21 ตุลาคม 2566 "นายสุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหม กล่าวถึงการชะลอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ และเปลี่ยนมาเป็นเรือฟริเกตจีน จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ ว่า แม้กองทัพเรือมีแผนการจัดซื้อเรือฟริเกตอยู่แล้วในงบปี 67 อีก 1 ลำ ซึ่งก็ดำเนินไป ส่วนลำใหม่หากทางจีนตกลงให้เปลี่ยนจากเรือดำน้ำ ก็จะได้มาเพิ่มอีก
ทั้งนี้ กองทัพเรือมีแผนว่าต้องมีฟริเกต 8 ลำ แต่ตอนนี้มีเพียง 4 ลำ หากได้จากงบปี 67 อีก 1 ลำ และจากการเจรจาเปลี่ยนจากเรือดำน้ำอีก 1 ลำ จะทำให้กองทัพเรือมีเรือฟริเกต 6 ลำ ซึ่งก็ยังไม่พอ สำหรับการจัดซื้อต่างๆ ของกองทัพ
"ยอมรับว่าต้องดูจากภารกิจการทำงาน ร่วมกับกระแสสังคม ต้องดูทางยุทธศาสตร์และยุทธการด้วยว่า มีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด และหากมีความจำเป็น ก็ต้องฟังและอธิบายให้สังคมเข้าใจกับโครงการที่มีงบประมาณมาก" รมว.กลาโหม กล่าว
ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมการไปเจรจานั้น โดยในสัปดาห์หน้าจะถามทางจีนว่า เป็นคณะกรรมการระดับใด ก็จะจัดคณะกรรมการให้เหมาะสม
เมื่อถามว่า มีแผนสองรองรับหรือไม่ หากไม่มีการเปลี่ยนสัญญาการซื้อขายเรือดำน้ำ นายสุทิน กล่าวว่า จะพยายามทำให้จบในกรอบเวลาที่อยู่ในวิสัยที่ทำได้ หากมีเหตุสุดวิสัยก็ต้องมาหารือกันถึงข้อตกลงในสัญญา ซึ่งระบุอย่างไรก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น