4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ สำนักงาน กกต. เชียงใหม่ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์และ อดีตผู้สมัคร ส.อบจ.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ได้ไปแจ้งร้องเรียนเกี่ยวกับการนับคะแนน รวมถึงจำนวนบัตรเสียที่มีจำนวนมากในการเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนของ ผอ.กกต.เชียงใหม่เป็นผู้รับหนังสือ
-ขอให้มีการนับคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และยับยั้งการประกาศผลคะแนนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จนกว่าจะมีการตรวจสอบเหตุอันใดทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมเสร็จสิ้น
-ขอคัดถ่ายเอกสารแบบขีดคะแนนการเลือกตั้ง (แบบ ผ.ถ.5/6) และแบบรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้ง (แบบ ผ.ถ. 5/7) ของการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอดอยสะเก็ดเขตเลือกตั้งที่1 ในการเลือกตั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568
นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้รับมอบหมายจากทางพรรคประชาชนให้มายื่นเรื่องขอให้มีการนับคะแนน ในส่วนของบัตรเสียที่มีจำนวนมากกว่า 41,000 ใบถ้าเรามองจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาตัวเลขอาจจะใกล้เคียงกัน แต่ครั้งที่ผ่านมาที่การเลือกตั้งในวันอาทิตย์ มีประชาชนมาเลือกตั้งถึง 72%
แต่ในครั้งนี้เลือกตั้งในวันเสาร์มีประชาชนมาเลือกตั้งเพียง 66% ซึ่งถือว่าหายไปมากพอสมควร ทำให้เห็นว่าตัวเลขของบัตรเสียมีจำนวนสูงขึ้น ดังนั้นก็อยากจะให้มีการตรวจสอบว่าบัตรเสียทำไมมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้
เราอยากให้มีการตรวจสอบในภาพรวมและในส่วนของ ส.อบจ. ของเราจะมีการยื่นเรื่องในระดับเขตที่มีการเลือกตั้งแต่ละส่วนต่อไป ในวันนี้ก็มีของในส่วนของอำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งก็จะมีอีกหลายเขตที่จะทยอยยื่นให้กับทางกกต.
ข้อ 1.ก็คือมีการพูดถึงกระบวนการนับคะแนน ที่เราเห็นเอกสารที่หน้าหน่วยเลือกตั้งจะมีข้อมูลที่บอกว่าแบบไหนเป็นบัตรดีหรือบัตรเสีย ที่มีจำนวนเยอะมาก ซึ่งจุดนี้ก็จะสร้างความสับสนให้กับประชาชนเยอะพอสมควร
ข้อ 2.คือการขานบัตรเลือกตั้งซึ่งจากข้อมูลทราบว่าบางหน่วยเลือกตั้งมีการขานอย่างรวดเร็วและยังไม่ทันเห็นก็มีการเขียนคะแนนแล้ว ดังนั้นแล้วเราอยากให้ทบทวนจำนวนบัตรเสียกว่า 41,000 ใบ ให้อย่างถี่ถ้วนและมีการสอบถามว่าจำนวนนี้อาจจะมีบัตรดีหลงเหลืออยู่พอสมควร
ถ้าดูจากตัวเลข 41,000 ใบที่เป็นบัตรเสียไม่ได้ลดลงเลยดังนั้นทางกกต.ก็ควรจะให้คำตอบกับสังคมเนื่องจากวันนี้ที่เรามายื่นไม่ใช่เพียงแค่ประเด็นพรรคประชาชนเท่านั้นชาวจังหวัดเชียงใหม่ก็สนใจเช่นเดียวกัน ดังนั้นตนคิดว่ามันเป็นเรื่องของความกระจ่างและความโปร่งใสในการดำเนินการนับคะแนนอีกส่วนหนึ่งจะเห็นได้ว่าวิธีการนับคะแนนแบบนี้จะไม่ได้ตอบคำถามพัฒนาการทางการเมืองของประชาชนอีกต่อไป ทาง กกต.ก็ต้องมีการใส่นวัตกรรมเข้าไปในการดูแลเรื่องระบบการเลือกตั้ง
”การนับคะแนน 4 ปีก่อนก็เป็นแบบนี้ ปีนี้ก็ยังเป็นแบบเดิมดังนั้นแล้วก็ต้องตอบคำถามประชาชนว่าจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไรหรือจะมีการเสนอระบบเข้าไปที่สามารถตรวจสอบได้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไรรวมทั้งการเปลี่ยนวันจากวันอาทิตย์มาเป็นวันเสาร์มันกระทบอย่างแน่นอนทำให้ตัวผู้มาใช้สิทธิ์หายไปจำนวนมาก“นายพันธุ์อาจ
ด้านเจ้าหน้าที่ กกต.เชียงใหม่ ซึ่งผู้แทนของ ผอ.กกต.เชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า หนังสือที่ได้มายื่นในวันนี้ทางเราจะรับไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ทางผู้สมัครได้มายื่นมา ส่วนผลการตรวจสอบจะเป็นอย่างไรอาจจะต้องใช้เวลาซักเล็กน้อย เพราะต้องตรวจสอบว่าหน่วยที่ต้องการให้ตรวจสอบว่ามีการรายงานหรือปัญหาอย่างไร เมื่อได้ผลแล้วก็จะรีบแจ้งตามลำดับต่อไป
ทั้งนี้เราระเบียบเป็นไปตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตัั้ง ในส่วนของการนับคะแนนก็เป็นไปตามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการซึ่งเราได้อบรมให้ความรู้ไปเรียบร้อยแล้วแต่ในส่วนที่ท่านสมัครยื่นมานั้นหากจะจะขอให้ตรวจสอบในเรื่องของการนับคะแนนหรือการขานคะแนนอย่างถูกต้องมันก็จะมีระเบียบว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวนในส่วนหนึ่งที่จะให้ผู้สมัครได้ทำการทักท้วงหากเห็นว่าการขายคะแนนหรือการนับคะแนนของคณะกรรมการประจำหน่วยไม่ถูกต้องก็ขอให้ท่านได้ทำการทักท้วงกับการปฎิบัติงานในขณะที่นับ กรรมการประจำก็จะต้องหยุดและรับคำคำทักท้วงนั้นมาดำเนินการแล้วก็จะมีการบันทึกในสมุดหมายเหตุ แต่อย่างไรก็ตามตนยังไม่ทราบรายละเอียดข้างในจะเป็นอย่างไรบ้างในเบื้องต้นก็จะรับไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
เราจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดภายใต้ระเบียบที่มีอยู่เนื่องจากว่าต้องให้ทางผู้อำนวยการเป็นผู้สั่งการให้กลุ่มงานสืบสวนเข้าไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตามในตอนนี้เราก็ได้รวบรวมคะแนนที่ประกาศไว้ต่อสาธารณะชนส่งไปรายงานให้กับทางคณะกรรมการการเลือกตั้งเราขอให้คำมั่นสัญญาว่าทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายทุกอย่างจะเร่งรัดให้อยู่ภายในกรอบเวลา ในส่วนของบัตรเสียที่จำนวนมากเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเราก็พยามหาสาเหตุสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่