
13 สิงหาคม 2567 "พรรคไทยภักดี" ประมาณ 7 คน นำโดย นายทศพล พรหมเกตุ เลขาธิการพรรคไทยภักดี เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เพื่อขอให้"กกต."ดำเนินการตรวจสอบย้อนหลัง "พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล" หรือ"พรรคประชาชน"(ปชช.) ถึงจำนวนการจัดตั้งสาขาพรรค ที่ไม่ครบทั้ง 4 ภาค รวมถึงขั้นตอนการรับบริจาค ซึ่งอาจกระทำผิดกฏหมาย กกต. และขัดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หมวด 8 มาตรา 91 (3) และเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนหรือไม่
บรรยากาศ "ทีมงานพรรคไทยภักดี" ใส่เสื้อสีเขียวสัญลักษณ์ของพรรคฯ เข้ามารอให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยมีสื่อมวลชนจากหลายสำนักมาทำข่าว ขณะที่ทีมงานพรรคฯ แจ้งว่า "นายวรงค์ เดชกิจวิกรม" ประธานพรรคไทยภักดี ติดภารกิจ ตจว.ไม่สามารถเดินทางมายื่นได้ด้วยตัวเอง
ด้าน "นายทศพล" กล่าวว่า หากย้อนกลับไปหนึ่งปี "พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล" ก่อนเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น"พรรคประชาชน" มีจำนวนสาขาในแต่ละปี และแต่ละภาคจำนวนเท่าไหร่ โดยขอให้กกต. ตรวจสอบจำนวนสาขาให้ชัดเจน รวมถึงการรับบริจาคของพรรคประชาชนเข้าข่ายผิด ข้อ 42 ว่าด้วยระเบียบ กกต. หรือไม่ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนให้มีการเข้าใจผิดให้มาร่วมบริจาค
ทั้งนี้ให้ กกต. ชี้แจงว่า พรรคประชาชน หนังสือรับรองรายชื่อกรรมการบริหารพรรค และหนังสือรับรองในการเปิดบัญชีธนาคารชื่อพรรคฯ เพื่อรับบริจาค จาก กกต. หรือไม่ ซึ่งการรับรองจะต้อง มีระยะเวลาในการดำเนินการ ไม่ไช่จะรับบริจาคได้เลย หากฝ่าฝืน กกต.มีอำนาจ สั่งให้สาขาพรรคการเมืองสิ้นสภาพได้
นอกจากนี้ประเด็น "พรรคไทยภักดี"ไม่เห็นด้วย กับการที่พรรคประชาชน อาจจะซ้ำรอยพรรคก้าวไกล หากไม่ยอมลดเพดาน ม.112 เพราะเป็นการเซาะกรอนบ่อนทำลาย
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. " นายราเชน ตระกูลเวียง" อดีตหัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่ เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เช่นกัน เพื่อยื่นหนังสือให้ "กกต." ตรวจสอบ "พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล" หรือ"พรรคประชาชน" ว่า เข้าข่ายผิดระเบียบ กกต. และผิดกฏหมายอาญา ฐานหลอกลวงประชาชนหรือไม่
ด้าน "นายราเชน"กล่าวว่า การที่พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เปลี่ยนชื่อ เป็นพรรคประชาชน ได้มีการยื่น เปลี่ยนชื่อตามขั้นตอนของ กกต. หรือไม่ ซึ่งการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนโลโก้ และเปิดรับบริจาค นั้นจะต้องมีการประชุมใหญ่ แจ้งให้ กกต. รับทราบและอนุญาตเสียก่อน ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กกต.
ทั้งนี้ส่วนการรับบริจาค ในวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ชอบมาพากลในหลายประเด็น เพราะเงินเข้าบัญชี "พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล" ไม่ใช่ "พรรคประชาชน" ตามที่โฆษณา เป็นการหลอกลวงประชาชนหรือไม่ รวมถึงกกต. มีการรับรองให้รับบริจาค แล้วหรือไม่
นอกจากนี้การใช้ชื่อคำว่า"พรรคประชาชน" กกต. ควรเร่งตรวจสอบเนื่องจาก ทำให้เกิดข้อพิพาทและความขัดเเย้งในสังคมหรือไม่ การต้้งพรรคใหม่ของก้าวไกล เป็นการสร้างเครดิต เข้าข้างตัวเอง ว่าเป็นพรรคของประชาชน หรือเพียงคนเฉพาะกลุ่มตนเองหรือไม่ โดยก็ยังไม่ใช่ประชาชนทั้งประเทศ ประชาชนอีกส่วนเป็นประชาชนของพระราชา
โดย "นายราเชน" ยังฟันธงว่า พรรคประชาชน จะถูกยุบแน่นอน 10 ล้านเปอร์เซ็นต์ ส่วนตนมองว่าการตั้งพรรคประชาชน ก็ตั้งเพื่อให้ถูกยุบ จะเข้าทางของกลุ่มก้าวไกล เพื่อสร้างค่า สร้างความชอบธรรม ให้ได้รับคะแนนนิยมมากขึ้น เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่า ขัดต่อหลัก กกต.
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.30 น. "นายราเชน" ได้เข้ายื่นหนังสือถึง กกต. ผ่านเจ้าหน้าที่ที่ช่องรับ ส่ง - รับ หนังสือ ฝ่ายกิจการทั่วไป เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน หลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน "นายราเชน"เดินทางกลับ