svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สภาฯ" ถกข้อเสนอตั้ง กมธ. ส่งเสริมสันติภาพชายแดนใต้

11 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สภาฯ" ถกข้อเสนอตั้ง กมธ. ส่งเสริมสันติภาพชายแดนใต้ "รอมฎอน" ชี้ ต้องกระตุ้นเตือนรัฐบาลให้เกิดการเจรจา "ประชาชาติ-ภูมิใจไทย-เพื่อไทย" เสนอญัตติประกบ เห็นพ้องคืนสันติภาพถาวร ยุติความไม่สงบ

11 ตุลาคม 2566 ที่อาคารรัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 21 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้มีการพิจารณาญัตติ เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา ติดตามและส่งเสริมการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานี ที่ นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ

โดยประธานสภาฯ กำหนดให้รวมพิจารณากับญัตติทำนองเดียวกันอีกสองฉบับ คือ ญัตติ เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาและเสนอแนวทางกระบวนการสร้างสันติภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.พรรคประชาชาติ เป็นผู้เสนอ และ เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษากระบวนการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ นายซาการียา สะอิ สส.พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอ รวมถึงญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาและติดตามการเจรจา สันติภาพในจังหวัดชายแดนใต้  ที่ นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ

นายรอมฎอน อภิปรายเสนอญัตติว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่มีหลายพรรคการเมืองเสนอญัตติดังกล่าวเข้ามาร่วมกัน แต่ในสมัยประชุมที่แล้ว ก็มีหลายพรรคการเมืองเสนอญัตตินี้มาถึง 6 ญัตติ แต่ก็ไม่ได้มีการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญนี้แต่อย่างใด โดยข้อเสนอดังกล่าวมีมานาน ตั้งแต่นอกรัฐสภา ซึ่งประชาชนเห็นว่า เรื่องสันติภาพถูกผูกอยู่กับระบบราชการ จึงเห็นว่ารัฐสภาควรมีบทบาท

ทั้งนี้ สาระของปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องใหญ่เกินระดับหน่วยงานและฝ่ายบริหาร เพราะมีความเกี่ยวข้องกับอธิปไตย และเชื่อมโยงกันหลายประเด็น ปัญหาดังกล่าวปรากฏชัดขึ้นหลังรัฐประหาร 2557 บทบาทในการแก้ไขปัญหาก็มีความเหลื่อมซ้อนกันในหลายคณะกรรมาธิการ จึงควรตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาสำหรับประเด็นนี้โดยเฉพาะ

ที่ผ่านมาการพูดคุยสันติภาพ จะดำเนินไปกับมาตรการอื่นๆ ของภาครัฐ แต่ยังมีการจัดวางความสำคัญที่ไม่ชัดเจน รัฐสภาจึงต้องช่วยเน้นให้เห็นความสำคัญของการเจรจา พร้อมยกผลลัพธ์ของการเจรจาสันติภาพ ที่ยังเป็นที่รับรู้กันน้อย ประกอบด้วย เอกสารฉันทนามติทั่วไปว่าด้วยการพูดคุยสันติภาพ ในปี 2556 ช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ เอกสารหลักการทั่วไป ว่าด้วยการพูดคุยสันติภาพ ในปี 2565 ที่ได้มีการลงนาม ถือเป็นผลลัพธ์จากการร่วมงานกันของหลากฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาลไทยและขบวนการต่อสู้ปาตานี

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่ากระบวนการสันติภาพอาจหยุดชะงัก จึงเป็นหน้าที่ของรัฐสภาต้องกระตุ้นเตือน และสนับสนุนให้เดินหน้าต่อ หากรัฐสภามีคณะกรรมาธิการที่เดินคู่ไปกับการดำเนินงานของฝ่ายบริหาร และจะเป็นหลักประกันสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในพื้นที่ รวมถึงผู้เห็นต่าง ที่จะสามารถบรรลุข้อตกลง และสร้างฉันทามติที่จะอยู่ร่วมกันได้ในสังคมไทยอย่างมีเกียรติศักดิ์ศรี

นายรอมฎอน ได้ยกเรื่องที่รับฟังจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหวังว่าจะมีความปลอดภัยจากความรุนแรง และความปลอดภัยในการแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับปัญหาที่เผชิญอยู่ ในสภาฯแห่งนี้น่าจะเป็นการขยายโอกาสในการสร้างสันติภาพ ที่ผ่านมาจากการขัดแย้งกันอย่างสร้างสรรค์ พร้อมเรียกร้องสมาชิกจะร่วมกันสนับสนุนการตั้งคณะกรรมาธิการนี้  เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสันติภาพโดยรวมของประเทศ

ด้าน นายกมลศักดิ์ กล่าวสนับสนุนญัตติ โดยชี้ว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความยืดเยื้อมายาวนาน หลายรัฐบาลพยายามทุ่มงบประมาณแก้ไข แต่ปัญหายังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม สภาฯ ได้ศึกษาเรื่องนี้ในภาพรวม รอบนี้จะเป็นเจาะลึกเพื่อให้ทุกฝ่ายหาทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งไม่ใช่การปราบปรามหรือออกกฎหมายพิเศษบังคับใช้ แต่เป็นการเจรจากับคู่ขัดแย้ง

ที่ผ่านมาการตั้งโต๊ะเจรจาโดยเปิดเผย ได้มีความพยายามมา 3 ครั้ง แต่ก็ถูกล้มเลิกทุกครั้ง สภาฯต้องมีส่วนร่วมในการศึกษาว่า บกพร่องอย่างไรจึงไม่สำเร็จ และทางออกในรัฐบาลชุดนี้ควรมีกรอบอย่างไร ใครเป็นผู้เจรจา ประชาชนจะมีส่วนร่วมอย่างไร หรือต้องมีกฎหมายรองรับหรือไม่ โดยนำบทเรียนจากประสบการณ์ที่ผ่านมา

ขณะที่ นายซาการียา กล่าวสนับสนุนญัตติ ยกเหตุการณ์ปล้นปืนค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 เมื่อ 4 ม.ค. 2547 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และต่อมาน้าชายของตนที่เป็นครู ถูกออกหมายจับในข้อหาแบ่งแยกดินแดน ทั้งที่ไม่เคยมีปืน ไม่เคยยิงใคร วันที่ได้รับอิสรภาพ เป็นวันเดียวกลับยายของตนเสียชีวิต ทำให้น้าชายไม่สามารถดูแลแม่ที่เจ็บป่วยได้ ตนจึงได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดและสูญเสียของประชาชนในพื้นที่

โดยนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สามารถยุติเหตุการณ์ความไม่สงบ แต่นโยบายดังกล่าวเป็นนามธรรมที่ยังนำสู่การปฏิบัติไม่ได้ และมีปัญหาหลัก ประกอบด้วย เศรษฐกิจและรายได้ต่อหัวของจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่รั้งท้ายของประเทศ จึงต้องยกระดับเศรษฐกิจชายแดน รวมถึงพัฒนาศักยภาพครู เพื่อเพิ่มคุณภาพการศึกษา

ต่อมา นายศรัณย์ อภิปรายสนับสนุนญัตติด่วนของพรรคเพื่อไทย โดยชี้ว่า ผ่านมากว่า 19 ปี ปัญหาชายแดนภาคใต้ยังไม่ยุติลง แม้จะมีความพยายามจากหลายรัฐบาล แต่ก็ยังมีผู้สูญเสียจำนวนมาก แม้ภายหลังจำนวนเหตุการณ์จะน้อยลง แต่ยังไม่เห็นว่าความขัดแย้งจะคลี่คลายลง ที่ผ่านมาทุกคณะกรรมาธิการ ตัวแทนภาคประชาชนยังมีส่วนร่วมน้อย และอาจเป็นเหตุให้ความพยายามที่ผ่านมาไม่สำเร็จ

รัฐสภาจึงต้องเข้ามามีบทบาทในฐานะนิติบัญญัติ เพื่อสร้างกฎหมายที่เป็นธรรม ความจริงแล้วในพื้นที่สามจังหวัดชายแดน มีทรัพยากรธรรมชาติและบุคคลากรที่จะสามารถพัฒนาประเทศได้อีกมาก แต่สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นไม่ได้เพราะปัญหาความขัดแย้ง จึงหวังว่ารัฐบาลและรัฐสภาสมัยนี้ จะสามารถสร้างความแตกต่าง ให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนในพื้นที่ดังกล่าวได้

logoline