svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ถอดรหัส "ดีเอสไอ"รับคดี "ฮั้วเลือกสว. ปมฟอกเงิน หวังผูกขาต่อรอง

นักวิชาการ ถอดรหัส "กคพ." มีมติรับคำร้อง"ฮั้วเลือกสว." กรณีฟอกเงิน เป็น"คดีพิเศษ" เชื่อมีการตกลงบางระดับ หวังผูกขา ต่อรองทางการเมืองในอนาคต

6 มีนาคม 2568  "ศ.ดร.เกรียงศักดิ์  เจริญวงศ์ศักดิ์"  ประ.ธานสถาบันการสร้างชาติและ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา ( IFD ) ให้ความเห็น กรณีที่ คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)  มีมติ รับดคีฮั้วเลือกสว.ในส่วนเข้าข่ายการฟอกเงิน เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่ได้รับในส่วนความผิดอั้งยี่ ซ่องโจร ไว้เป็นคดีพิเศษ ว่า ในความเห็นส่วนตน ก็เป็นที่ชัดเจน ว่า ดีเอสไอ พอจะมีวิธีอธิบายได้ว่า ทำไม  เป็นอั้งยี่ ซ่องโจร และฟอกเงิน 

“เพราะถ้าจะรับ ก็รับได้หมด หรือไม่รับก็ไม่รับได้หมด เพราะมีวิธีตกลงกันได้หลังฉาก จะเอาอะไรไม่เอาอะไร แต่ถ้าออกมาแบบนี้ว่า อั้งยี่ซ่องโจรไม่ใช่ แต่ว่า ฟอกเงินใช่ ก็คือว่า ตกลงกันได้บางระดับ ว่า ไม่เอาเรื่องอันนี้ แต่ผูกขาเอาไว้เรื่องฟอกเงิน แปลว่าไม่ได้ปล่อย เพื่อไว้ต่อรองกันต่อไป  “ 

"ศ.ดร.เกรียงศักดิ์  เจริญวงศ์ศักดิ์"  ประ.ธานสถาบันการสร้างชาติและ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา ( IFD )

รับสอบปมฟอกเงินอย่างเดียวเพื่อเอาไว้ต่อรอง

"ศ.ดร.เกรียงศักดิ์"  ขยายความ นิยามทางกฎหมาย ว่า กรณี อั้งยี่ ซ่องโจร เป็นกฎหมายโบราณ  แต่พอนิยามเอามาใช้ตรงนี้ได้ มันก็พิสูจน์ได้ ไม่ได้ก็แล้วแต่ผู้มีอำนาจในที่สุด ซึ่งกรณีอั้งยี่ ที่เขาปล่อย แปลว่าอะไร  ก็เพราะในเชิงผลลัพธ์ทางการเมืองหนักกว่าฟอกเงินเยอะเลย  และผลลัพธ์ทางโทษจะต่างกัน แสดงว่า เมื่อปล่อยเรื่องอั้งยี่ซ่องโจร ถือว่า ตกลงกันได้บางระดับ ในความเห็นผม ไม่ได้กล่าวหานะ เก็บไว้ผูกขา  เพราะกรณีฟอกเงินถามว่าพิสูจน์ได้ไหม ก็อาจพิสูจน์ได้บ้างแต่ยากมาก อยู่ที่กระบวนการตอนนั้น ผมคิดว่ามีการผูกไว้ ให้พอดูว่าไม่เป็นการปาหี่ แต่ผูกไว้เพื่อต่อรองในอนาคต"

ชำแหละกระบวนการทำคดีฟอกเงินยากกว่าอั้งยี่ 

ศ.ดร. เกรียงศักดิ์  ยังได้อธิบาย กรณีการรับทำเรื่องฟอกเงินที่บอกว่ายากคืออะไร ว่า  เนื่องจากจะพิสูจน์เงินมีอยู่จริงได้อย่างไร  แม้ ตามกม.ที่ระบุว่า  เป็นเงินที่มีอยู่ตามมูลความจริงแต่เส้นเงินทั้งหมด โยงไปถึงผลลัพธ์ ได้จริงๆหรือเปล่า จะพิสู
จน์อย่างไร อีกประเด็นตัวละคร เยอะเหลือเกิน  จะพิสูจน์ให้กระชับแน่นได้หรือไม่ว่า ใช่แน่ ๆ   อันนี้ เป็นช่องทางที่ยากมาอย่างไรก็ดี  แต่เมืองไทย ถ้าจะเอาก็ได้ก็เป็นดุลพินิจ หาวิธีดันเข้าไป แต่ถ้าไม่เอา ก็คือดุลพินิจเหมือนกันว่าไม่ได้  เพราะตัวละครมันเยอะยากมาก 

"ศ.ดร.เกรียงศักดิ์  เจริญวงศ์ศักดิ์"  ประ.ธานสถาบันการสร้างชาติและ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา ( IFD )

"นิยาม อั้งยี่ มันง่ายกว่า มีคนรวมเป็นกลุ่ม  ด้วยวัตถุประสงค์ทางลับเพื่อจะกระทำการบางอย่างที่เกิดขึ้น  ในขณะที่ การพิสูจน์ การฟอกเงิน  อาจจริง เป็นจุดๆ แต่ต่อสะพานเชื่อม รอยต่อมีหรือไม่เชื่อมได้ไหม ยากที่จะพิสูจน์ แต่ถ้าเอาจริง มีมูลจริง สมมตินะ อยู่ที่จะเอาไหม ฉะนั้นอยู่ที่ระดับอนุกรรมการในการชงประเด็นขึ้นมา ส่วนกก.ใหญ่ อาจเป็นผู้รับข้อมูลทั้งหมดที่อนุไปทำการบ้านมาให้ใช้วิจารณญาณตัดสิน คณะอนุกรรมการเวลาเขาทำอะไร จะทำระดับล่างไหม เพื่อให้อ่อนหรือเข้ม ตอนฟอกเงิน ก็เช่นกัน"  นักวิชาการท่านนี้ ชำแหละกระบวนการทำงานเรื่องนี้ ไว้อย่างน่าสนใจ

ศ.ดร. เกรียงศักดิ์   กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแปลว่าหลักฉากและหน้าฉาก ตกลงกันว่าผลลัพธ์ ให้ผูกไว้  ให้มีแรงต่อรองต่อไปในเรื่องฟอกเงิน ส่วนเรื่องอั้งยี่ซ่องโจรนั้นปล่อย แสดงว่า ตกลงบางระดับในเรื่องอื่น 

“ผมไม่ได้กล่าวหานะ ว่าทุกคนสั่งได้หมด แต่ผมคิดว่า เป็นวีธีการเล่นคณิตศาสตร์ในองค์คณะ ผู้มีอำนาจที่เขาจะต้องไปชักใย ใครได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ขนาดไหน ไม่รู้ใครเป็นใคร ไม่ได้ว่าตัวบุคคล แต่ธรรมชาติการเมือง ต้องไปชักใย ถ้าเป็นการเมืองไม่ชักใยเป็นการเมืองที่ผิดปกติ การชักใยแบบน่าเกลียด  หรือไม่น่าเกลียด โจ๊งครึ้ม  หรือซ่อนไว้ ต้องพยายามชักใยในทางใดทางหนึ่ง แต่ไม่ได้แปลว่า ทุกคนแย่เสียเลย ไม่มี   และตัวละคร องค์กรอิสระ ทุกคนตั้งใจดี  แต่ว่าจะโดนขนาดไหนอยู่ที่บริบท ให้ทางออกเขาไหมในการอธิบายได้ว่า ทำไมมีความเห็นแบบนี้ แต่ไม่ใช่มีการสั่งแบบดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ คงไม่ได้ ปัญหามันอยู่ตรงเทาๆ ว่าจะออกแบบไหน ซึ่งผมคิดว่าจะออกที่รายบุคคล และวิจารณญาณของรายบุคคล"

การประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568