เปิดโผ ครม.อิ๊งค์ 1 "เขี่ยลุงบ้านป่า - เคลียร์สายเศรษฐา - ให้ราคา สส."

18 สิงหาคม 2567 มีรายงานความเคลื่อนไหวการตั้ง ครม.ใหม่ “อุ๊งอิ๊ง 1” ขณะนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และมีข่าวหลุดออกมาบ้างแล้ว โดยแหล่งข่าวระดับสูงในพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล เผยตรงกันว่า ครม.ใหม่ จะมีบางตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะโควตาของพรรคเพื่อไทยในสายนายกฯ เศรษฐา หรือบุคคลที่นายกฯ เศรษฐา เลือกเข้ามาเป็นรัฐมนตรี น่าจะหลุดเก้าอี้หลายคน เช่น 


"รมต.เพ้า" จักรพงษ์​ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำงานใกล้ชิดเป็นมือไม้ของนายกฯ เศรษฐา แต่ไม่ว่าจะมีการขยับ “รมต.เพ้า“ หรือไม่ ก็จะมีการเติมรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อดูแลงานด้านกฎหมาย นั่นก็คือ "อาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล" มือกฎหมายคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย  ซึ่งอาจเข้าไปแทนโควตาของ "พิชิต ชื่นบาน" ที่ลาออกไป 

พิชัย ชุณหวชิระ รมว.คลัง ซึ่งมีข่าวน่าจะถอยจากตำแหน่งนี้ ไม่ชัดว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร เกี่ยวข้องกับปัญหาการขับเคลื่อนโครงการดิจิทัล วอลเล็ต หรือไม่ 

 

สำหรับตำแหน่ง รมว.คลัง และรองนายกฯ เศรษฐกิจ มีข่าวว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยพยายามทาบทามนักธุรกิจและนักการธนาคารชื่อดังหลายคน ให้มารับตำแหน่ง แต่ยังไม่บรรลุข้อตกลง

เหตุนี้เอง ในรายชื่อโผแรก จึงมีข่าวว่าอาจจะดัน "จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" รมช.คลัง ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ แต่หากเลือกสูตรนี้ ก็ต้องมีรองนายกฯ คุมเศรษฐกิจอีก 1 คนอยู่ดี 

การปรับสลับตำแหน่งกันเช่นนี้ โควตารัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะยังเหลืออีก 1 เก้าอี้ มีข่าวว่า “หมอชลน่าน ศรีแก้ว” อดีต รมว.สาธารณสุข ที่หลุดเก้าอี้ไปจากการปรับ ครม.รอบที่แล้ว อาจได้กลับมา เพราะการปรับคุณหมอชลน่านออก สร้างแรงกระเพื่อมให้กับ สส.พรรคเพื่อไทยอย่างมาก เพราะมองว่าเป็นรายการ "เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" เนื่องจากหมอชลน่าน เสียสละเพื่อพรรคมากจากการตั้งรัฐบาลข้ามขั้วครั้งแรก 

 

รทสช.ยังไม่ลงตัว สลับเก้าอี้ “เลขาฯขิง - รมว.ปุ้ย” 

สำหรับพรรคร่วมรัฐบาล พรรคที่ต้องมีการปรับแน่ๆ คือพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมีตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย ว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง 

มีข่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งชื่อ "เลขาฯขิง" เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เข้าไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี แต่มี 2 สูตรคือ 

- เข้าไปนั่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง อาจจะเป็น รมช.สาธารณสุข 
- หรืออาจเข้าไปเป็น รมว.อุตสาหกรรม แทน "รมต.ปุ้ย" พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล แล้วเติมรัฐมนตรีช่วยเข้าไปอีก 1 คน มีชื่อ "ดร.แด๊ก" ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค คนสนิท "ลุงตู่" อยู่ในโผ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า ถึงคิวรับตำแหน่งรอบนี้หรือไม่ 


ล่าสุดวันเสาร์ที่ 17 ส.ค. มีภาพ ”ดร.แด๊ก - ธนกร“ ไปพบ “ลุงตุ่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในงานศพมารดาปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 

ส่วนการพิจารณาโควตารัฐมนตรีของรวมไทยสร้างชาติ มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคกันไปแล้วเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าว 2 กระแสคือ 

1.เลขาฯขิง จะเข้าไปดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม แน่นอนแล้ว 
2.ตำแหน่ง รมช.ที่ว่างอีก 1 ตำแหน่ง ยังตกลงกันไม่เรียบร้อย โดยมีการเสนอให้ “รมว.ปุ้ย” ขยับจาก “ว่าการอุตสาหกรรม” ไปเป็นรัฐมนตรีช่วย แต่กรรมการบริหารพรรคบางปีกไม่เห็นด้วย เพราะมองว่า “รมว.ปุ้ย” ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมา 1 ปีแล้ว น่าจะเปิดทางให้คนอื่นสลับเข้าดำรงตำแหน่งบ้าง ตามข้อตกลง “โรเตชั่น” 


ผวามาตรฐานศาล “รมต.ชะนักติดหลัง” เสี่ยงหลุดโผ 

มีรายงานด้วยว่า ขณะนี้เริ่มมีกระแสวิตกกังวลการตั้งรัฐมนตรีใหม่ในรัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง 1“ หากตั้งรัฐมนตรีเดิมบางคน อาจมีปัญหาคุณสมบัติหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่เคยโดนตรวจคุณสมบัติไปแล้ว ในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา (รัฐบาลลุงตู่) และศาลรัฐธรรมนูญรับรองว่า ไม่ขาดคุณสมบัติ แต่การยื่นคำร้องครั้งนั้น ไม่ได้ยื่นให้ตรวจสอบคุณสมบัติเกี่ยวกับมาตรฐานจริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ แต่เป็นการยื่นตรวจสอบในประเด็นเคยต้องโทษจำคุกในต่างประเทศ 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดขณะนี้ มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยเองก็หนักใจ เพราะมาตรฐานที่ศาลรัฐธรรมนูญวางไว้ในคดีสอยอดีตนายกฯ เศรษฐา ถือว่าสูงมาก และต้องยกระดับมาตรฐานการแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างชัดเจน

โดยรัฐมนตรีเดิมที่อยู่ในข่ายมีปัญหาเรื่อง “มาตรฐานจริยธรรม” ก็เช่น รัฐมนตรี ส. ในพรรคร่วมรัฐบาล (ไม่ใช่เพื่อไทย) เคยมีข้อครหาเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี

รัฐมนตรี พ. ของพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน เคยมีกรณีถูกให้ออกจากราชการ แต่ภายหลังได้อานิสงส์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทิน 

หรือแม้แต่คนที่มีข่าวจะได้รับแต่งตั้งเข้าไปใหม่ บางคนเคยโดนศาลพิพากษาในคดีชุมนุมทางการเมือง แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด แต่ในศาลล่างก็มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 

มีรายงานด้วยว่า นายกฯ อิ๊งค์ และอดีตนายกฯ ทักษิณ สั่งให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา โดยเฉพาะอุบัติเหตุจนตกเก้าอี้เหมือนอดีตนายกฯ เศรษฐา 

จับตา “เขี่ยบ้านป่า - ริบเก้าอี้ รมว.ทส.“ ผู้กองจองรองนายกฯ

อีกพรรคหนึ่งที่มีข่าวว่าจะปรับตำแหน่ง คือ โควตาของพรรคพลังประชารัฐ โดย "นายใหญ่เพื่อไทย" เตรียมลงดาบ "ลุงป้อม" พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เพราะไม่ยอมโหวตสนับสนุนนายกฯของพรรคเพื่อไทยแล้วถึง 2 คน (นายกฯ เศรษฐา และว่าที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง)
 

โดยเป้าหมายลงดาบ คือ ตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ซึ่งผู้ที่นั่งเก้าอี้นี้อยู่ คือ ”ลุงป๊อด“ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายแท้ๆ ของ ”ลุงป้อม“ 

มีข่าวว่าหาก “นายใหญ่เพื่อไทย” เดินเกมนี้ พรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของ “ผู้กองธรรมนัส” ซึ่งกุมเสียง สส.ส่วนใหญ่ของพรรค ก็จะดัน "สันติ พร้อมพัฒน์" จาก รมช.สาธารณสุข ขึ้นเป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์​ (รมว.พม.) ซึ่ง "สันติ" เคยเป็น รมว.พม. มาครั้งหนึ่งแล้วในยุครัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ 

ส่วนโควตารองนายกฯ ที่เดิม “ลุงป๊อด” ควบนั้น “ผู้กองธรรมนัส” อาจขอนั่งรองนายกฯ ควบ รมว.เกษตรและสหกรณ์ อีก 1 ตำแหน่ง


สำหรับ สส.สายลุงป้อม ประเมินกันว่า ล่าสุดน่าจะเหลือไม่ถึง 10 คน ซึ่งอาจทำตัวเป็น “ฝ่ายค้านในรัฐบาล” แต่เพื่อไทยก็เตรียมดึง 6 สส.พรรคไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาลแล้ว ซึ่งเป็นไปได้ทั้งเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ และคอยโหวตให้ในวาระสำคัญของสภา ซึ่งก็จะทำให้เสียงสนับสนุนของรัฐบาลไม่ขาดหายไป 

นอกจากนั้นยังมีพรรคประชาธิปัตย์อย่างน้อย  21 เสียง พร้อมเสียบร่วมรัฐบาลด้วย แต่การดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล จะต้องเสียเก้าอี้รัฐมนตรี 2 เก้าอี้ จึงอาจเกิดแรงกระเพื่อมมากกว่า ฉะนั้นหาก สส.สายลุงบ้านป่า มีไม่ถึง 10 คน ฝ่ายเพื่อไทยก็อาจใช้บริการ สส.ไทยสร้างไทย กับพรรคเล็ก มาอุดรอยรั่วแทน 

สำหรับข่าวการปรับ "วราวุธ ศิลปอาชา" รมว.พม. ไปเป็น รมว.ต่างประเทศ นั้น ล่าสุดจากการตรวจสอบกับ “รมว.ท็อป” โดยตรง เจ้าตัวเผยว่า ยังไม่ได้ข่าว และคาดว่าจะยังนั่งเก้าอี้เดิม