14 มกราคม 2567 จากกรณี โซเชียลแชร์ภาพ นักเรียนชาวมอร์แกน ลุยน้ำไปโรงเรียน ล่าสุด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับรายงานถึงกรณีดังกล่าวแล้ว เป็นนักเรียนชาวมอร์แกน เดินทางไปโรงเรียนบ้านเกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง ที่ต้องลุยน้ำข้ามคลอง โดย นายอนุทิน ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที
ทั้งนี้ได้รับรายงานว่า นักเรียนโรงเรียนบ้านเกาะพยาม ปัจจุบันการเดินทางจะใช้โป๊ะชักรอกข้ามคลองในกรณีน้ำขึ้น ส่วนเมื่อน้ำลงนักเรียนสามารถเดินข้ามไป-กลับระหว่างโรงเรียนกับที่พักได้ และการเดินทางด้วยวิธีนี้ เป็นวิถีปกติของนักเรียนชาวมอร์แกน ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดรถรับส่งนักเรียน (รถอีแต๋น) เป็นระยะทาง 2.5 กิโลเมตร สำหรับนักเรียนชาวมอร์แกนเป็นประจำทุกปีการศึกษา
โดยได้รับงบประมาณ จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง และทางสำนักงานเขตพื้นที่ฯ มีการกำกับดูแลการดำเนินงานของโรงเรียน เกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางไปเรียนของนักเรียนทุกคนด้วย
ส่วนการดำเนินการช่วยเหลือ เกี่ยวกับการเดินทางของนักเรียนในระยะสั้น ปัจจุบันโรงเรียนอยู่ระหว่างการขออนุญาตสร้างทุ่นลอยน้ำข้ามคลองชั่วคราว กับองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพยาม และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระนอง และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อ แต่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยในชีวิตของเยาวชนต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเป็นการถาวร จึงจะใช้โอกาสที่มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีออย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ "ครม.สัญจร" ที่ จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค. 67 นี้ ลงพื้นที่ไปฟังถึงปัญหาต่างๆ พร้อมนำเรื่องที่เป็นข้อติดขัดเข้าหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในที่ประชุม ครม. เพื่อให้การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเกิดขึ้นเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้รายงานให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทราบเป็นข้อมูลในเบื้องต้นว่า โครงการก่อสร้างสะพานได้เริ่มขึ้นด้วยงบประมาณ ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณปี 2557 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะชาวมอร์แกนที่อาศัยอยู่บริเวณอ่าวเขาควาย ที่ไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนและรับบริการสาธารณสุขได้ในช่วงมรสุม
โดยหน่วยงานดำเนินการเริ่มแรกนั้น เป็นของอำเภอเมืองระนอง แต่ต่อมาได้เปลี่ยนไปอยู่ในการดูแลของสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดระนองเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในงานโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า จากนั้นเอกชนผู้รับจ้างก่อสร้างได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้ว แต่ต้องหยุดก่อสร้างไป เนื่องจากเกิดกรณีหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 46 แจ้งความดำเนินคดีบุกรุกป่า ด้วยงานก่อสร้างบางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลน จังหวัดระนอง
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา จังหวัดระนองได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การดำเนินการถูกต้องในข้อกฎหมาย เน้นการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดระนอง และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ จังหวัดระนอง เพื่อให้โครงการกลับมาดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้
“นายอนุทิน เน้นย้ำว่า การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ได้รับความปลอดภัย เป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่เนื่องจากท่านเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ไม่นาน และไม่รับทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อได้ทราบถึงปัญหาแล้วได้สั่งการแก้ไขทันที และย้ำว่าในยุคที่ท่านเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อะไรเป็นเรื่องความเดือดร้อนประชาชนจะต้องจัดการให้เร็วที่สุด
ท่านจึงจะใช้เวลาช่วงมีประชุม "ครม. สัญจร" ที่ จ.ระนอง เป็นโอกาสในการไปรับฟังเรื่องนี้ และนำเรื่องที่ติดขัดเข้าหารือกับที่ประชุม ครม. เพื่อนำไปสู่การร่วมกันแก้ไขปัญหา ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องในพื้นที่ ให้เข้าถึงบริการสาธารณะที่ดีและปลอดภัยโดยเร็ว" น.ส.ไตรศุลี กล่าว