ชวนรู้จัก "หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช" ที่ถูกพาดพิงเรียกรับผลประโยชน์กลางสภา

กลายเป็นอีกวาทะร้อน ๆ กลางศึก สว.อภิปรายรัฐบาล ตามมาตรา 153 เมื่อ นายแพทย์พลเดช  ปิ่นประทีป สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายพาดพิงกระทรวงเกษตรฯ ว่า ได้รับการร้องเรียน "ชุดเฉพาะกิจพญานาคราช" มีการเรียกรับผลประโยชน์ ด้วยการอายัดยางพาราก้อนจากเอกชน ก่อนมีทีมสัมภเวสีเจอ จ่าย จบ เรียกรับกล้วยเป็นเครื่องเซ่น 1 กิโลแลกเคลียร์ถอนอายัด ซ้ำยังมีการกลั่นแกล้งคู่แข่งทางธุรกิจของพรรคพวกตัวเอง

งานนี้ทำเอา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เจ้ากระทรวงเกษตรฯ ถึงกับของขึ้น ท้าให้เปิดข้อมูล ก่อนจะมีการแฉกลับ

การออกมาพาดพิง "ชุดเฉพาะกิจพญานาคราช" กระทรวงเกษตรฯ ของ สว.ในครั้งนี้ จึงเป็นเหมือน "ช็อตฟีล" ครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านั้นไม่นาน "ชุดเฉพาะกิจพญานาคราช" เพิ่งมีการตั้งโต๊ะแถลงผลงานอย่างภาคภูมิใจ ทำให้ถูกมองว่า เป็นทั้งพระเอกและผู้ร้ายภายในวันเดียวกัน 

Nation STORY จะพาไปรู้จัก "ชุดเฉพาะกิจพญานาคราช" ว่าเป็นใคร มาจากไหน ก่อตั้งมาเพื่ออะไร มีหน้าที่อย่างไร และที่ผ่านมามีผลงานอะไรบ้าง....

 

สำหรับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช (Nakaraja Task Force) มีชื่อทางการว่า "ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย" แต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เริ่มปฏิบัติภารกิจเมื่อ 30 พ.ย. 2566 โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ในการเข้าตรวจค้น ดำเนินคดี ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่ออายัดทรัพย์ได้

มีการแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อร่วมปฏิบัติการ และสนับสนุนเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ สารวัตรประมง และสารวัตรเกษตร ในการเร่งรัดตรวจสอบ ติดตาม และจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรแบบผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการร่วมกับ ปปง. ในการเข้ายึดทรัพย์ และสำนักงานอัยการสูงสุด ในการดำเนินคดีทางกฎหมายผู้กระทำผิด 

ชุดปฏิบัติการเป็นโดยบูรณาการความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ และกรมประมง ปปง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานอัยการสูงสุด 

 

ตามโครงสร้างหน่วยฯ มี พ.อ.รวิรักษ์ สัตตบุศย์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ เป็น ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช และ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ อีกคนเป็น รอง ผบ.ฉก.พญานาคราช และเป็นโฆษกหน่วยฯ  

โดย พ.อ.รวิรักษ์ เติบโตจากนายทหาร ทบ. เหล่าปืนใหญ่ ในพื้นที่ ‘กองทัพภาคที่2’ เคยเป็น ผบ.ป.6 พัน.23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา, ผู้บังคับศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.22 อุบลราชธานี , รอง ปธ.สโมสรบาสเกตบอล จ.นครราชสีมา  


สำหรับปฏิบัติการของ หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ถือเป็น "หน่วยเฉพาะกิจ" ที่เน้นโฟกัสในการปราบ "สินค้าเถื่อน" ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบกระทรวงเกษตรฯ ขึ้นตรงกับ ร.อ.ธรรมนัส โดยต้องรายงานผลการปฏิบัติงานทุก 15 วัน เป็นหน่วย เฉพาะกิจที่มีโมเดลคล้าย "ฝ่ายความมั่นคง-กอ.รมน." ในการปฏิบัติงานกับส่วนงานต่าง ๆ 3 ฝ่ายหลัก "ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง" เพื่อครอบคลุมทุกมิติในการปราบปราม

สำหรับผลงานเด่น ๆ คือ การติดตามจับกุมปราบปราม หมูเถื่อน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช แจ้งความเอาผิดไปแล้วกว่า 220 คดี และอยู่ระหว่างตรวจสอบเบื้องต้นเพิ่มอีก 400 กว่าคดี มูลความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3-4 พันล้านบาท หรืออาจจะถึงหมื่นล้านบาท 


ผู้แทนกองทัพไทยแจงข่าวร่วมทีม “พญานาคราช” 

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ ถูก สว.อภิปรายพาดพิง “ชุดพญานาคราช”  ในสภา ช่วงอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา แหล่งข่าวจากกองบัญชาการกองทัพไทย ได้มีการชี้แจงดังนี้ 

1.กองทัพไทย ส่งผู้แทนร่วมชุดพญานาคราชจริง แต่ไปช่วยงานด้านการข่าวเท่านั้น ไม่ได้ร่วมปฏิบัติการจับกุม และตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ไปร่วมประชุมแค่ 2 ครั้ง ไม่ได้ร่วมจับกุมด้วยแม้แต่ครั้งเดียว ฉะนั้นจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับข้อกล่าวหาพาดพิงที่มีการอภิปรายกันในสภา 

2.มีการระบุชื่อ “พันเอกนายหนึ่ง” ว่าเป็นตัวแทนกองทัพไทย ร่วมในชุดพญานาคราช อาจทำให้เข้าใจผิดว่าไปร่วมปฏิบัติการจับกุมด้วย แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ไป เพราะไปช่วยงานด้านการข่าวเท่านั้น และเป็นพียงผู้แทนเข้าร่วมประชุม วันที่มีการแถลงข่าวตามที่ปรากฏภาพประกอบข่าว ก็ไม่มีผู้แทนของกองทัพไทยร่วมแถลงด้วย 

3.ชุดพญานาคราช มีคณะทำงานทั้งหมด 40 - 60 คน ไม่ใช่แค่ 6 คนตามที่มีการเสนอข่าว ฉะนั้นการนำเสนอข้อมูลเพียงบางส่วนอาจทำให้สังคมเข้าใจผิดได้ 

4.มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับตัวบุคคลในชุดพญานาคราช หลังจากมีข่าวเรียกรับผลประโยชน์ที่มีการอภิปรายพาดพิงในสภา จึงอาจทำให้เสียหาย สังคมเข้าใจผิดได้