“ภูมิธรรม” หารือทางโทรศัพท์กับ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 19.45 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือผ่านทางโทรศัพท์กับนาย Pete Hegseth (พีท เฮกเซธ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา

 

ซึ่งที่ผ่านมา รมว.สหรัฐฯ ได้มีการหารือทางโทรศัพท์เพื่อแนะนำตัว ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ และหารือด้านความมั่นคงร่วมกัน กับ รมว.กลาโหมในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

 

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ได้แสดงความยินดีที่ นาย Pete Hegseth ได้รับตำแหน่ง รมว.กลาโหมสหรัฐฯ รวมทั้งยืนยันการสานต่อและพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ ให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในฐานะที่ไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ของแถลงการณ์วิสัยทัศน์ระหว่าง ไทย - สหรัฐฯ ค.ศ.2020 ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศ (Joint Vision Statement 2020 for the Thai-U.S.Defense Alliance) รวมทั้งขอบคุณฝ่ายสหรัฐฯ สำหรับการสนับสนุนการจัดหายุทโธปกรณ์ทารทหารให้กับไทยผ่านโครงการต่างๆ และสนับสนุนที่นั่งศึกษาให้กับฝ่ายไทย อีกทั้งยินดีเป็นอย่างยิ่งหากทางสหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

 

นอกจากนี้ ไทยยังได้ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนที่นั่งศึกษาแก่กําลังพลของกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะภายใต้โครงการ “ไอ - เม็ท” (IMET) มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสําคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของกําลังพลให้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นํากองทัพที่มีคุณภาพและมีความเป็นทหารอาชีพ ตนจึงอยากขอให้ช่วยสนับสนุนโครงการดังกล่าวกับไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในด้านการศึกษาของกําลังพล เป็นเสมือนสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ทางการทหารที่มีมาอย่างยาวนาน รวมทั้งมีความสําคัญในการในการพัฒนาขีดความสามารถในการ ปฏิบัติการร่วมกับสหรัฐฯ และพันธมิตรในอนาคต 

 

“ขอบคุณสําหรับการสนับสนุนการจัดหายุทโธปกรณ์ทางการทหารให้กับกองทัพไทย ผ่านโครงการความช่วยเหลือแบบต่างๆ ตลอดห้วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ดังนั้น ผมจึงอยากขอให้สหรัฐฯ ดํารงและรักษาซึ่งภาพความร่วมมือต่างๆเหล่านี้ไว้ เพื่อให้ความเป็นพันธมิตรและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองชาติในภูมิภาค”

 

ขณะที่ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ได้ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน และมีความร่วมมือในหลายๆ ด้าน รวมทั้งยืนยันถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศ เช่น ประเทศไทย และขอยืนยันว่าสหรัฐฯ ยินดีให้การสนับสนุนไทย ซึ่งเป็นมิตรประเทศในด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หวังว่าจะได้พบกันในเร็ววัน 

 

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศร่วมกันอีกด้วย