svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อิ๊งค์"เฉลยแล้วงบประมาณใช้จัดซอฟต์พาวเวอร์เอามาจากไหน

06 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"แพทองธาร ชินวัตร" เคลียร์ชัดงบ 5 พันกว่าล้านจัดซอฟต์พาวเวอร์ ใครเป็นคิดแล้วเอามาจากไหน ส่วนเงินที่ใช้จะผ่านหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกฯ พิจารณา

6 ธันวาคม 2566 ยังต้องเกาะติดโดยเฉพาะกับการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล หลังจากได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมมีการตั้งกรอบวงเงินงบประมาณไว้ 5,164 ล้านบาท เพื่อผลักดันอุตสาหกรรม 11 ด้าน ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศ  

โดย "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า ชุดที่ตนเป็นประธาน ได้ประชุมเรื่องของงบประมาณที่ต้องใช้จบแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก่อนจะพิจารณาเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่า งบจะเสร็จสิ้นในเดือน พ.ค. 2567 

ทั้งนี้ งบประมาณ 5,100 ล้านบาท เป็นงบประมาณที่ใช้ใน 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ โดยไม่ได้ของบประมาณเพิ่ม เนื่องจากเป็นงบที่อยู่ในแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นตัวเลขที่รัฐบาลคิดขึ้นมา แต่เป็นงบประมาณที่มาจากผู้รู้จริง ในแต่ละสาขานั้นก็คือภาคเอกชน และรัฐบาลเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก อีกทั้ง ภาคเอกชนก็มีความตั้งใจทำ และระมัดระวังเรื่องการใช้งบประมาณอยู่แล้ว 

สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จะทำให้มีโอกาสปรับลดงบประมาณลงหรือไม่นั้น ต้องรอดูคณะกรรมการชุดใหญ่จะเห็นควรอย่างไร แน่นอนว่ารับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และดีใจที่ทุกคนให้ความสนใจ กับ 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ เพราะมีความหลากหลาย และเมื่อมีคนสนใจ เชื่อว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้ต้องแข็งแรงและดีขึ้นอย่างแน่นอน

"งบประมาณที่จะดึงมา ก็มาจากกระทรวงหลักๆ คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงวัฒนธรรม ย้ำว่าเป็นงบที่อยู่ในแต่ละกระทรวงอยู่แล้ว และนำมาจัดแจงว่า จะนำไปดำเนินการอย่างไรบ้าง" น.ส.แพทองธาร ระบุ

ส่วนที่มีคนวิจารณ์แนวคิดในการจัดงานสงกรานต์ตลอดเดือน เม.ย.นั้น ส่วนตัวได้สื่อสารไปในช่องทางเฟซบุ๊ก และเห็นการตีความมาว่าสาดน้ำกันทั้งเดือน ซึ่งมองว่าก็คงจะหนาวเหมือนกัน หากสาดน้ำทั้งเดือน แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น จะเป็นการจัดกิจกรรม 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยวันที่ 13-15 เม.ย. ที่เป็นวันสงกรานต์ จะมีกิจกรรมเหมือนเช่นที่จัดขึ้นทุกปี เพียงแต่การดึงนักท่องเที่ยวกิจกรรมที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งเดือน เป็นการดึงนักท่องเที่ยว ให้มีจุดเที่ยวในประเทศไทยยาวนานขึ้น อยู่นานขึ้น นั่นคือจุดมุ่งหมาย พร้อมย้ำว่าการสาดน้ำ 30 วัน คงจะเป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่อย่างนั้นขอให้ทุกคนไปอ่านให้ดี

ส่วนที่ "น.ส.วทันยา บุนนาค" ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ซอฟต์พาวเวอร์ที่จริงแล้ว คือ แพทองธาร ไม่ใช่สิ่งอื่น โดย น.ส.แพทองธาร ระบุว่า เป็นการให้เกียรติกัน ก็ต้องขอขอบคุณมาก และอย่างที่ตนพูดไปทุกเวทีว่า ซอฟต์พาวเวอร์ไม่ใช่สินค้า แต่จะทำให้สินค้าของไทยสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ตนอาจจะพูดไปพูดมาหลายครั้ง ทำให้เกิดการงงกันบ้าง

"ถ้าตามดูการให้สัมภาษณ์ ที่ไม่ได้ฟังเพียงแค่ท่อนเดียว จะเข้าใจว่าสื่อแบบนี้มาตลอดว่าซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ใช่สินค้า ไม่ใช่ชี้อะไร ก็เป็นซอฟต์พาวเวอร์ไปหมดแบบนั้นไม่ใช่ แต่เมื่อเกิดพลังอำนาจที่ทำให้คนคล้อยตาม โดยไม่ต้องบีบบังคับนั่นแหละ คือ ซอฟต์พาวเวอร์ และอยากให้ทุกคนมูฟออนซอฟต์พาวเวอร์ได้แล้ว เพราะเรากำลังทำเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นเพื่อพัฒนาประเทศ เรามองไปที่จุดข้างหน้า แล้วปักหมุดแล้วว่าจะดันซอฟต์พาวเวอร์ ให้คนทั่วโลกรู้จักเรา เข้าใจและชอบวัฒนธรรมของไทย นี่คือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เราไม่ได้พยายามนิยามคำว่าซอฟต์พาวเวอร์" น.ส.แพทองธาร ระบุ

อนึ่ง สำหรับซอฟต์พาวเวอร์ 11 ด้าน ประกอบด้วย

  1. อุตสาหกรรมเฟสติวัล ที่ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูล การสื่อสาร และการผลักดันเฟสติวัลต่าง ๆ งบประมาณที่จะใช้ 1,009 ล้านบาท
  2. อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เสนอจัดระบบการท่องเที่ยวใหม่ทั้งระบบ การสร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว รวม 711 ล้านบาท
  3. สาขาอาหาร มี 3 โครงการใหญ่ เช่น 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย , เชฟชุมชน และ เชฟชาแนล 1,000 ล้านบาท
  4. สาขาศิลปะไทย จำนวน 5 โครงาร อาทิ เปิดหอศิลป์บริเวณถนนรัชดาภิเษก , จัดตั้งสภาศิลปะแห่งประเทศไทย , จัดกองทุนสนับสนุนศิลปการแสดงร่วมสมัย รวมงบประมาณ 380 ล้านบาท
  5. สาขาออกแบบ ส่งเสริมไทยแลนด์แบรนด์ ใช้งบประมาณประมาณ 310 ล้านบาท
  6. สาขากีฬา เน้นส่งสริมประสิทธิภาพมวยไทย กิจกรรมมวยไทย ทั้งใน และต่างประเทศ ประมาณ 500 ล้านบาท
  7. สาขาดนตรี ในการพัฒนาหลักสูตรเฉพาะ และส่งเสริมการฝึกอบรม ส่งเสริมศิลปินไทยสู่ระดับโลก 144 ล้านบาท
  8. สาขาหนังสือ ให้หนังสือไทยออกสู่หนังสือนานาชาติ 69 ล้านบาท
  9. สาขาภาพยนตร์ ละคร และซีรีส์ การจัดเทศกาลเอกซ์โปรในประเทศ และต่างประเทศ ส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์ และซีรีส์ ผลักดันสู่ออสการ์ 545 ล้านบาท
  10. สาขาแฟชั่น พัฒนาหลักสูตรออนไลน์ การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ และส่งเสริมการแสดงสินค้าในต่างประเทศ 268 ล้านบาท
  11. สาขาเกมพัฒนาหลักสูตร การส่งเสริมผู้ประกอบการ ส่งเสริมกองทุน และสร้างสนามกีฬาอีสปอร์ตแห่งชาติ รวมประมาณ 374 ล้านบาท
logoline