25 กุมภาพันธ์ 2567 ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวในทางการเมือง ภายหลังล่าสุดมีรายงานข่าว "นายอดิศร เพียงเกษ" ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว โดยจะแจ้งต่อที่ประชุมวิปรัฐบาล ในวันที่ 27 ก.พ.นี้
ขณะที่ มีกระแสข่าวว่า "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เตรียมแต่งตั้ง "นายวิสุทธ์ ไชยณรุณ" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในสมัยรัฐบาล "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ขึ้นมาทำหน้าที่ดังกล่าวแทน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ "วิสุทธิ์" เคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ยอมรับว่ายังไม่ได้มีการทาบทามจากผู้ใหญ่ในพรรค แต่ถ้าหากมีการสินใจให้เข้ามาทำงานในตำแหน่งดังกล่าว ก็พร้อมทำหน้าที่
สำหรับ "นายวิสุทธิ์" หรือ "เสี่ยมี่" นั้น ถือเป็น สส.พะเยา เขต 2 มาหลายสมัย ก่อนที่ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ได้ขอถอนตัวเพื่อไปลง สส.บัญชีรายชื่อ โดยเปิดทางให้กับ พล.ต.ต. ธรรมนูญ มั่นคง ผู้สมัคร สส. เพื่อไทย ในเวลานั้น ลงสนามระดับชาติแทน
โดยต้องมาแข่งกับ "ธวัช สุทธิวงศ์" รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา สายตรง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ก่อนผลปรากฏว่าพรรคพลังประชารัฐ สามารถกวาด สส. ไปได้หมดทั้ง 3 เขต จึงทำให้พรรคเพื่อไทยสูญพันธ์ ในพื้นที่ จ.พะเยา
สำหรับประวัติ "วิสุทธิ์ ไชยณุรณ" เกิดเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2501 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก เทคโนโลยีการเกษตรบัณฑิต สาขาสัตวศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ หรือ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ "วิสุทธิ์" เองยังถือเป็นหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง จ.พะเยา โดยเริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางการเมืองครั้งแรก เมื่อปี 2544 จากนั้นก็ได้รับเลือกตั้งเรื่อยมา
จนกระทั่ง 2554 จึงได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 2 และได้รับเสียงชื่นชมจาก สส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ว่าเป็นหนึ่งบุคคลทำหน้าที่เป็นกลางที่สุด
ทั้งนี้ "วิสุทธิ์" เคยเปิดใจเกี่ยวกับการทำหน้าที่ประธานสภาฯ ตอนหนึ่งกับ "โพสต์ทูเดย์" เมื่อปี 2555 ถึงการทำหน้าที่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
"ต้องยอมรับความจริงว่า ผมสังกัดพรรคการเมืองก็ต้องมีความช่วยเหลือจากรัฐมนตรีต่างๆ เป็นเรื่องปกติวิสัยของมนุษย์ หลายท่านเป็นคนที่ผมเคารพนับถือ มีความสัมพันธ์ส่วนตัวพอสมควร แต่เวลาทำหน้าที่ผมไม่เคยเอาความเคารพนับถือมาเกี่ยวข้องกับความยุติธรรม สองสิ่งนี้ต้องแยกจากกัน ไม่ว่าเป็นหนี้บุญคุณใครให้กองไว้ตรงนั้น นั่นเป็นเรื่องที่คุณไปติดหนี้เขา แต่ตอนวินิจฉัยบนบัลลังก์ต้องไม่สนใจใครทั้งนั้น"
นอกจากนี้ เจ้าตัวยังได้เล่าวีรกรรมที่ครั้งหนึ่งใน "ศึกซักฟอก" เพราะถึงขั้นเงื้อค้อนเตรียมทุบโต๊ะบนบัลลังก์เพื่อสยบ "พายัพ ปั้นเกตุ" สส.เสื้อแดง จากพรรคเดียวกันมาแล้ว
"ผมบอกให้แกนั่งลง เพราะที่ประชุมจะเข้าวาระเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว แต่แกไม่ยอมตะโกนเสียงดังสวนขึ้นมา ผมไม่นั่ง! ผมไม่ฟัง! ผมก็บอกว่าฟังผมก่อน เพราะที่คุณประท้วงทุกคนก็ประท้วงกันหมดแล้ว นั่งลงเถอะ เตือนครั้งที่ 3 แล้ว ยังตะโกนมา ผมหยิบค้อนเตรียมจะทุบแล้ว (เน้นเสียง) ถามไป คุณจะนั่งไม่นั่ง! เขาก็บอก ผมนั่งแล้ว (หัวเราะ)"
"ผมไม่อยากจะใช้หรอก เพราะถ้าทุบค้อนมันเหมือนกับการที่ประธานยืนขึ้น เป็นขั้นสุดท้ายที่บอกว่าคุณต้องหยุดแล้วนั่งลง ไม่เช่นนั้นก็ต้องหิ้วออกจากที่ประชุม แต่สถานการณ์บีบให้ต้องทำทั้งที่เป็นพรรคเดียวกัน ถามว่าเกลียดเขาไหม...ไม่ สนิทกันไหม...สนิท เขาเป็นรุ่นน้องผม เคยเรียนแม่โจ้มาด้วยกัน แต่วันนั้นผมต้องหยิบค้อน เพราะเขาทำไม่ถูก"
ทั้งหมดเป็นเพียงบางช่วงบางตอนทางการเมืองของ "วิสุทธิ์" หลังจากมีชื่อว่าจะได้มานั่งประธานวิปรัฐบาลคนใหม่
ที่มา
https://www.posttoday.com/politics/191170