"ปิยบุตร" ให้กำลังใจ "พิธา-ชัยธวัช" เตรียมรับสถานการณ์ สู้คดียุบพรรค

2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่อาคารเครือเนชั่น ย่านบางนา นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวถึงทิศทางของพรรคก้าวไกล ที่จะเดินไปหลังจากนี้ ต่อความกังวลที่จะมีกระบวนการดำเนินการนำไปสู่การยุบพรรคว่า หลังจากนี้คงจะมีกลุ่มนักร้องไปยื่นเรียกร้องให้มีการยุบพรรคก้าวไกล โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยต่อการยุบพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดก็ตาม เพราะยิ่งยุบ เขาก็ไปตั้งพรรคใหม่ ตั้งแล้วก็โตอีก เห็นได้จากบทเรียนตั้งแต่ปี 2549 ที่มีการยุบพรรค แล้วตอนนี้ ยังจะมีการยุบพรรคอีกอย่างนั้นหรือ 

สำหรับประชาชน ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล หากเห็นว่าพรรคโดนกระทำ โดนรังแก และเห็นด้วยกับพรรค เขาก็มีวิธีแสดงออก โดยการเข้าคูหา ในปี 2568 จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ. ทั่วประเทศ ขอให้เลือกกันให้ขาด ในปี 2570 จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศ ขอให้เลือกกันให้หมดเลย เพราะถ้าประชาชนหากรู้สึกว่า พรรคก้าวไกลถูกกระทำ จะยิ่งเลือกพรรคก้าวไกล 

นายปิยบุตร กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่า กลุ่มผู้มีอำนาจยังเลือกใช้วิธีการแบบนี้ เพราะวิธีการเช่นนี้จัดการไม่ได้ หากมองว่าพรรคก้าวไกลเป็นปิศาจ แล้วก็ฆ่าให้ตาย แต่สุดท้ายฆ่าไม่ตาย กลับยิ่งทำให้เขาโตขึ้นอีก 

"ส่วนตัวให้กำลังใจทั้ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน แม้จะเจอแรงเสียดทานทางการเมืองเช่นนี้ เชื่อว่า คงจะมีการวางแผนเตรียมตั้งรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าไว้แล้ว ขอให้กำลังใจทั้ง 2 คน อยากให้ทำงานต่อ อยากเห็นคณะแกนนำของพรรคก้าวไกลชุดนี้ ได้บริหารประเทศ" นายปิยบุตร กล่าว

แกนนำคณะก้าวหน้า บอกอีกว่า ทั้งนี้ มีความกังวลว่า จากผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต่อประเด็นการห้ามแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะทำให้สมาชิกในพรรคก้าวไกลขัดแย้งกันทางความคิดว่า จะเดินต่อไปในประเด็นนี้หรือไม่ 

นอกจากนี้ นายปิยบุตร ได้วิเคราะห์ผลจากคำวินิจฉัยจะส่งผลต่อจุดยืนของพรรคจะไปในทิศทางไหนต่อ กรณีนโยบายแก้มาตรา 112 ซึ่งตนเองเคยผ่านประสบการณ์นี้จากพรรคอนาคตใหม่มาก่อน อาจทำให้พรรคก้าวไกล แตกเป็นสองความคิด

โดย นายปิยบุตร ให้เหตุผลว่า เพราะจะทำให้คนในก้าวไกล มีความเห็นด้วย กับไม่เห็นด้วย จะเดินหน้าแก้มาตรา 112 ต่อหรือไม่ ทั้งนี้ ก็คงต้องรอฟัง กก.บห.ก้าวไกล จะกำหนดทิศทางจากนี้อย่างไร จะพอแค่นี้เพื่อไปเดินหน้านโยบายอื่นดีหรือไม่ หรือจะพ่วงแนวทางแก้มาตรา 112 ต่อไป