"วันนอร์" เปิดสัมมนาสถานบันเทิงฯ ชี้ต้องให้ ปชช.ตัดสิน

:: “วันนอร์” ชี้ปฏิเสธ “บ่อน” ในประเทศไม่ได้ แต่ต้องให้ ปชช.ตัดสิน ::

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดการสัมมนา "Entertainment Complex: ก้าวใหม่ของเศรษฐกิจและสังคมไทย" ที่คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวควรมีการรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เพราะรัฐบาลก็มองเรื่องการฟื้นเศรษฐกิจให้กับประเทศทั้งการท่องเที่ยว และการลงทุน แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ก็มองว่า ขัดกับจริยธรรม และเป็นการมอมเมาประชาชน แต่ก็ยังมีอีกมุมหนึ่งที่ยังไม่มีใครพูดถึง ที่ความเป็นจริงนั้น การพนัน เป็นคำที่ใช้มาตั้งแต่โบราณ รวมถึงคำว่า “บ่อน” ด้วย และปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศมีบ่อนหรือไม่ แม้แต่จังหวัดไกล ๆ อย่างจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีบ่อนหลายแห่ง ทั้งที่ขัดต่อกฎหมาย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ก็มีบ่อยหลายแห่ง และ 70% ของผู้ที่เข้าไปเล่น คือ คนไทย ดังนั้น เมื่อจะออกกฎหมายก็ต้องพิจารณาความเหมาะสม ทั้งเหตุผล ข้อดี และข้อเสียที่จะต้องพิจารณาให้รอบด้าน

ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังเห็นว่า การมีบ่อนถูกกฎหมายนั้น ขึ้นอยู่กับกาลเวลา ซึ่งตนไม่ได้สนับสนุนว่าจะให้มีหรือไม่ แต่ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน และรัฐบาลเองก็มาจากประชาชน ผู้ที่คัดค้านก็คือประชาชน ดังนั้น จึงขอให้ตัดสินใจให้ดี

:: “ชัช เตาปูน” เสนอใช้แคชเชียร์เช็กป้องกันฟอกเงิน เชื่อสถานบันเทิงฯ จะมีประโยชน์มากกว่าโทษ ::

 

ขณะที่ นายชัชวาลย์ คงอุดม สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ตนเองสนับสนุนให้มีกาสิโนถูกกฎหมายตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว เพื่อนำรายได้และภาษีจากการดำเนินการไปส่งเสริมการศึกษาให้เด็กและเยาวชน รวมถึงนำไปเยียวยาเกษตรกรจากภัยธรรมชาติ ก่อนที่จะถูกทัวร์ลง พร้อมมั่นใจว่า สถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งรวมกาสิโนถูกกฎหมาย จะเป็นประโยชน์มากกว่าโทษ ทั้งส่งเสริมการจ้างงาน การกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนข้อกังวลที่มีงานวิจัยบ่งชี้จะเป็นแหล่งอาชญากรรมนั้น นายชัชวาล มั่นใจว่า จะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะผู้ที่เข้าไปใช้บริการจะต้องทุนทรัพย์ และจะไม่ใช่แหล่งฟอกเงิน โดยได้เสนอให้ใช้ระบบแคชเชียร์เช็คมาควบคุมการแลกเงินสำหรับผู้ที่จะเข้าใช้บริการกาสิโนมาควบคุม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และเพื่อให้ธนาคารสามารถตรวจสอบที่มาของเงินได้ พร้อมทั้งยังเสนอให้พ่วงการพนันออนไลน์เข้าไปด้วย เพราะปัจจุบันเด็กเยาวชนเล่นการพนันออนไลน์อยู่แล้ว คนละ 10-20 บาท ซึ่งรวมแล้วเป็นพันล้านบาทต่อเดือน จึงเสนอทำให้ถูกต้องรัดกุม เช่น ระบบการวางเงินประกันของผู้ประกอบการพนันออนไลน์ ที่หากไม่ดำเนินการตามข้อกำหนด ก็จะต้องถูกยึดเงินประกัน เป็นต้น 

:: ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ง.มั่นใจร่างกฎหมายมีกลไกป้องกันฟอกเงินเข้ม ปชช.เบาใจได้ ::

ด้าน นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ง. เห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีการ่างล่าสุดนั้น มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดหลายเรื่องตั้งแต่การขอรับใบอนุญาต ที่ผู้ต้องการประกอบการจะต้องมีทุนพอสมควร, ผู้ที่จะเข้าใช้บริการกาสิโน จะต้องซื้อบัตรแลกเข้า 5,000 บาท และมีเงินฝากในบัญชีฝากประจำ 50 ล้านบาทขึ้นไป รวมถึง ป.ป.ง.ยังมีส่วนสำคัญ ที่จะเข้าไปเป็นคณะกรรมการนโยบาย เพื่อกำกับให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามมาตรการที่ ป.ป.ง.กำหนดตั้งแต่การตรวจสอบผู้ประกอบการที่ต้องการจะขอประกอบธุรกิจกาสิโน การคัดกรองผู้เล่น บันทึกผู้เล่นตามที่กฎหมายกำหนด และผู้ประกอบการจะต้องรายงานธุรกิจทางการเงินของมายัง ป.ป.ง.เพื่อตรวจสอบและป้องกันการฟอกเงินด้วย พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการแฝงตัว หรือเปิดบัญชีม้า เพื่อลักลอบเข้าไปใช้บริการกาสิโนได้ ดังนั้น จึงเห็นว่า ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ฉบับนี้มีความเข้มงวด ประชาชนสามารถเบาใจได้ เพราะมีมาตรการกำกับ ป้องกัน และปราบปราม

ส่วนกลไกป้องกันการฟอกเงินของกาสิโนตามเนื้อหาในร่างกฎหมายตามความกังวลของภาคประชาชน มีเพียงพอแล้วหรือยังนั้น ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ง.ยืนยันว่า มีความเข้มข้น และมีมาตรการการป้องกันตามที่ภาคประชาชนมีความกังวลในสาระสำคัญ ตั้งการกระบวนการรับลูกค้า การแสดงตนมีบัตรประชาชน ระบุเวลาการใช้บริการ ถ้าเงินเกินอัตราที่กำหนดต้องรายงานกลับมาที่ ป.ป.ง. ดังนั้น จึงยืนยันว่า สถานบันเทิงครบวงจร จะไม่ถูกใช้ฟอกเงินอย่างแน่นอน

 

:: นักวิชาการ ชี้ รัฐบาลยังมึนหาที่ตั้งไม่ได้ แนะอย่าเปิดมากแห่งต้องทำคู่แข่งน้อยราย-ควบคุมได้ ::

ขณะที่ นายณัฐกร วิทิตานนท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ยกโมเดลธุรกิจกาสิโนในต่างประเทศ ทั้งที่รุ่ง และร่วง ซึ่งที่รุ่ง เช่น ในสิงคโปร์, ฮ่องกง, ดูไบ, ญี่ปุ่น และมาเก๊า ซึ่งกาสิโนจะรุ่งได้นั้น จะต้องมีมาตรการ มีเป้ามหายชัดเจน มีความรอบคอบใช้ระยะเวลานานในการศึกษา มีกระบวนการการมีส่วนร่วมของพื้นที่ และที่ร่วง อาทิ แอตแลนติกซิตี้ สหรัฐอเมริกา, สีหนุวิลล์ บ่อเต็น กัมพูชา และ สปป.ลาว ซึ่งปัญหาหลักเพราะไร้การดูแล เช่น สปป.ลาว ที่กฎหมายห้ามชาวลาวเข้าเล่น แต่ก็ยังพบชาวลาวเข้าไปใช้บริการ และมีสิทธิพลจีน ที่มีมาตรการป้องกันไม่ให้พลเมืองเข้าไปใช้บริการ รวมถึงถูกการพนันออนไลน์มาแย่งส่วนแบ่งด้วย

นายณัฐกร ยังเห็นว่า ในร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ก็ยังมีความลักลั่น เช่น เป้าหมายต้องการแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายในประเทศ แต่มีการกำหนดเงื่อนไขผู้เข้าใช้บริการจะต้องเสียค่าแรกเข้า 5,000 บาท และกำหนดให้มีเงินฝาก 50 ล้านในบัญชีเงินฝากประจำ ทั้งที่ประชาชนที่เล่นการพนันผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่ไม่เข้าเงื่อนไข และเล่นตามงานศพ และปัญหาสำคัญ คือ รัฐบาล ยังไม่ทราบว่า ต้องการจะเปิดสถานบันเทิงครบวงจรในพื้นที่ใด และในร่างกฎหมายก็ไม่ได้มีการกำหนดเงื่อนไขที่ตั้ง แตกต่างจากรายละเอียด ที่มีการศึกษาในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำหนดไว้ว่า สถานบันเทิงครบวงจร จะต้องอยู่ไม่เกินกว่า 100 กิโลเมตรของ 3 สนามบินหลัก และอยู่ในเมืองท่องเที่ยวหลัก เป็นจังหวัดชายแดน ที่มีจุดผ่านแดนถาวร แต่ร่างกฎหมายปัจจุบัน ยังไม่มีรายละเอียดดังกล่าว รวมถึงไทยเอง อาจจะมีการเปิดสถานบันเทิงฯ หลายแห่ง ซึ่งตามที่ปรากฏเป็นข่าว อาจจะมีถึง 5 แห่ง ซึ่งมองว่า อาจจะมากเกินไป แตกต่างจากญี่ปุ่น ที่กำหนดให้มีได้ไม่เกิน 3 แห่ง และปัจจุบัน กำลังจะเริ่มดำเนินการที่โอซาก้า เพียงที่เดียวเท่านั้น ซึ่งจะทำให้มีผู้แข่งขันน้อยราย และสามารถควบคุมได้