"มาดามเดียร์"ชวนร่วมสร้างประชาธิปไตยที่ดีกว่า-สร้าง ปชป. เป็นของทุกคน

9 ธันวาคม 2566 เป็นอึกวันที่ต้องจับตา ซึ่งจะเป็นการชี้ชะตาอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ ต่อคำว่าสถาบันทางการเมือง ที่อยู่คู่ประเทศไทยมายาวนานถึง 77 ปี

โดยเฉพาะกับการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารประชาธิปัตย์ ซึ่งขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มีเพียง 2 คู่ แคนดิเดตจะลงชิงชัย ประกอบด้วย

• นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าหัวหน้าพรรค 
• น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.

ขณะที่ ล่าสุด น.ส.วทันยา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า

ประเทศไทย • ประชาธิปไตย • ประชาชน

สร้างประชาธิปัตย์เป็นพรรคของทุกคน

เพื่อร่วมสร้างประชาธิปไตยที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ ที่จัดขึ้นในวันนี้ (9ธ.ค.) ได้มีการแก้ไขข้อบังคับให้มีการเพิ่มองค์ประชุมอีก 150 คน ซึ่งมาจากตัวแทนภาค ภาคละ 30 คน เพื่อสำรองกันกรณีองค์ประชุมไม่ครบ จากที่ก่อนหน้านี้ต้องล่มไปถึง 2 ครั้ง เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ



 

ส่วนสถานที่ใช้จัดการประชุมเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น วิภาวดีรังสิต ขณะที่การจัดประชุม ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมภายในห้องประชุม เพื่อติดตามการประชุม เนื่องจากสถานที่ไม่เพียงพอ แต่ได้มีการจัดเตรียมจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ ให้สามารถติดตามสถานการณ์ภายในห้องประชุม

สำหรับคุณสมบัติผู้ที่เข้ามาเป็นหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรค

โดยข้อบังคับพรรคเขียนไว้ในข้อที่ 31 และข้อที่ 32 คือ 

1. สมาชิกผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 
2. เป็นสมาชิกพรรคติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง (วันที่ 9 ธันวาคม 2566) 
3. เป็นหรือเคยเป็นกรรมการบริหารพรรค
4. เป็นหรือเคยเป็นคณะกรรมการสาขาพรรค
5. เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)ในนามพรรค
6. เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรีในนามพรรค
7. เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่พรรคส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง
8. การเสนอชื่อผู้เป็นหัวหน้าพรรคต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้ที่อยู่ในที่ประชุม (ข้อบังคับพรรค ข้อที่ 32)
9. หัวหน้าพรรคต้องมีคุณสมบัติ เป็นหรือเคยเป็น สส.ในนามพรรค