19 มกราคม 2568 ในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. ของพรรคประชาชน ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวว่า การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นมีความสำคัญมากเพราะใกล้ตัวที่สุดในการดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ว่าถนนหนทาง น้ำไหลไฟสว่าง ความปลอดภัย รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.นี้คือการเลือก นายก อบจ.และ ส.อบจ. พรรคประชาชน ได้ส่ง นายนิรันดร์ จินดานาค เบอร์ 2 และทีม ส.อบจ.เป็นตัวแทนในการนำนโยบายของพรรคไปขับเคลื่อน
"จังหวัดสงขลามีงบประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อปี หากย้อนไปสัก 10 ปีก่อน เวลาหาเสียงเขามักบอกกันว่า น้ำไหล ไฟสว่าง แค่นั้นพอ แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าไม่พอแล้ว เพราะเปิดน้ำมายังไม่พอแปรงฟัน เห็นสีน้ำออกมา ผมเองยังไม่กล้าล้างหน้า นี่คือคุณภาพน้ำตอนนี้ เราอาจยังไม่ต้องถึงขั้นกินได้ก็ได้ แต่เอาให้ใสสะอาดก่อนทำได้ไหม ตอนหาเสียงบอกได้ แต่พอเข้าไปแล้วบอกงบไม่มี อ้างว่าเอาไปสร้างถนนก่อน สร้างโน่นสร้างนี่ก่อน ที่จริงคือพี่คนนั้นพี่คนนี้ขอมา แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะได้ดูแลคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน" นายณัฐชา กล่าว
"เราจึงบอกว่างบประมาณทุกบาททุกสตางค์ ถ้าได้ใช้ตามความต้องการของพี่น้องประชาชนจะสามารถแก้ปัญหาได้ ตื่นเช้ามามีน้ำสะอาด ไปทำงานไปหาเพื่อนไปหาญาติมีการเดินทางที่สะดวก ไม่ต้องลำบากไปหาเงินทองมาซื้อรถเพราะขนส่งสาธารณะเข้าไม่ถึง ลูกไปโรงเรียน โรงเรียนในสังกัดอบจ. วันนี้ดีอยู่แล้ว ก็ต้องทำให้ดีขึ้น มีหลักสูตรที่ปรับให้สอดคล้องกับโลกที่หมุนอยู่ทุกวินาที มีความปลอดภัย เข้าถึงเทคโนโลยี เรื่องรายได้อาจเท่าเดิมแต่ถ้าค่าครองชีพถ้าลดลงได้ก็จะมีเงินเหลือเก็บ เจ็บป่วยใกล้หมอคือไปแล้วได้เจอหมอ มียาจ่ายให้ ไม่ใช่ไปไหนเจอแต่ปลาหมอคางดำ แบบนั้นไม่เอา สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ ไม่ใช่บอกงบไม่พอ รอไปก่อน รองบปีหน้า อยู่ระหว่างการพิจารณา รอแล้วรอเล่าจนหมดวาระขอโอกาสเข้าไปใหม่แล้วจะทำวนเวียนไปเรื่อยๆแบบนี้" นายณัฐชา กล่าว
"นายณัฐชา" กล่าวต่อไปว่า หากเราเปลี่ยนนิดเดียวในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะไปสู่สิ่งที่เราต้องการได้ภายใต้งบประมาณของ อบจ. โดยมี ส.อบจ.เข้าไปช่วย เข้าไปแก้ เข้าไปจัดการ เรามีทีมงานพรรคประชาชนไปช่วยกันทำ ไปช่วยกันแบ่งเบาภาระ ไม่ใช่ไปช่วยกันแบ่งเค้ก อยากให้พี่น้องประชาชนดูแผ่นพับนโยบายของพรรคแล้วลองจินตนาการดูว่า ถ้าสิ่งที่เขียนไว้เหล่านี้เกิดขึ้นจริงจะมีอะไรในชีวิตเปลี่ยนไปบ้าง สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของเราได้หรือไม่ สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของลูกหลานเราได้หรือไม่ ถ้าทำได้ง่ายนิดเดียว วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ มาลงทุน ร่วมหุ้นไปด้วยกันด้วยการออกไปคูหา กาเลือกเลือก นายก อบจ. และ ส.อบจ.จากพรรคประชาชน
"สิ่งที่เราจะลงทุนร่วมกันคือการเปลี่ยนแปลงอนาคต ลงทุนน้อยที่สุด แต่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตตัวเองได้มากที่สุด ที่สำคัญคือการลงทุนครั้งนี้ เราเลือกคนธรรมดาเดินดินกินข้าวแกง ต่อคิวขึ้นรถสองแถวแบบพี่นิรันดร์ ไปทำงาน เพราะเป็นคนที่รู้จักความเดือดร้อนเจ็บปวดแสนสาหัสของพี่น้องประชาชน คนที่รับรู้ความเจ็บปวดของประชาชนแบบนี้ ถ้ายังไม่สามารถบริหารหารจัดการแก้ปัญหาได้ ให้โทรมาบอกผม โทรมาบอกพรรค ถึงเป็นพรรคเดียวกันก็ไม่เอาไว้ แต่ที่ผมมาในวันนี้เพื่อยืนยันว่านี่คือคนที่พรรคการันตี เป็นคนที่พี่น้องประชาชนไว้ใจได้และทำงานเป็น เราไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง ไม่ได้เรียกผู้รับเหมาเรียกเครือข่ายพวกพ้องไปปิดห้องคุย เอางบ 1,500 ล้านบาทไปแบ่งกัน คุณเอาถนน คุณเอาตึก คุณเอาอบรมสัมนา พวกเราทั้งหมดในที่นี้เป็นเจ้าของงบประมาณจะยอมให้เขาไปปิดห้องคุยกันได้อย่างไร เราคือเจ้าของอำนาจ เราคือหุ้นส่วนที่แท้จริง ดังนั้น เวลามองป้ายหาเสียงต้องมองให้ทะลุไปถึงข้างหลังว่ามีใครยืนอยู่บ้าง เราไม่ยอมอีกต่อไปที่จะให้ใครจับมือลงขันกัน ปกติเห็นรบกันจัง พอมีเลือกตั้งรักสามัคคีกัน เพราะมันแบ่งกันลงตัวแล้ว บัตรเลือกตั้งมีแผ่นเดียวแต่ข้างหลังมีนายทุน ผู้รับเหมา ลูกหลานนักการเมือง ต่อคิวยาวเป็นหางว่าว แต่ของเรามีแต่ประชาชนเป็นเจ้าของงบประมาณที่แท้จริงที่จะมาเปลี่ยนแปลงจังหวัดสงขลาให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เลือกพวกเดิมก็อยู่แบบเก่า เลือกพวกเก่า ก็อยู่แบบเดิม เราจะจับมือกับประชาชนและไม่ทนกับการบอกว่าไม่มีงบช่วยเหลือประชาชน ไม่มีงบเพื่อความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอีกต่อไป" นายณัฐชา ระบุ