
11 สิงหาคม 2567 ภายหลัง มีการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่าย ถึงการจัดตั้ง"พรรคประชาชน" มารองรับ 143 สส. อดีตพรรคก้าวไกล ว่า ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายพรรคการเมือง กระทั่ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความประกาศ เตรียมยื่น กกต. ขอให้ "ยุบพรรคประขาชน"
ล่าสุด นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตกก.บห.พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความแจกแจง ประเด็นดังกล่าวว่า
#พรรคประชาชน มีสาขาครบถ้วนทั้ง 4 ภาค คือภาคเหนือที่ จ.นครสวรรค์ ภาคกลางจ.ราชบุรี ภาคอิสานที่จ.สกลนคร และภาคใต้ที่จ.นครศรีธรรมราช ไม่งั้นกกต.คงไม่อนุญาตให้พรรคมีการตั้งกรรมการสรรหา จดแจ้งเปลี่ยนชื่อพรรคและธุรกรรมอื่น ๆ ข้อมูลที่หมอวรงค์เตรียมไปยื่นเป็นข้อมูลที่ไม่อัพเดท
เช่นเดียวกับ "ภคมน หนุนอนันต์" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความว่า "พรรคประชาชน"มีสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.สกลนคร, ภาคกลาง จ.ราชบุรี, และภาคเหนือ จ.นครสวรรค์ ดังนั้น เรื่องการตั้งสาขาพรรคเรามีครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดแน่นอน
แต่ข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ของ กกต.อาจจะอัปเดตฐานข้อมูลในช่วงรอยต่อของการยกเลิกสาขา ครบวาระ หรือตั้งสาขาใหม่ จึงทำให้ระบุสาขาพรรคไม่ครบถ้วน
"ภคมน" กล่าวต่อไปว่า ขอฝากถึง"คุณหมอวรงค์" ว่าได้รับข้อมูลอะไรมาอย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปและตีฟูเป็นประเด็น แต่ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน มิเช่นนั้นก็จะเกิดสถานการณ์หน้าแตกดังที่เห็น เข้าใจว่าการแพ้เลือกตั้งซ้ำซากหลายสมัยอาจทำให้คุณหมอรู้สึกหงุดหงิด ดังนั้นในการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ขอเชิญชวนให้คุณหมอมาลงสมัครด้วย จะได้รู้ให้ชัดว่าประชาชนยังคงสนับสนุนคุณหมออยู่ หรือชีวิตทางการเมืองของคุณหมอนั้นอวสานไปนานแล้ว
"พรรคประชาชนขอเตือนด้วยความหวังดีว่า การจ้องแต่จะร้องยุบพรรคคนอื่นคือวิถีของคนขี้แพ้ ที่ไม่สามารถชนะเลือกตั้งด้วยตัวเองได้ ขอให้คุณหมอเอาเวลาไปทำอย่างอื่นและใช้เวลาในการพัฒนาพรรคของตัวเองบ้าง น่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า" ภคมน กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2567 "นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม" ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความว่า ตามที่สื่อเสนอข่าวว่า พรรคประชาชนเกิดจาก การที่นำพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มาเปลี่ยนชื่อพรรค เนื่องจากพรรคการเมืองเป็นสถาบันสำคัญ ของระบอบประชาธิปไตย ต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้
จากการตรวจสอบผ่านเว็ปกกต. พบว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งเป็นพรรคต้นกำเนิด ของพรรคประชาชน มีสาขาพรรค3สาขา ภาคเหนือ 2สาขา และภาคกลาง 1 สาขา ไม่มีสาขาภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กฏหมายพรรคการเมือง กำหนดไว้ว่าพรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพ ถ้ามีสาขาพรรคการเมือง เหลือไม่ถึงภาคละ1สาขา เป็นระยะเวลาติดต่อกัน1ปี นั่นหมายความว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ต้องมีสาขาครบทั้ง 4 ภาค ห้ามขาดหายไปติดต่อกัน1ปี ถ้าไม่ครบพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลต้องสิ้นสภาพ
ข้อมูลหน้าเว็ปกกต. พบว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีสาขาพรรคเพียงแค่ 2ภาค ซึ่งไม่ครบ4ภาค และจัดตั้งตั้งแต่ปี 2555 เพื่อความโปร่งใส กกต.ต้องตรวจสอบและชี้แจง ให้ประชาชนได้รับทราบ รายละเอียดการมีสาขาในแต่ละปี
ถ้าพรรคถื่นกาขาวมีสาขาไม่ครบ4ภาค ติดต่อกัน1ปี จะเข้าข่ายการสิ้นสภาพของพรรคตามกฏหมาย นั่นหมายความว่าพรรคประชาชน จะไม่สามารถนำพรรคที่สิ้นสภาพ มาดำเนินการเปลี่ยนชื่อพรรคได้
"พรรคไทยภักดี" จะไปยื่นเรื่องดังกล่าว ให้ "กกต."ตรวจสอบ และดำเนินการต่อไปให้เป็นไปตามกฏหมาย