พรรคประชาชาติประชุมใหญ่ จับตาท่าทีหลังมีกระแสข่าวเปลี่ยนตัวประธานสภา

21 เมษายน 2567 มีรายงานวันนี้ พรรคประชาชาติ จะจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ที่ห้องประชุม Grand meroz โรงแรมอัลมีรอซ กรุงเทพฯ นำโดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคประชาชาติ และ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ที่จะมีการปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "พรรคการเมืองกับระบอบประชาธิปไตย" 


รายงานระบุว่า นอกจากผลการประชุมใหญ่ตามวาระต่าง ๆ ของพรรคประชาชาติแล้ว สิ่งที่ต้องจับตาคือ ท่าทีของพรรคประชาชาติ หลังจากมีกระแสข่าวการเตรียมปรับ ครม. ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งแม้ตามกระแสข่าวในส่วนของ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะไม่มีรายชื่อที่ถูกปรับก็ตาม

 
 

แต่ในส่วนของตำแหน่งประธานรัฐสภาของพรรคนั้นกลับสั่นคลอน เพราะก่อนหน้านี้ มีกสะแสข่าวว่า ทางพรรคเพื่อไทย จะมีการโยก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาช่วยงานสภา ซึ่งอาจหมายถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ที่เป็นของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ถึงขนาดทำให้เจ้าตัวต้องออกมาพูดดักคอว่า แม้จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ แต่ขอชี้แจงว่า การปรับ ครม. กับตำแหน่งประธานสภา เป็นคนละเรื่องและไม่เกี่ยวกัน

 

"เพราะการปรับ ครม. เป็นอำนาจของนายกฯ แต่ตำแหน่งประธานสภานั้น เป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะต้องมีการเลือกกันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตามขั้นตอน และวาระการดำรงตำแหน่งของประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานฯ นั้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในข้อ 5 และ 6 ซึ่งชัดเจนอยู่แล้ว" 

โดยข้อบังคับและประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีการเปลี่ยนกลางคัน ยกตัวอย่างสมัยที่ตนเป็นประธานสภา ครั้งแรก 1 ปี โดยหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ในอดีตลาออก และมีการเปลี่ยนรัฐบาล และเปลี่ยนนายกฯ แต่ประธานสภาและรองประธานสภา ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง สามารถทำงานกับฝ่ายบริหารชุดใหม่ได้ ไม่มีปัญหา เพราะตำแหน่งประธานสภา มีความเป็นกลาง ไม่ใช่เครื่องมือของพรรคการเมืองใด

ยืนยันยังไม่มีส่งสัญญาณใด ๆ จากรัฐบาลมา และแม้จะส่งสัญญาณมา ก็เป็นสัญญาณที่รับไม่ได้ เพราะตอนนี้ ไม่มีเหตุใด ๆ ที่จะต้องออกจากตำแหน่ง และหากตนปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ก็จะเป็นฝ่ายไปเอง เพราะตนยึดถือประโยชน์ของประชาชน ประโยชน์ของสภา และศักดิ์ศรีของประชาธิปไตย ที่จะต้องเป็นไปตามแนวทาง ไม่สามารถบิดเบี้ยวเพื่ออย่างใดอย่างหนึ่งได้