"เฉลิมชัย" ลั่น ไม่ซูเอี๋ยใคร ให้เลิกบิดเบือน ปชป. ไม่มีวันเป็นพรรคอะไหล่

7 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ลานพระแม่ธรณี พรรคประชาธิปัตย์ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวก่อนการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ครั้งแรก วันนี้(7 ม.ค.) ว่า ถือว่าเป็นการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรก ของกรรมการบริหารชุดใหม่ ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้งรับรอง ซึ่งกรรมการบริหารทุกท่านก็มาสักการะพระแม่ธรณี ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค และเป็นประเพณีธรรมเนียมของประชาธิปัตย์ โดยจะมีการหารือถึงสภาพปัญหา ภาพรวมต่างๆ

รวมทั้งมีการแต่งตั้งคณะทำงาน ศึกษารูปแบบแนวทางในการดำเนินการต่อจากครั้งที่แล้ว ที่มีการหารือนอกรอบก่อนที่ กกต. รับรอง และดูทิศทางการเดินหน้าของพรรคประชาธิปัตย์จากนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากบุคคลภายในแล้วมีการทาบทามบุคคลภายนอกเข้ามาหรือไม่ ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า ขอให้รอดูการเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนขอยืนยันว่า ภายในการประชุมสามัญประจำปีครั้งหน้า จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ และวันนี้สิ่งหนึ่งที่อยากจะให้ทุกคนเริ่มเข้าไปติดตาม การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ทางโซเชียลต่างๆ ของพรรคที่มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

เมื่อถามว่า ประเมินการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้พูดชัดเจนในวันที่ประชุมใหญ่ของพรรคแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็งและสมบูรณ์ เมื่อเรามีหน้าที่ในการเป็นฝ่ายค้าน เราก็ต้องทำหน้าที่ในการตรวจสอบ ปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ 

“ขอฝากสื่อมวลชนทุกสื่อว่า ให้เลิกพูดคำว่า "ประชาธิปัตย์เป็นพรรคอะไหล่" แต่ขอให้มาดูความตั้งใจของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ เริ่มต้นจากการอภิปรายงบประมาณที่ผ่านมา จะเห็นว่าประชาธิปัตย์ทุกคน ทั้งคนใหม่คนเก่าทำหน้าที่ ทำงานอย่างเต็มที่  ติติงในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเสนอแนะในสิ่งที่คิดว่า ประเทศชาติจะได้ประโยชน์ นี่คือเป็นการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ และประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่เข้มข้นเช่นนี้ตลอดไป ขอให้รอดูในวันที่พูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้านในการดำเนินการของในสภาฯต่อจากนี้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

เมื่อถามว่า ในสภาฯที่ผ่านมา ถือเป็นการพิสูจน์ฝีมือฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า ความจริงเป็นเจตนารมณ์ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว สส.ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ แต่ถูกคนบิดเบือนจากความเป็นจริง ทั้งที่ประชาธิปัตย์ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ สมาชิกสภาผู้แทนของพรรค ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ก็มีการลงพื้นที่และบทบาทในการอภิปราย มีการทำงานอย่างเป็นทีม เป็นระบบ มี สส.ที่มีประสบการณ์คอยเป็นพี่เลี้ยงให้กับ สส.ใหม่ ตนเชื่อว่าหลังจากนี้พรรคประชาธิปัตย์จะกลับมา 

“ผมเคยพูดแล้วว่า ไม่ว่าเราจะทำหน้าที่อะไร เต็มที่ทุกอย่าง จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็ทำเต็มที่ จะทำหน้าที่รัฐบาลเราทำเต็มที่” ดร.เฉลิมชัย กล่าว

เมื่อถามถึง การโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณมีกระแสและประเด็นว่า มีพรรคงูเห่า ดร.ฉลิมชัย กล่าวว่า ต้องให้แต่ละพรรคไปดำเนินการเอง แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มี ทุกคนเห็นอยู่แล้ว และในบ่ายวันที่ 18 มกราคม 67 จะมีการนัดหารือกับผู้นำฝ่ายค้าน เนื่องจากตนต้องเดินทางไปต่างประเทศในสัปดาห์หน้า  

“ฝากด้วยนะครับว่า ประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่มีซูเอี๋ยกับใคร ประชาธิปัตย์ตั้งมา 77 ปีจะเข้าปีที่ 78 ไม่มีไปเป็นพรรคอะไหล่ให้ใคร และไม่เคยเป็นครับ” ดร.เฉลิมชัย กล่าวย้ำ

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. ช่วงหนึ่งในที่ประชุม นายเฉลิมชัย กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคที่สมบูรณ์ ทำงานได้ทันที หลังจากนี้จะสวมบทบาทของนักรบ พาพรรคเดินไปข้างหน้า และความเป็นเอกภาพสำคัญที่สุด เรามั่นใจว่า ในคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.พรรคชุดปัจจุบัน จะมีความเป็นเอกภาพมากที่สุด เพื่อจะได้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง อาจจะเหนื่อยกันนิด ถ้าผลตอบแทนคุ้มค่า ก็พร้อมที่จะเหนื่อย

ขณะที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค กล่าวต่อในที่ประชุมด้วยว่า กรรมการบริหารพรรคและ สส. ชุดนี้ เป็นชุดที่มีเอกภาพมากที่สุด หากเราเริ่มต้นด้วยเอกภาพ อย่างอื่นจะตามมาดีที่สุดอย่างแน่นอน การเป็นหนึ่งเดียวของพวกเราจะทำให้สามารถครองใจประชาชน ไปได้ทุกภาค และวันนี้ที่ภาคใต้กระแสตอบรับที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ดีมาก 

ส่วนข่าวที่ออกมาว่า ประชาธิปัตย์สูญพันธุ์หรือเป็นพรรคต่ำ 10 นั้น ขอให้อย่าวอกแวก ขอให้เดินหน้าสู้ ซึ่งพรุ่งนี้(8 ม.ค.) ได้ข่าวมาว่า จะมีผู้มาเข้าเป็นสมาชิกพรรคจำนวนมาก แต่เนื่องจากพรุ่งนี้ตัวเองติดภารกิจ จึงขอให้เลื่อนไปในวันต่อไป และทราบมาอีกว่า โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา มีสมาชิกเพิ่มไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ทำให้เห็นว่าชาวบ้านตอบรับพรรคประชาธิปัตย์อย่างดี 

ขณะเดียวกันก็ได้มีการพูดคุยกับ นายสุชัชวีร์ สุววรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ ว่าเร็วๆนี้เราจะมีการสัมมนาคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.ทั้ง 25 คน เพื่อให้ทุกคนมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน และจับมือกันเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ซึ่งคิดว่าเป็นแนวทางที่ดีมากขอให้เรามุ่งมั่นตั้งใจเชื่อว่าประชาธิปัตย์จะต้องกลับมาอย่างแน่นอน

หลังนี้ภายหลังการประชุม นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แจ้งการตอบรับการเปลี่ยนแปลงจาก กกต. ซึ่งมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 40 คนและที่ประชุมได้สรุปภาพรวมของการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ที่ สส.ได้ทำการอภิปราย โดยกรรมการบริหารพรรคได้ชื่นชมที่ได้ทำหน้าที่ในสภาฯอย่างเต็มที่ นี่จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า ปชป.ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็งตรงไปตรงมา ติติงมีข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์

กรรมการบริหารฯ มีการเตรียมถึงวาระต่อไปของสภาฯ ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งจะต้องเตรียมในการทำหนัาที่ฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์ โดยที่ประชุม มอบหมายให้ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค และนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคฯ รับผิดชอบในการดำเนินกิจการทางการเมืองเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ส่วนการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคที่จะเริ่มต้นในทันที เพื่อให้ประชาชนได้เห็นแม้จะมีการเปลี่ยน กก.บห.ชุดใหม่แต่ ปชป.มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างเต็มที่ และได้มอบหมายตำแหน่งสำคัญ โดยรองหัวหน้าพรรคทั้ง 5 คน 5 ภาคนั้น จะต้องมีการกำหนดกรอบการทำงานผ่านยุทธศาสตร์ภาค ยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อให้เห็นสภาพข้อเท็จจริงในแต่ละพื้นที่ และเพื่อให้เห็นรายละเอียดทั้งหมด แล้วนำมาประกอบการทำงานของพรรค เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทุกรูปแบบ

รวมถึงที่ประชุมยังให้ความสำคัญกับการตั้งตัวแทนสาขาพรรคในทุกจังหวัด เพื่อรุกการทำงานกับตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้มีทุกจังหวัด เพราะมองว่า เป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะให้ประชาขน ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับเขตเลือกตั้ง กับสมาชิกของพรรค เพื่อร่วมทำงานเต็มรูปแบบในการดูแลปัญหาของประชาขน เพราะส่วนกลางอาจจะทำงานอย่างละเอียดไม่ได้ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ต้องให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไข รวมถึงการร้องเรียนของประชาชนทุกเขตเลือกตั้ง ก็ต้องผ่านกระบวนการสาขาของพรรคด้วย 

ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำควบคู่ไปกับแนวนโยบายของหัวหน้าพรรค ในการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านกลไกการมีส่วนร่วมของพรรคการเมือง และจะต้องรณรงค์เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากที่สุด เพราะเราเป็นสถาบันทางการเมือง รากฐานของปชป.มาจากประชาชน และเพื่อให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมมากที่สุด

นอกนี้ กรรมการบริหารพรรคฯ ได้พูดคุยถึงการรณรงค์ให้ประชาชน ร่วมกันเสียภาษีให้กับพรรคการเมือง โดยปชป.จะทำแคมเปญให้ประชาชนมีส่วนร่วม บริจาคภาษีให้ ปชป. ผ่านรหัส 001 เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมด้วย

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงความเป็นสถาบันทางการเมือง ที่จะต้องทำงานร่วมกับ สส. เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม และมุ่งเน้นการทำงานอย่างมีเอกภาพ ทุกองคาพยพ ทั้ง กก.บห., สส., อดีต สส., อดีตกก.บห., สาขาพรรค ตัวแทนประจำจังหวัดและนายเฉลิมชัย ยังได้เน้นย้ำ เรื่องการเปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็น และรับฟังทุกเสียงสะท้อนที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วม โดยเสนอแนะให้ประชาชนเข้ามากำหนดทิศทาง ในการดำเนินกิจการทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์

อีกทั้งยังได้ให้ นายสุชัชวี สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ เข้ามาดูเรื่องการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้ทั้ง 77 จังหวัดให้มากที่สุด เพื่อการฟื้นฟูพรรค และเรียกศรัทธาให้กับพรรคได้มากที่สุด

นายราเมศ ได้ย้ำว่า พรรคเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ผ่าน สภาผู้แทนราษฎร หลังหลายฝ่ายตั้งคำถามเรื่องทำหน้าที่ไม่จริง และออมมือบ้าง แต่การอภิปรายที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ ในส่วนนักโทษที่มีที่พักที่โรงพยาบาลตำรวจ และมีการตั้งงบมานั้น ได้ใช้งบประมาณส่วนไหนอย่างเท่าเทียมกับนักโทษกว่า2แสนหรือไม่ เพราะประชาชนคงมาคำถามในเรื่องของการเลือกปฏิบัติ และถือว่ามีพรรคการเมืองเดียวที่พูดเรื่องนี้ด้วย เราเป็นฝ่ายค้านที่หน้าที่อย่างเข้มข้นตรงไปตรงมา เรื่องไหนทำถูกต้องก็ยินดี และหากไม่ถูกต้องก็ต้องท้วงติง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการตอกย้ำว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า มันเป็นคำถามที่ทุกคนพูดถึงมากเกินไป ซึ่งยืนยันย้ำว่า ปัจจุบันยังทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นอีกกิจกรรมทางการเมือง ที่ชี้ให้เห็นว่า เราเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และสร้างสรรค์ ส่วนประเด็นอื่นๆ ตนมองว่า เป็นการกล่าวหาพรรคและทำให้เสียหาย ทั้งพรรคมีความไม่ชัดเจน ซึ่งความชัดเจนนั้นได้ผ่านการกระทำและการปฏิบัติ

เมื่อถามว่า ในวันที่ 18 ม.ค.หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการหารือกับผู้นำฝ่ายค้านในประเด็นใดบ้างนั้น นายราเมศ กล่าวว่า การเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมกัน ถือเป็นเรื่องปกติของการที่จะพูดคุยกัน และพรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านที่กำหนดยุทธศาสตร์ และนโยบายพรรค เราก็แสดงความเห็นอยู่หลายครั้ง ไม่ใช่ว่า เป็นฝ่ายค้านแล้วเราจะเห็นด้วยในนโยบายของพรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดคุยถึงกลไกในการทำงานร่วมกันภายในสภาผู้แทนราษฎร

ทั้งการจัดสรรเวลา และการจัดสรรข้อมูล ในประเด็นต่างๆของการทำงานในสภาฯ ในฐานะที่เป็นฝ่ายค้านร่วมกัน จึงมีความจำเป็นต้องพูดคุย เพื่อให้บทบาทของฝ่ายค้านในสภาฯ เป็นอย่างราบรื่น