สภาฯ เคาะเวลาอภิปรายทั่วไป ฝ่ายค้าน 22 ชม.-ครม.และพรรคร่วมรัฐบาล 6 ชม.

14 มีนาคม 2567 จากวานนี้ (13มี.ค.) ภายหลังที่ฝ่ายค้าน นำโดย "นายชัยธวัช ตุลาธน" สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 152 

แบ่งแล้ววันเวลาถกงบประมาณปี 67 

โดยผู้สื่อรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลา 15.00 น. ได้มีการประชุม คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2/2567 ที่มี "นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการดังกล่าว เป็นประธานประชุม  

ทั้งนี้ ได้สรุปสาระสำคัญ คือ การพิจารณากำหนดวันเวลาในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระที่  2-3 ตั้งแต่วันที่ 20 – 22 มี.ค. 67  พร้อมกำหนดกรอบการพิจารณาดังนี้

• 20 มี.ค. 67 เริ่มประชุมเวลา 09.00-10.00 น.
• 21 มี.ค. 67 เริ่มประชุมเวลา 09.00-24.00 น.
• 22 มี.ค. 67 เริ่มประชุมเวลา 09.00-18.00 น.  

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่คณะกรรมการได้พิจารณาวันเวลา ในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วาระที่ 2-3 แล้ว นายพิเชษฐ์ ได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอ "นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา" ประธานสภาฯ เพื่อทราบกำหนดวันเวลาดังกล่าว

"วันนอร์" ขอกำหนดถกงบวาระ 2-3 ใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า แต่ปรากฏว่า ประธานสภามีดำริว่า ควรกำหนดวันพิจารณา เป็นวันที่ 20 มี.ค. วันที่ 21 มี.ค. และวันที่ 25 มี.ค. เริ่มประชุมเวลา 09.00-18.00 น. เนื่องจากในวันที่ 21 มี.ค. ประธานสภา และ "นายปดิพัทธ์ สันติภาดา" รองประธานสภา คนที่ 1 มีกำหนดการไปปฏิบัติราชการ ณ ต่างประเทศ

ทั้งนี้ หากนัดประชุมในวันที่ 22 มี.ค. ตามเดิมแล้ว จะมีนายพิเชษฐ์ ที่เป็นรองประธานสภา คนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ประธานที่ประชุมเพียงคนเดียว ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ จึงมีดำริว่า ควรจะนัดประชุมเป็นวันที่ 25 มี.ค.67 แทน จะมีความเหมาะสมกว่า

ขณะเดียวกัน ประธานสภาจะเป็นผู้พิจารณากำหนดวันเวลาในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

สภาแบ่งเวลาอภิปรายเรียบร้อย 

นอกจากนี้ คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณากำหนดวันเวลาในการอภิปรายเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 152  ในระหว่างวันที่  3- 4 เม.ย. 67  

ขณะเดียวกัน ยังได้กำหนดกรอบเวลาการพิจารณา ดังนี้

- วันที่ 3 เม.ย. 67 เริ่มประชุมเวลา 09.00 น. แล้วพักการประชุมหลังเวลา 01.00 น. ก่อนเริ่มประชุมในวันถัดไป
- วันที่ 4 เม.ย. 67 เริ่มประชุมเวลา 09.00 – 23.00 น. โดยจัดสรรเวลา ดังนี้

• ประธานของที่ประชุม จำนวน 2 ชั่วโมง
• ครม. และพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 6 ชั่วโมง
• พรรคร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 22 ชั่วโมง
• ส่วนกรณีผู้ประท้วงให้หักเวลาจากฝ่ายของผู้ประท้วง

"เศรษฐา" พร้อมชี้แจงในการอภิปรายทั่วไป

ขณะที่ "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ที่กรุงเบอร์ลิน สมาพันธรัฐเยอรมันนี กรณีพรรคฝ่ายค้านยื่นอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพ ว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องถาม เพราะถือเป็นตัวแทนของประชาชน และตนเองก็เป็นตัวแทนของประชาชนเช่นกัน เพราะได้รับความไว้วางใจให้บริหารประเทศและพยายามทำอย่างเต็มที่

"เชื่อมั่นว่าทุกคนในรัฐบาลตอบคำถามได้ทุกคำถาม เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องตอบ และรัฐมนตรีทุกคนทำงานตัวเป็นเกลียว ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าตัวเองทำงานอะไร มั่นใจว่าทุกคนจะตอบคำถามได้ดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และยินดีที่จะไปตอบคำถามที่รัฐสภา พร้อมที่จะตอบทุกคำถาม แม้จะมีบางคำถามที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็พร้อมชื่อแจงตามหน้าที่ เพราะเป็นคนไกลตามระบบการปกครองที่ฝ่ายบริหาร" นายกฯ กล่าว 

ถือเป็นโอกาสดีใช้เวที่สภาตอบทุกคำถาม

ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติมีข้อข้องใจ มีความไม่สบายใจ หรือมีอะไรที่รัฐบาลชี้แจงไม่ชัดเจน ก็ถือเป็นเวทีที่การสนทนา ถือเป็นพื้นที่ปลอดภัยของทุกคน และสนับสนุนให้ใช้เวทีรัฐสภาในการพูดคุยกันอยู่แล้ว