เปิดขั้นตอนเลือก "นายกฯคนที่ 31" จบ-ไม่จบ "อุ๊งอิ๊งค์-ชัยเกษม" ใครตัวจริง

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ทำให้ประเทศไทยต้องหานายกรัฐมนตรีคนใหม่มาดำรงตำแหน่ง ซึ่งทางสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 16 ส.ค. 2567 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี 

“เนชั่นทีวี”  เช็กท่าทีแต่ละพรรคการเมือง พบว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล จะเสนอชื่อ อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร  หลังจากเมื่อเย็นวันที่ 14 สิงหาคม จนถึงครึ่งวันเช้าที่ 15 ส.ค. มีการเสนอข่าวว่า พรรคร่วมสนับสนุน คุณชัยเกษม นิติสิริ  และช่วงเย็นวันนี้  ที่ประชุม กก.บห.เพื่อไทย จะลงมติ สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชิงเก้าอี้ "นายกฯคนที่ 31" 

ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน อย่าง "พรรคประชาชน" โดย เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคออกมาแถลงว่า พรรคไม่มีส่วนร่วมในการเสนอชื่อหรือสนับสนุนใครเป็นนายกฯ  ทั้งนี้อย่าลืมว่า โดยข้อเท็จจริง "พรรคประชาชน" ไม่สามารถเสนอแคนดิเดตนายกฯได้อยู่แล้ว เนื่องจากแคนดิเดตนายกฯ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตั้งแต่พรรคก้าวไกลถูกยุบพรรคไปเรียบร้อยแล้ว 

 

ดังนั้นภาพการประชุมสภาฯวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม ในการพิจารณาเลือกนายกฯคนที่ 31 จึงออกมาเป็น "พรรคเพื่อไทย" เสนอชื่อนายกฯให้ที่ประชุมสภาฯพิจารณาเพียงรายเดียว 

ขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี

 

ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 กำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 และเป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองได้แจ้งไว้ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เฉพาะจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง ที่มีสมาชิกได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

 

โดยการเสนอชื่อ จะต้องมี สส.รับรอง ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10  ของจำนวน สส.ที่มีอยู่ และมติของสภาผู้แทนราษฎร ที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องกระทำโดยการลงคะแนนแบบเปิดเผย ฐานรายชื่อรายบุคคล และจะต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวน สส.ที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

 

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะต้องตกลงกัน และทำหน้าที่ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ตามบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี โดยไม่สามารถใช้เงื่อนไขนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ ตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าว ได้สิ้นอายุการใช้งานไปแล้ว และกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการภายในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ดำเนินการในรัฐสภาเหมือนที่บัญญัติไว้บทเฉพาะกาล เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าวก็ได้สิ้นอายุการใช้งานไปแล้วเช่นเดียวกัน

 

สส. ปัจจุบัน 493 คน 

เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง 247 เสียง

 

**พรรคร่วมรัฐบาล 314 คน

พรรคเพื่อไทย 141 คน

พรรคภูมิใจไทย 70 คน (หยุดปฏิบัติหน้าที่ 1 คน)

พรรคพลังประชารัฐ 40 คน

พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 คน

พรรคชาติไทยพัฒนา 10 คน

พรรคประชาชาติ 9 คน

พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 คน

พรรคชาติพัฒนากล้า 3 คน

พรรคเสรีรวมไทย 1 คน

พรรคพลังสังคมใหม่ 1 คน

พรรคท้องที่ไทย 1 คน
 

**พรรคฝ่ายค้าน  179  คน

พรรคประชาชน  143  คน

พรรคประชาธิปัตย์ 25 คน

พรรคไทยสร้างไทย 6 คน

พรรคเป็นธรรม 1 คน

พรรคใหม่ 1 คน

พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 คน

พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า 1 คน

พรรคไทยก้าวหน้า 1 คน