21 กรกฎาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความยินดี กรณีองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.ได้ผู้ชนะข้าวค้างสต็อก 10 ปี ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน ในโครงการรับจำนำข้าว สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ โดยระบุว่า
ปิดตำนานจำนำข้าว
ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ผมได้ลงไปตรวจข้าวล็อตสุดท้ายในโครงการรับจำนำข้าวซึ่งเป็นนโยบายช่วยชาวนาของรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในสังคมจนกลายเป็น “จินตนาการเกินเลยความจริง”
วันนี้ “ความจริง” ที่ปรากฏ คือ ทาง อคส. ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการประมูลข้าว ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล สรุปได้ว่า
1.ข้าวในคลังบริษัทพูนผลเทรดดิ้ง จำกัด หลังที่ 4 ซึ่งมีข้าวจำนวน 3,356.592361 ตัน ผู้ชนะการประมูล คือ บริษัทสหธัญ ให้ราคาเพิ่ม จาก 18.69 บาท เป็น 18.71 บาท ต่อ กก. มูลค่าเดิม 62,734,711.23 บาท เพิ่มเป็น 62,800,000 บาท
2.ข้าวในคลังกิตติชัย หลัง 2 ซึ่งมีข้าวจำนวน 11,656.654600 ตัน ผู้ชนะการประมูล คือ บริษัททรัพย์แสงทองไรซ์ ให้ราคาเพิ่มจากเดิม 15.62 บาท ต่อ กก. มูลค่า 182,040,000 บาท เป็น 18.00 บาท ต่อ กก. มูลค่า 209,819,083 บาท
สรุปรวมมูลค่าที่ขายได้นำเงินเข้ารัฐ รวม 272,619,083 บาท
จาก ”ความจริง”ของมูลค่าของข้าวล็อตสุดท้ายในโครงการรับจำนำข้าว ที่ปรากฎในวันนี้ ทำให้ผมอดที่จะจินตนาการย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนแล้วตั้งคำถามว่า ทำไมราคาประมูลขายข้าวในครั้งนั้นถึงมีราคาต่ำไม่ถึง 10 บาท/ กก ด้วยข้ออ้างว่าเป็นข้าวเน่า ที่ไร้การตรวจพิสูจน์
วันนี้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ซึ่งมีภาระหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องนี้ พยายามดำเนินกระบวนการทุกขั้นตอนให้เกิดประโยชน์กลับคืนสู่รัฐได้มากที่สุด
ถือว่าเป็นการปิดตำนานจำนำข้าว ด้วย “ความจริง”ที่พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัย มิใช่ “จินตนาการ”ที่ตั้งอยู่บน “อคติ” จนทำให้รัฐเสียประโยชน์มหาศาล
สำหรับโครงการรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2554 โดยมีการระบุว่า มีชาวนาได้ประโยชน์หลายล้านครัวเรือนที่ทำให้รายได้เพิ่มสูงขึ้น