svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ DSI รับคดีฟอกเงินฮั้ว สว.เป็นเกมสับขาหลอก

“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ข้อหาสมคบฟอกเงิน เป็นอำนาจ DSI ไม่ต้องผ่านบอร์ดคดีพิเศษ แต่คดีหลัก กกต.ต้องวินิจฉัยชี้ขาดก่อน มอง "ทุจริตฮั้ว สว." หรือไม่ เป็นเกมสับขาหลอก มวยล้มต้มคนดู

6 มีนาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา “ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณี ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 3/2568 มีมติเห็นชอบให้รับคดี ความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ในคดี ฮั้ว สว.67 โดยระบุว่า ตนเห็นว่า ตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ข้อ 16 เป็นประเภทคดีที่ให้อำนาจของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีอำนาจสอบสวนเฉพาะอยู่แล้ว

กรณีให้บอร์ดกรมสอบสวนพิเศษ โดยใช้มติเพียงกึ่งหนึ่ง ไม่ใช่สองในสาม มาตรา 21(2) เป็นการสับขาหลอก โดยนำข้อเท็จจริง กรณีเป็นข้อสงสัยว่า ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนี้ มีมูลค่าตั้งแต่ 300 ล้านบาท จึงเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดตามนัย ข้อ 6 ของประกาศ กคพ. ฉบับที่ 8 ข้อ 6 เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ มาเป็นข้ออ้างผ่านบอร์ดคดีพิเศษ แม้ไม่ผ่านบอร์ดคดีพิเศษ กฎหมายให้อำนาจรับทำคดีได้อยู่แล้ว

“ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน
 

หากพิจารณาข้อกล่าวหา ในข้อหาหลัก ประเด็นว่า กรณีกลุ่ม 138 สว.กับพวกกระทำผิดทุจริตเลือก สว.ในปี 2567 หรือไม่  เป็นอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดของ กกต.โดยเป็นตัวชี้ขาดว่า กระทำผิดตาม พ.ร.ป.สว.หรือไม่ เพราะกระทำความผิด มาตรา 77(1) พ.ร.ป.สว.ย่อมถือว่าเป็นความผิดฐานฟอกเงินไปในตัว

ดังนั้น หาก กกต.ยังไม่วินิจฉัยชี้ขาดว่า มีการฝ่าฝืนกระทำผิดตาม พ.ร.ป.สว.มาตรา 77(1) หรือไม่  กลุ่ม สว.กับพวก ที่ถูกกล่าวหา ย่อมยกขึ้นต่อสู้ในชั้นสอบสวนได้ว่า กกต.ยังไม่ชี้ขาดว่า มีการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.สว.มาตรา 77(1)  เพราะกระทบต่ออำนาจฟ้องของพนักงานอัยการ
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ DSI รับคดีฟอกเงินฮั้ว สว.เป็นเกมสับขาหลอก


 

ดังนั้น แม้บอร์ดคณะกรรมการสอบสวนพิเศษ มีมติฝ่ากองไฟ ยังไม่กระทบต่อสถานภาพสิทธิของกลุ่ม สว.138 กับพวก เพราะ ต้องรอสำนวน กกต.ชี้ขาดก่อน เป็นเกมมวยล้มต้มคนดู เท่านั้น เพราะเพียง กกต.ยืนยันว่า กรณีฮั้ว สว.เป็นอำนาจหลักของ กกต.และดึงสำนวนไปทำเอง ถือว่า เกมปมฮั้ว สว.มันจบแล้ว ส่วนที่บอร์ดกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับทำคดีสมคบฟอกเงิน นั้น โดยเอาตัวเลข 300 ล้านขึ้นไปเป็นตัวตั้ง เป็นการแก้เก้อ เพราะความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน เป็นอำนาจเฉพาะ พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้ว ไม่จำต้องนำเข้าบอร์ดคดีพิเศษ

“เท่าที่ดู สีน้ำเงินชนะเกมนี้ ตั้งแต่ นายแสวง บุญมี แถลงว่า เป็นอำนาจของ กกต.”

ส่วนความผิดอาญาฐานอื่น ไม่ใช่อำนาจของ กกต. แต่จะต้องรับฟังพยานหลักฐานในคดีทุจริต สว.ว่ากระทำผิดตาม พ.ร.ป.สว.หรือไม่ ต้องให้ กกต.วินิจฉัยชี้ขาดก่อน เป็นเงื่อนไขบังคับก่อน ถึงจะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดี

ในมิติทางกฎหมาย พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ สามารถสอบสวนในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคล ที่กระทำผิดเป็นอั้งยี่ ที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งวุฒิสมาชิก เมื่อ พ.ศ. 2567 ก็ตาม แต่จะมีอำนาจฟ้องหรือไม่ ต้องรอสำนวนคดีทุจริต สว.ของ กกต.เป็นผู้ชี้ขาด หาก กกต.วินิจฉัยว่า กลุ่ม สว.138 กับพวก ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา หรือไม่มีพยานหลักฐานให้เพียงพอ กลุ่ม สว.138 กับพวกไม่ได้กระทำตามข้อกล่าวหา

โดย กกต.ยกคำร้อง ในคดีที่บอร์ดคดีพิเศษ รับสอบสวนคดีสมคบกันฟอกเงิน แม้ให้พนักงานอัยการร่วมสอบสวน ย่อมสั่งไม่ฟ้องหรือยุติดำเนินคดีเช่นกัน เพราะเนื้อหาในสำนวนหลักอยู่ที่ กกต.จะวินิจฉัยชี้ขาดไปในแนวทางใด เกมนี้ กลุ่ม สว.สีน้ำเงินได้เปรียบ เกมการเมือง เป็นมวยล้มต้มคนดู
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ DSI รับคดีฟอกเงินฮั้ว สว.เป็นเกมสับขาหลอก