ปาย...บานปลาย กอ.รมน.ส่งวิทยุด่วน จับตาต่างชาติรุกไทย

ทำไมชาวยิวต้องอยู่ปาย?

มีประเด็นสืบเนื่องจากกระแส “ยิวยึดปาย” ว่าเหตุใด คนอิสราเอลจึงนิยมไปพำนัก ทั้งท่องเที่ยว และอยู่อาศัยที่เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งๆ ที่เดินทางค่อนข้างยาก ระยะทางไกล ไม่มีไฟลต์บินตรง 

 

1. สภาพภูมิประเทศและอากาศที่เป็นใจ

แหล่งข่าวจาก กอ.รมน. ระบุว่า ปายมีภูมิประเทศที่แตกต่างจากอิสราเอลอย่างสิ้นเชิง อากาศเย็นสบาย และอุณหภูมิในบางช่วงคล้ายกับฤดูที่ไม่ใช่หน้าหนาวของอิสราเอล ทำให้ชาวยิวที่เดินทางมาพักผ่อนรู้สึกสบายตัวและชื่นชอบบรรยากาศของที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวอิสราเอลที่เพิ่งปลดประจำการจากการเป็นทหารมักจะใช้ช่วงเวลาพักผ่อนเดินทางมายังปายเป็นจำนวนมาก 

 

2. จุดหมายปลายทางที่ได้รับการบอกต่อกันในหมู่ชาวยิว

แหล่งข่าวจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระบุว่า ปายกลายเป็น "Destination ยอดนิยม" ในหมู่นักท่องเที่ยวอิสราเอลจากการบอกต่อกันเอง ภูมิทัศน์ที่สวยงาม อากาศที่ดี และค่าครองชีพที่ไม่แพงมากนัก ทำให้ปายได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 

 

3. วัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ที่เข้ากันได้

อดีตเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นักท่องเที่ยวชาวยิวชื่นชอบปายเพราะที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพวกเขาหลายอย่าง ได้แก่  

- ผู้คนเป็นมิตรและอัธยาศัยดี  

- อาหารอร่อย โดยเฉพาะอาหาร "โคเชอร์" ซึ่งเป็นอาหารที่ถูกต้องตามหลักศาสนายิว ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย  

- ค่าครองชีพถูก ทำให้การใช้ชีวิตระยะยาวในปายเป็นไปได้โดยไม่ต้องใช้เงินมาก  

- ที่พักดีและบรรยากาศสงบ   

- มีโบสถ์สำหรับปฏิบัติศาสนกิจ  ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวยิวหลายคนเลือกปาย

ที่สำคัญคือ กิจกรรม “ล่องห่วงยางน้ำปาย” ในแม่น้ำปาย คือความฝันที่คนอิสราเอลต้องวิ่งตาม เป็นค่านิยมที่บอกเล่าต่อๆ กัน

 

กอ.รมน.วิทยุด่วนทั่วประเทศ สั่งตรวจต่างชาติรุกคนไทย

เรื่องต่างชาติรุกไทย ตั้งชุมชน ทำธุรกิจ ค้าขาย ศึกษาต่อ ประกอบศาสนกิจ จัดปาร์ตี้ ทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่สนใจคนไทย แย่งงานคนไทย ละเมิดสิทธิ์คนไทย ได้ขยายวงจาก “เมืองปาย” บานปลายไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงถูกต่างชาติยึด ในหลายภูมิภาคของประเทศ 

ล่าสุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. โดย ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 หรือ ศปป.2 ซึ่งรับผิดชอบเรื่องต่างด้าวโดยตรง ได้เรียกประชุมด่วน โดยมี เลขาธิการ กอ.รมน. ซึ่งก็คือ เสธ.ทบ. หรือ เสนาธิการทหารบก เป็นประธาน และมีวิทยุด่วน สั่งการตรงไปยัง กอ.รมน.จังหวัด และ กอ.รมน.อำเภอทั่วประเทศ ให้สอดส่องดูแลจุดล่อแหลม จุดเสี่ยงที่มีชาวต่างชาติเข้าไปตั้งรกราก ตั้งชุมชน หรือพำนักอาศัย ทำธุรกิจ หรือดำรงชีวิตแบบรบกวนคนไทย เพราะกำลังเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ และเป็นกระแสรุนแรงขยายวง 

โดยหลักการที่มีการสั่งการทางวิทยุด่วนทั่วประเทศ คือ 

1.ต้องระมัดระวังไม่ให้เรื่องนี้ขยายวง กลายเป็นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับมิตรประเทศ จากปัญหาการกระทบกระทั่งกันในระดับบุคคล หรือ ชุมชน 

2.ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ชาติเป็นสำคัญ คือ

มั่นคง - ต้องไม่กระทบกับความมั่นคง

มั่งคั่ง - ต้องระวังไม่ให้กระทบเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว

ยั่งยืน - ต้องสร้างความยั่งยืนในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ไม่ขัดแย้ง แตกแยก 

 

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าหน่วยงานภาครัฐและฝ่ายความม้่นคงเริ่มตื่นตัว จากปัญหาที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 

ต่างชาติไม่ได้รุกไทยที่ อ.ปาย เพียงแห่งเดียว แต่ยังเข้ายึด?

กรุงเทพฯ

• ห้วยขวาง  - จีน ซึ่งปัจจุบันขยายไปย่านรัชดาฯ เหม่งจ๋าย บางเขน (ใกล้ ม.เกริก) 
• นานา - อาหรับ, แขกขาว 
• บางรัก - คนผิวดำ 
• บางแค - เมียนมา (มีตลาดพม่า ซึ่งไม่มีคนไทยเลย) 

ภาคตะวันออก 

• พัทยา - เดิมรัสเซีย ปัจจุบัน “อินเดียยึด” 
• จันทบุรี - คนผิวดำ มาลี กานา โซมาเลีย 

ข้อมูลจากอดีตบิ๊ก ตม. เคยไปตรวจ พบกว่า 1,000 คน เป็นชุมชนใหญ่ ทำธุรกิจเพชรพลอย ตั้งครอบครัว มีภรรยาไทย และมีลูกเกิดในไทย 

ภาคใต้ 

• ภูเก็ต - รัสเซีย (บางส่วนเป็นมาเฟีย) 
• พังงา และใกล้เคียง - กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ค ฟินแลนด์ 

มีไดเรค ไฟลต์ (บินตรง) 

ภาคเหนือ 

• เชียงใหม่ - จีน 
• ปาย แม่ฮ่องสอน - ยิว อิสราเอล 

และจังหวัดประมง 

• สมุทรสาคร, ระนอง - จะพบเป็นชาวเมียนมา