ไขข้อสงสัย "หัวหน้าเพื่อไทย" ทำไมต้อง "อุ๊งอิ๊งค์"
วันที่ 27 ตุลาคมนี้ พรรคเพื่อไทยจะประชุมเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งขณะนี้ชื่อที่ปรากกฎเป็นข่าวมาตลอดชนิดแบบไร้คู่แข่ง ชัดเจนคือ "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร"
จะเรียกว่าชนะแบบเอกฉันท์เลยก็ว่าได้ สำหรับ"อุ๊งอิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเก่งของอดีตนายกฯ ทักษิณ หลังคนเพื่อไทยออกมาผสานเสียง เตรียมดันขึ้นนั่งผู้นำพรรคคนใหม่เต็มตัว ชนิดไร้คู่แข่ง สอดคล้องกับสัญญาณจากโทนี่ที่เคยบอกกับ สส.เพื่อไทย ในอีเวนท์อวยพรวันเกิดก่อนจัดตั้งรัฐบาล ว่าให้ "น้องอิ๊งค์" มาช่วยงานที่พรรค ส่วนเศรษฐาไปอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล และที่ผ่านมาน.ส.แพทองธาร ไม่เคยปฏิเสธ พร้อมทำทุกอย่างเพื่อพรรค ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม
หัวหน้าเพื่อไทยทำไมต้องอุ๊งอิ๊งค์? เป็นสิ่งที่หลายคนอยากรู้คำตอบ โดยอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เอ่ยปากชมน.ส.แพทองธาร ว่าเป็นคนเก่ง เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ อีกทั้งยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย และเป็นศูนย์รวมจิตใจของสมาชิกทุกคน
ส่วนกระแสข่าวว่ามีการวางตัวไว้อยู่แล้วจากนายทักษิณนั้น นพ.ชลน่าน ยืนยันเสียงแข็ง ไม่มีแน่นอน ซึ่ง 3 แนวทางสำคัญหลังเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลคือ ตัวรัฐมนตรี งานด้านสภาฯ และตัวพรรค ต้องมีความเข้มแข็ง และเดินหน้าควบคู่กันไป
ผศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ ม.บูรพา ให้มุมมองที่น่าสนใจ โดยยก 3 ปัจจัยว่าทำไมหัวหน้าเพื่อไทยต้องเป็นอุ๊งอิ๊งค์ ว่า น.ส.แพทองธาร เป็นลูกสาวของนายทักษิณ ซึ่งถือเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคที่ได้คะแนนนิยมสูงกว่านายเศรษฐา ทวีสิน และเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามากอบกู้สถานการณ์ของพรรคในสภาวะตกต่ำ และมีโอกาสที่จะสู้กับพรรคก้าวไกลได้
จุดยืนของ น.ส.แพทองธาร ชัดเจน ต้องการทำพรรคเพื่อไทยมีความเข้มแข็งทั้งภายในและภายนอก โดยใช้ความเป็นชินวัตร เป็นจุดแข็งประสานงานกับทุกฝ่าย ซึ่งหลังจากนี้คงต้องจับตาบทบาทของว่าที่ผู้นำพรรคเพื่อไทยคนใหม่ จะนำพาเพื่อไทย ฝ่ากระแสบนเส้นทางการเมืองไปได้ไกลกว่ารุ่นพ่อได้มากน้อยแค่ไหน