24 กุมภาพันธ์ 2567 ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ก่อนที่จะเข้ามาพบได้มีการโทรเช็คกับอธิบดีกรมคุมประพฤติ ว่าสามารถเข้ามาพบได้หรือไม่ เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ตัวเองก็ได้มีการติดตามงานที่บ้าน และคิดว่ามาเยี่ยมเยียนนายทักษิณก่อนที่จะไปทำภารกิจที่บ้านพักทหาร และเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2567 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง
ส่วนการรับประทานอาหารร่วมกันกับนายทักษิณ โดยมื้อนี้ไม่ได้มีอาหารอะไรเป็นพิเศษมีเพียงก๋วยเตี๋ยวน้ำกุ้งและข้าวซอยเนื้อ
ส่วนนายทักษิณได้มีคำแนะนำอะไรบ้างหรือไม่ เกี่ยวกับการบริหารบ้านเมือง นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้พูดจาอะไรกันมากขนาดนั้น เพราะท่านก็ยังอ่อนเพลียอยู่อย่างที่เห็น ส่วนที่แขนเข้าใจว่าขยับได้บ้าง และอาการคงดีขึ้นเพราะมีความสุขที่ได้อยู่บ้าน หลังจากไม่ได้อยู่มา 17 ปีแล้ว ยิ้มแย้ม แจ่มใสดี อารมณ์ดี อย่างที่ตนได้เคยบอกไป ว่านายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความ Popular มากที่สุด ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะท่านเองมีความรู้สะสมมานาน
เมื่อถามว่านานทักษิณมีความเป็นห่วงหรือกังวลในการบริหารราชการหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้บอกอะไร ไม่ได้มีการวิจารณ์การทำงานของตนไม่มีเลย เพียงแค่ให้กำลังใจ
"ท่านบอกว่าวันนี้ผมอายุ 74 ปีแล้ว ทำงานหนักมาก็ป่วย นายกฯ เองก็ดูแลสุขภาพด้วยแล้วกัน ท่านได้ชี้ให้เห็นว่าชีวิต มีอะไรมากกว่าการทำงาน แต่มาตรงนี้แล้วเราเสียสละ มีความหวังกับพี่น้องประชาชนเยอะ ก็ต้องทำงานให้หนัก นี่คือความคิดของผมเอง และนายทักษิณได้บอกกับตนเองว่าให้พักบ้าง เห็นแต่เขาทำงานหนักเหลือเกิน" นายเศรษฐา กล่าว
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการเมืองและพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องพรรคร่วมรัฐบาลไม่มี ส่วนเรื่องของการเมือง ท่านทราบอยู่แล้วว่าตนเองสนิทกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็มีการต่อสายพูดคุยกัน นิดหน่อย เพราะอาทิตย์หน้าที่จะไปประชุมอาเซียนที่ออสเตรเลีย เมลเบิร์น ซึ่งท่านเองก็ได้มีการรู้จักกันมานานมาก รู้จักกันมาก่อนตนอีก
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยว่าให้นายทักษิณมาช่วยทำงานหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ได้พูดเลยวันนี้ให้ท่านรักษาตัวท่านเองก่อนดีกว่า มุ่งหมายหลักของท่านคือกลับมาให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดีกว่า กลับมาใช้ชีวิตปกติได้
เมื่อถามว่ายังใช้เวลาอีกนานไหมนายทักษิณจะหายจากอาการป่วย ตนไม่ทราบอาการของท่านตนไม่ใช่หมอ แต่จากที่ ได้สอบถามและ ดูอาการของท่านก็ดีขึ้น แขนก็พอขยับได้สีหน้าก็สดใสดี หลังจากที่ได้กลับมาบ้าน ซึ่งตนก็ไม่ได้อยากละลาบละล้วงถามว่า ท่านเจ็บตรงไหนอะไรยังไง แต่ว่าก็เหมือนคนป่วย
พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้พูดคุยถึงการ ให้นายทักษิณมาช่วยทำงานทางการเมือง มาช่วยบ้านเมือง แต่ท่านก็ยังมีความเป็นห่วงบ้านเมือง ยังบอกด้วยว่าเหนื่อยหน่อยนะ ปัญหาเศรษฐกิจมันเยอะตนก็บอกว่าครับไป ก็ยังทำงานต่อไปเรื่อยๆไม่ได้หนักใจอะไร ก็ขอให้ท่านรักษาร่างกายดีๆแล้วกัน
ส่วนนายทักษิณจะมาช่วยจนทำงานการเมืองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนี้ก็เป็นเรื่องของท่าน และเรื่องสำคัญที่สุดของท่านขณะนี้คือเรื่องสุขภาพ เรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าสุขภาพหรอก มีเงินมีอำนาจมากขนาดไหนถ้าเกิดสุขภาพไม่ดีก็ไม่มีความสุข ช่วงเวลานี้ท่านคงโฟกัสที่สุขภาพของท่าน ฟังจากที่ท่านพูดท่านคงอยากกลับมาเป็นคนปกติ อย่างน้อยแม้ไม่แข็งแรงเหมือนสมัยก่อน แต่อยากยังอยากใช้ชีวิตตามปกติดำรงชีวิตตามปกติ รวมถึง ครอบครัวด้วยที่พรุ่งนี้มีนัดทานข้าวกันในช่วงเย็น ซึ่งท่านก็ทานอาหารอ่อนๆ ก๋วยเตี๋ยวธรรมดา แต่ไม่ใช่กินแต่ซุปใส แต่ก็ไม่ใช่ของหนัก
ส่วนจะมีโอกาสมาเยี่ยมเรื่อยๆหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อาจจะเข้ามา อีกครั้ง ก่อนที่จะเดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่โอกาสแล้วแต่จังหวะ
และวันนี้เข้าเฝ้าฯ ไม่แน่ใจว่าจะได้พบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ถ้าเจอก็พูดคุยกันธรรมดา ท่านมีความกังวลตรงไหนตนรับฟังหมด เชื่อว่านายกในอดีตทุกท่านไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน ไม่ว่าจะมาด้วยวิธีไหนก็ตามที เชื่อว่าทุกท่านก็มีความหวังดีกับบ้านเมือง แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ท่านแนะนำมาจะทำได้หรือไม่ได้ ก็เป็นในเรื่องของบริบทการเมืองไทยในปัจจุบัน ก็มีขีดจำกัดต่างกันไปคนละสมัยกัน แต่เรื่องนี้เราคิดว่าต้องทำใจกว้าง
ส่วนที่นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะไปเยือนประเทศกัมพูชาความสัมพันธ์จะดีขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นไปได้อย่างเดียวคือดีขึ้น อย่างที่ทราบแขกสำคัญๆคนแรกที่มาเยี่ยมนายทักษิณคือสมเด็จฮุนเซน รู้สึกว่าท่านเองก็เป็นประธานองคมนตรี คุณอุ๋งอิ๊งเองก็เป็นหัวหน้าพรรคที่เป็นแกนนำของรัฐบาล เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งถ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีในแง่ของประเทศประชาชนต่อประชาชน ตนเชื่อว่าไม่มีอะไรเสียหายแน่นอน เราสนับสนุนและยินดีด้วย
สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นจะมีการเดินทางมาหานายทักษิณหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แล้วแต่ถ้าใครจะชวนอะไรมาตนก็ไม่ติดอยู่แล้ว อย่างที่บอกเราอย่าไปยึดติดว่าใครพรรคไหน ยึดกฎหมายเป็นหลัก และยึดประโยชน์ของบ้านเมือง เพราะทุกคนเองก็อยากเสนอแนะเรื่องของบ้านเมืองตลอดเวลา ตนเจอนักธุรกิจ เจอประธานหอการค้าไทย เจอประธานสภาอุตสาหกรรมไทย ทุกคนมีความหวังดีต่อประเทศ เรื่องที่เสนอมาขอมา หลายเรื่องทำได้ หลายเรื่องก็อาจจะมีขีดจำกัดอยู่บ้าง ก็ขอว่าถ้าหากมาพูดคุยแล้วเป็นประโยชน์ตนก็คงทำ ไม่ได้ติดขัดอะไร
เมื่อถามว่าวันนี้นั่งรถประจำตำแหน่งคันใหม่เป็นอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหมือนคันเดิมเปลี่ยนแค่สี