
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 โดยขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ญัตติดังกล่าว มีรายละเอียดระบุว่า พวกข้าพเจ้าเห็นว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติและไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารด้วยประการทั้งปวง ทั้งขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่จะแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชน
ส่งผลให้ทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศชาติ จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง บิดา ครอบครัว และพวกพ้องเป็นตัวตั้ง อยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหกหลอกลวง ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ล้มเหลวอย่างร้ายแรง ทั้งในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิปไตย ระบบบรัฐสภา เจตนา ตลอดจนปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นภายใต้การบริหารงานของตนเอง ทั้งยังทุจริตเชิงนโยบาย บริหารบ้านเมืองเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ความสามารถ หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไปเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งสำคัญอื่น
นอกจากนี้ยังสมัครใจ ยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ จากพฤติการณ์ดังที่พวกข้าพเจ้าได้กล่าวมา หากปล่อยให้บุคคลดังกล่าวยังคงบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไป ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ยากจะแก้ไขเยียวยาได้
จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดบรรจุญัตตินี้ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยด่วน ส่วนเหตุและรายละเอียดต่าง ๆ จะได้แถลงและชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
นอกจากนี้ ฝ่ายค้านได้ยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบรัฐมนตรีอีก 9 คนด้วย
ต่อมา เมื่อเวลา 10.45 น. แพทองธาร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าสภาฯ ครั้งแรก ตรงวันฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอก ยืนยันตอบได้ทุกเรื่อง เผยส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากพรรคร่วมหลังตกเป็นเป้าคนเดียว หวังไม่ถูกลอยแพ บอกมือใหม่ตอบคนเดียวไม่ไหว ต้องตั้งองครักษ์ช่วย
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารรัฐสภา เวลาประมาณ 10.45 น. ซึ่งถือเป็นเดินทางเข้ารัฐสภาครั้งแรกในปี 2568 โดยได้ยกเลิกภารกิจประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ โดยได้กล่าวถึง กรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พุ่งเป้าไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว
นายกรัฐมนตรี ได้ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า ทราบข่าวมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่การเดินทางเข้าสภาในวันนี้ได้วางแผนไว้แล้วตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ว่า จะเดินทางเข้าวันไหน แต่วันนี้บังเอิญตรงกับวันที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตนเอง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีภารกิจ แต่ก็หาเวลาว่างเพื่อที่จะเข้าสภา
ดังนั้น วันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดี พร้อมยอมรับว่า ไม่เกินความคาดหมายที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าอภิปรายมาที่ตนเอง ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน ซึ่งเคยพูดคุยกันแล้วว่าอาจจะเป็นแบบนี้ ส่วนการรับประทานอาหารค่ำกับพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีรายชื่อว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีถึง 10 คนนั้น ตนเองก็ทราบรายงานตามข่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติในหัวข้อ “ไม่ซื่อสัตย์สุจริต” ว่า ตนเองจะตอบได้ทุกข้อ แต่ถ้ามีเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงไหนก็จะให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงนั้นเป็นคนตอบ เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจน แต่ยืนยันว่า ตนเองพร้อมตอบอยู่แล้ว
ขณะที่การอภิปรายครั้งนี้มีการกล่าวหาว่า ตัวนายกรัฐมนตรี เป็นนั่งร้านให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่า พร้อมที่จะตอบ และไม่กังวลใด ๆ ที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย และทุกอย่างต้องยึดหลักกฏหมาย พร้อมย้ำว่า พร้อมที่จะตอบ
ส่วนญัตติของฝ่ายค้านรุนแรงหรือไม่ ที่กล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีวุฒิภาวะเป็นผู้นำ ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสีย และต่างชาติไม่เชื่อมั่น นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามนี้อย่างยิ้มแย้ม ว่า ต้องดูข้อมูลว่าต่างชาติไม่เชื่อมั่นอย่างไร ส่วนตัวเข้าใจ เพราะตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา เคยเป็นฝ่ายค้านมาร่วมกัน ดังนั้น จะตอบข้อสงสัย และจะตอบทุกข้อกล่าวหา พร้อมยอมรับว่า จะตั้งองครักษ์ขึ้นมาช่วยดูเรื่องการอภิปราย เพราะหากตอบคนเดียวอาจจะชี้แจงจนคอแห้ง ซึ่งในวันที่พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล หากประเด็นไหนเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีท่านใดก็จะให้ช่วยตอบ เชื่อว่าทุกกระทรวงอยากตอบ เพราะเป็นผลงานของแต่ละคน ส่วนเรื่องอื่นก็จะดูที่หน้างาน ซึ่งไม่ทราบว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ในหน้างานอาจจะมีหลายรูปแบบที่เกิดขึ้น ยืนยัน พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ปล่อยลอยแพตนเอง ซึ่งได้ส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือกับทุกคนแล้ว ว่า เป็นมือใหม่ยังไม่เคยโดนอภิปรายมาก่อน ดังนั้น ทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุน ถือเป็นกำลังใจ แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะได้พูดคุยน้อยกว่าพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อได้คุยแล้ว ก็ได้รับการสนับสนุนและได้รับความอบอุ่น ความน่ารัก จากหัวหน้าพรรคทุกคน ถือเป็นกำลังใจอย่างมาก
ขณะที่นายทักษิณ จะเป็นหัวหน้าองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีด้วยตัวเองหรือไม่ นางวาวแพทองธาร ตอบว่า “โอ๊ย ไม่แล้วค่ะ” นายทักษิณจะเป็นองครักษ์คงไม่ใช่ตอบคำถามในสภา แต่จะตอบคำถามเมื่อตนเอง สอบถามขอคำปรึกษาแนวทางการทำงาน ซึ่งนายทักษิณให้อยู่แล้ว 100%
ส่วนนายทักษิณได้ให้กำลังใจหลังฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายทักษิณโทรศัพท์มาตั้งแต่เช้า แต่ไม่ได้รับ จึงโทรศัพท์กลับไปหาก็ไม่รับ จึงยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่จะขอคำแนะนำจากนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะขอกำลังใจจากนายทักษิณอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายทักษิณ และ นายกรัฐมนตรี จะไปร่วมรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันที่บ้านพิษณุโลก สอดคล้องกับรายงานข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีเตรียมเข้าบ้านพิษณุโลกในช่วงบ่ายนี้เช่นเดียวกัน