว่าไม่เกินต้นสัปดาห์หน้า
จากนั้นทางฝั่งดีเอสไอ จะทยอยออกหมายเรียก สว. และผู้เกี่ยวข้อง เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “ฟอกเงิน” ซึ่งเป็นคดีพิเศษตามอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอ ในลำดับต่อไปทันที
คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนพฤษภาคมจะทยอยออกหมายเรียกได้ เพราะถือว่ากระบวนการเลือก สว. เชื่อได้ว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงมีมูลความผิดฐานฟอกเงิน
แหล่งข่าวระดับสูงจากดีเอสไอ เผยกับ “เนชั่นทีวี” ว่า การแจ้งข้อหาฟอกเงิน อาจพ่วงข้อหา “อั้งยี่” เข้าไปพร้อมกันด้วย เนื่องจากพฤติการณ์ของการกระทำความผิด มีลักษณะเป็น “คณะบุคคลที่มีการตระเตรียมการเพื่อกระทำผิดกฎหมาย”
สำหรับความผิดฐานอั้งยี่ บัญญัติอยู่ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 ระบุว่า “ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า ผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในคณะบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท”
นอกจากนั้น ความผิดฐานอั้งยี่ ยังเป็นหนึ่งใน 28 ฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงินด้วย เช่นเดียวกับความผิดฐาน “ทุจริตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา”
โดยในส่วนของความผิดฐาน “ทุจริตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา” กฎหมายฟอกเงินเขียนจำกัดไว้เฉพาะ “ความผิดเกี่ยวกับการกระทำการเพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใดๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิที่จะเลือกหรือได้รับเลือกหรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญความผิดมูลฐานว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 77"