svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เครือข่ายผู้ผลิตสุราไทย" ยื่นหนังสือถึง กมธ. 2 คณะ ต้านฉลากคำเตือนใหม่

28 กุมภาพันธ์ 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร" นำเครือข่ายผู้ผลิตสุราไทย เข้ายื่นหนังสือถึง กมธ. 2 คณะ ต้านรูปแบบฉลากคำเตือนใหม่ ด้านตัวแทนมองจะทำผู้ผลิตหาย-กระทบลูกค้า

28 กุมภาพันธ์ 2567 กำลังกลายเป็นเรื่องที่ให้ถูกตั้งคำถามโดยเฉพาะแนวคิดกับฉลากคำเตือนบนขวดสุราแบบใหม่ ให้มีขนาดใหญ่ 30% เพื่อหวังป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน จะช่วยได้จริงหรือไม่

โดยก่อนหน้านี้ "นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร" สส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ได้มีการโพสต์รูปฉลากคำเตือนแบบใหม่บนขวดสุรา เพื่อจำลองรูปแบบว่าหากออกมาแล้วจะมีหน้าตาหรือลักษณะเป็นอย่างไร

ซึ่งล่าสุดวันนี้ (28ก.พ.) นายเท่าพิภพ ได้นำตัวแทนเครือข่ายธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา นักวิชาการ รวมถึงสมาคมผู้ประกอบการนำเข้าและผลิตสุราแห่งประเทศไทย ผู้ผลิตไวน์ภายในประเทศ ยื่นหนังสือต่อ "นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และ "นพ.ทศพร เสรีรักษ์" สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ. สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้านและเรียกร้องให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง กรณีการติดฉลากเป็นรูปน่ากลัวบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

โดย นายเท่าพิภพ กล่าวว่า เรื่องการติดฉลากเป็นรูปน่ากลัว เพื่อควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นประกาศของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข ที่รับฟังความคิดเห็นอยู่ ถือเป็นประเด็นสำคัญในสังคม 

ทั้งนี้ มีโฆษกพรรคการเมือง และโฆษกของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรมควบคุมโรค ก็ไปบอกว่าตนบิดเบือนข้อมูลเรื่องนี้ ตนขอชี้แจงว่าหากไปดูตามมาตรา 26 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คณะกรรมการก็คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นั่งหัวโต๊ะ จะหาว่าตนบิดเบือนได้อย่างไรก็ไม่ทราบ 

"ทำงานก็มีวุฒิภาวะ ก็ต้องฝากถึง แต่ก็ชื่นใจ ที่มีคุณหมอทศพรมาด้วย มีตัวแทนทั้ง 2 ฟากฝั่งของการเมือง ฝ่ายค้านและรัฐบาล ก็น่าจะมีข้อสรุปที่ดีไปพิจารณา ซึ่งได้ยินแว่ว ๆ มาว่า เรื่องการติดฉลากนี้จะไม่ผ่าน ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี" นายเท่าพิภพ กล่าว

 

ด้าน นายเจริญ เจริญชัย ตัวแทนของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มสุราพื้นบ้าน และนักวิชาการ กล่าวว่า การที่ผู้ประกอบการไม่ค่อยจะกล้าออกมาพูด เพราะว่าส่วนมากทำงานเกี่ยวกับการผลิตเครื่องดื่ม ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานราชการที่ควบคุม เพราะฉะนั้น นักวิชาการก็ต้องเป็นหัวหอกนำหน้าให้

ขณะเดียวกัน มองว่า มาตรา 26 ของ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นปัญหา รวมถึงหน่วยงานราชการที่ดูแลกฎหมายเรื่องนี้ ไม่ได้สนใจเลยว่าประชาชนและผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบอย่างไร โดยที่ผลักดันกฎหมายออกมาอย่างสุดโต่ง เข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็น ถึงแม้จะอ้างว่าเป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็น

 

"แต่เราก็เชื่อว่าในการรับฟังความคิดเห็น ก็จะมีเครือข่ายสายต้านเหล้าระดมกันมาให้ความเห็นสนับสนุน ถือเป็นการโยนหินถามทางว่ารัฐบาลปัจจุบันนี้จะเห็นกับกฎหมายเหล่านี้อย่างไร เป็นการทดลองว่ารัฐบาลจะเอาด้วยหรือไม่ ผมประเมินว่าผู้ผลิตจะหายไปครึ่งหนึ่ง เพราะต้องเปลี่ยนฉลากใหม่ รวมถึงมีภาพที่เกิดผลกระทบต่อลูกค้า ที่จะนำสินค้าขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ บางทีก็อาจจะลือไปทั่วโลก ว่าไม่ต้องมากินเหล้าที่เมืองไทยแล้ว เพราะมันน่าเกลียด อยากให้ กมธ. เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ เพื่ออยากทราบวัตถุประสงค์ของการของกฎหมายฉบับนี้" นายเจริญ กล่าว

 

ด้านนายสิทธิพล กล่าวว่า กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการตรวจสอบติดตามในเรื่องนี้ ซึ่งตนจะนำไปประชุม เพื่อเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาชี้แจง และอยากฝากไปถึงรัฐบาลว่าอุตสาหกรรมผลิตเหล้าเบียร์ เป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ ที่ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ ที่สำคัญหากกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ต้องไปดูว่ากระทบกับเศรษฐกิจในระดับชุมชนหรือไม่ ผู้ประกอบการรายย่อยจะแข่งขันได้ยากขึ้น นำเสนอสินค้าได้ยากขึ้นหรือไม่ และประการสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลชุดนี้ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ตนคิดว่าประเด็นการกำกับด้วยฉลากรูปแบบต่างๆ จะต้องคำนึงถึงว่าส่งไปกระทบต่อซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลพยามผลักดันหรือไม่

 

"เป็นการสื่อสารไปในลักษณะตรงข้ามกับที่รัฐบาลจะผลักดันเรื่องซอฟต์พาวเวอร์หรือไม่ ผมเชื่อว่าหากมีเหตุผลที่ดีพอ รัฐบาลจะรับฟังและไปปรับปรุง การรักษาสมดุลของการรักษาสุขภาพ การคุ้มครองผู้ประกอบการ การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ก็เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องคำนึงถึง" นายสิทธิพล กล่าว

 

จากนั้น นพ.ทศพร ระบุว่า ตนจะพยายามเข้าไปดูสร้างความสมดุลกับเรื่องเศรษฐกิจกับสุขภาพของประชาชน ซึ่งต้องให้เกิดความสมดุลระหว่าง 2 ทาง และตนจะนำเรื่องนี้ไปทำงานกับรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม นายเท่าพิภพ ยังกล่าวตอนท้ายของการแถลงด้วยว่า นพ.ชลน่าน ดูแลกำกับข้าราชการได้ดีแค่ไหน การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งเดือนหน้าจะมีกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าสภา ตนและพรรคก้าวไกล ได้เสนอร่างยกเลิกร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับนี้ ตนคิดว่าข้าราชการออกกฎ ใช้กฎหมายเอง เป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม 

 

"ถ้ารัฐมนตรีที่เป็นเจ้ากระทรวงเอง มีความรับผิดชอบ มาจากการเลือกตั้ง มาจากฝั่งการเมืองต้องคำนึงถึงเรื่องนี้" นายเท่าพิภพ กล่าว

 

logoline