svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ด่วน เช็กเสียง กคพ. ส่อวืด หรือ เลื่อนรับคดี “ฮั้ว สว.” เป็นคดีพิเศษ

จับตาประเด็นร้อนวันนี้ คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. ประชุมพิจารณาจะรับ “ฮั้ว สว.” เป็นคดีพิเศษหรือไม่ เช็กเสียงล่าสุดจะ "ส่อวืด หรือ เลื่อนรับคดี"

25 กุมภาพันธ์ 2568 จับตาประเด็นร้อน "ฮั้ว สว." จากกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI มีหนังสือ ลับ ด่วนที่สุด ที่ ยธ 0824/0050 ลงวันที่ 3 ก.พ.2568 แจ้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอทราบรายละเอียด เกี่ยวกับคำร้องแต่ละคำร้องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับไว้ดำเนินการ รวมทั้งขอทราบว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว 

ทั้งนี้ในเอกสารดังกล่าว แจ้งความคืบหน้าการสืบสวนสออบสวนปม "โพยฮั้ว สว." ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อปี 2567 โดยระบุชัดว่ามีพฤติกรรมฮั้ว ทำเป็นขบวนการ มีการจ่ายค่าจ้าง ความผิดเข้าข่าย "อั้งยี่" พร้อมเตรียมรับเป็นคดีพิเศษ 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มสว. ได้ออกมาตอบโต้ ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ "รัฐมนตรี" ที่กล่าวหา อั้งยี่ พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กรรมาธิการ 

ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ โดยคณะกรรมการ ประกอบด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รองประธานกรรมการ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา  เจ้ากรมพระธรรมนูญ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย  นายกสภาทนายความ และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง อีก 9 ราย ร่วมเป็นคณะกรรมการ

รวมทั้งมี พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการและเลขานุการ ในการประชุม มีวาระ การรายงานผลการดำเนินคดีสำคัญและการพิจารณารับคดีอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษด้วย ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคารกระทรวงยุติธรรม 

เช็กเสียง คณะกรรมการคดีพิเศษ

คณะกรรมการมี 22 คน การพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ในฐานความผิดที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติ ต้องเป็นการเสนอโดยอธิบดีดีเอสไอ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) ใช้เสียง 2 ใน 3 = 15 เสียงขึ้นไป (2 ใน 3 คือมากกว่า 14 เสียง) 

เช็กเสียงฝั่งที่ไม่น่าให้รับเป็นคดีพิเศษ ถ้าได้ถึง 7 เสียง โอกาสรับเป็นคดีพิเศษ = 0 

กลุ่มที่มีแนวโน้มไม่รับเป็นคดีพิเศษ

  • หัวหน้าหน่วยงานที่ปรึกษากฎหมาย
  • ปลัดกระทรวงที่มีรัฐมนตรีจากค่ายสีน้ำเงิน 
  • กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 1 คน 
  • คนในเครื่องแบบสีกากี ยังไม่เกษียณ 1 คน เกษียณแล้ว 1 คน 

รวม 5 เสียง

กลุ่มลังเล

  • กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกอย่างน้อย 1 คน (คนมีสี)
  • ผู้นำหน่วยงานเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย 

รวม 2 เสียง

กลุ่มกรรมการตัวจริงขาดประชุม หรืออาจไม่เข้าประชุม แล้วส่งผู้แทน

  • ปลัดกระทรวงการคลัง (ไปต่างประเทศ) 
  • ปลัดกระทรวงยุติธรรม (มีข่าวไปต่างประเทศ ยังไม่ชัด) 
  • ผู้นำหน่วยงานด้านการเงินของประเทศ (มีข่าวอาจไม่เข้าประชุม ยังไม่ชัด) 
  • ผู้นำหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม (อาจส่งตัวแทน) 

รวม 4 เสียง ตามมารยาท ผู้แทนจะไม่ลงมติ หรืองดออกเสียง 

บทสรุป โอกาสที่กรรมการคดีพิเศษจะลงมติรับคดี “ฮั้ว สว.” เป็นคดีพิเศษ โดยได้เสียงถึง 15 เสียงมีความเป็นไปได้น้อยมาก 

แนวทางที่จะดำเนินการต่อไป ดังนี้

  • ตัวแทนรัฐบาลที่ต้องการให้รับเป็นคดีพิเศษ ยืนยันเดินหน้า แต่จะเช็กเสียงหน้างาน 
  • ถ้าแนวโน้มโหวตไม่ผ่าน ก็จะเสนอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน เพื่อรอความชัดเจนจาก กกต. 
  • ถ้าสุดท้ายมีการโหวตแล้วมติออกมา “ไม่รับเป็นคดีพิเศษ” จะแก้เกมด้วยการให้ดีเอสไอส่งสำนวนพร้อมหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจ 

หน่วยงานตำรวจที่มีอำนาจหน้าที่ คือ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่ง กกต.ก็ขอความร่วมมือให้ตรวจสอบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเลือก สว.ด้วยเช่นกัน

บิ๊ก กคพ.สายการเมือง มั่นใจรับ “ฮั้ว สว.” คดีพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวอีกด้านหนึ่งของการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ที่จะประชุมกันช่วงบ่ายวันนี้ ว่าจะรับคดี “ฮั้ว สว.” เป็นคดีพิเศษหรือไม่ 

หลังจากกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา มีข่าวการล็อบบี้กันอย่างหนัก และมีความเคลื่อนไหวของ “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” เดินเกมด้วยตัวเอง ทำให้มีกระแสข่าวออกมาว่า มติของคณะกรรมการคดีพิเศษน่าจะยังไม่เคาะรับเรื่องนี้ไว้เป็นคดีพิเศษ ด้วยเหตุผล ดังนี้ 

  • ข้อกฎหมายยังไม่ชัด และ กกต.ยังไม่ได้สรุปว่าจะให้ดีเอสไอเดินหน้าคดีอาญาต่อ ตามพระราชบัญญัติประกอบรับธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ พ.ร.ป.กกต. มาตรา 49 หรือไม่ เพราะดีเอสไอทำงานสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ตามที่ กกต.แต่งตั้งให้เป็นเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. หรือ พ.ร.ป. สว.
  • กรรมการสายผู้ทรงคุณวุฒิ ยังเกรงปัญหาที่จะตามมา โดยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
  • กรรมการบางส่วนเอนเอียงไปทางฝ่ายสีน้ำเงิน 
  • กรรมการโดยตำแหน่งบางส่วน ซึ่งมาจากหน่วยงานสำคัญ อาจไม่เข้าใจประชุม เพราะไม่อยากอยู่ในวังวนความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมือง ไม่อยากเปลืองตัว เนื่องจากเรื่องนี้มีประเด็นทางการเมืองอยู่เบื้องหลังด้วย 

ทว่าล่าสุด “เนชั่นทีวี” ได้ตรวจสอบไปยัง “หนึ่งในกรรมการที่เป็นฝ่ายการเมือง” ได้รับการเปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวการล็อบบี้กันของบุคคลตามที่เป็นข่าวแล้ว แต่ทราบว่ากรรมการหลายคนไม่ได้หวั่นไหวไปตามแรงกดดัน เนื่องจากทางดีเอสไอได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าชี้แจงให้เห็นถึงความร้ายแรงของข้อกล่าวหาและการกระทำความผิด 

“กรรมการหลายคนที่มีข่าวถูกการล็อบบี้ ก็โทรศัพท์กลับมายืนยันว่ายังจะลงมติเหมือนเดิม คือ รับเป็นคดีพิเศษ ฉะนั้นจึงต้องรอดู ยังมั่นใจว่าสุดท้ายมติจะออกตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ” หนึ่งในกรรมการซึ่งเป็นฝ่ายการเมือง ระบุ