svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"หมออ๋อง"แย้มมีหลายพรรครุมจีบร่วมค่ายย้ำมีเวลาตัดสินใจ 30 วัน

"ปดิพัทธ์ สันติภาดา" เผยยังมีเวลา 30 วัน ก่อนตัดสินใจหาสังกัดใหม่อยู่ หลังถูก "ก้าวไกล" ขับพ้นพรรค โวเนื้อหามีหลายพรรคติดต่อทั้งในและนอกสภาให้เข้าร่วม ส่วนคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับก้าวไกลทยอยลาออกแล้ว เมินถูกยื่นเรื่องให้ กกต.-ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบมติไล่ 

4 ตุลาคม 2566 "นายปดิพัทธ์ สันติภาดา" รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เปิดเผยว่า การตัดสินใจสังกัดพรรคการเมืองนั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มพูดคุยว่าจะไปอยู่พรรคไหน ซึ่งอันดับแรกจะต้องเห็นด้วยกับนโยบาย อุดมการณ์ของพรรค และต้องดูความคาดหวัง ตนอยากไปทำตัวให้มีประโยชน์กับพรรคใหม่ โดยพรรคที่ตนจะไปสังกัดต้องพูดเรื่องนี้กับตนให้ชัดเจน แต่ต้องย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ต้องติดต่อมาให้เสียเวลา 

ทั้งนี้ มีพรรคมาให้เลือกเยอะซึ่งพรรคฝ่ายค้านขณะนี้มีให้เลือก 2 พรรค หรือแม้กระทั่งพรรคนอกสภา ที่กำลังพิจารณาอยู่ด้วย เนื่องจากมีข้อเสนอเข้ามาเช่นกัน โดยตนมีเวลา 30 วัน และวันสุดท้ายในการตัดสินใจ คือ วันที่ 28 ต.ค.นี้ หากอาทิตย์นี้ การเดินหน้าพบปะพูดคุยกันเป็นไปได้ด้วยดี ก็สามารถตัดสินใจได้ภายในกลางเดือนนี้ 

ส่วนหลังจากถูกขับออกจากพรรคก้าวไกลคณะทำงานที่ตั้งขึ้นมาจะเดินหน้าต่ออย่างไร นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า คนที่มีตำแหน่งในพรรคก้าวไกล เช่น "พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ" ได้ยื่นหนังสือลาออกเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับ "นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล" ได้ขอลาออกด้วยวาจาแล้ว ซึ่งขณะนี้ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศเมื่อกลับมาจะยื่นใบลาออกอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานคนไหนที่ยังมีบทบาทในพรรคก้าวไกล อย่างเป็นทางการ จะต้องลาออกทั้งหมด หากมีความสัมพันธ์กับพรรค และไม่มีตำแหน่งใดๆ ก็สามารถเป็นคณะทำงานร่วมงานกับตนได้ โดยตามกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม โดยจะทำทุกอย่างให้โปร่งใส และเปิดเผยรายชื่ออีกครั้ง 

ส่วนที่อาจส่งเรื่องให้ กกต. หรือ ศาลรัฐธรรมนูญตีความเรื่องการขับออกจากพรรคก้าวไกลโดยมิชอบนั้น หากย้อนกลับไปดูคำแถลงวิสัยทัศน์ก่อนเข้ามาดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 นั้น ตนเคยประกาศว่าจำเป็นต้องฟื้นฟูองค์กรที่เรียกว่านิติบัญญัติ ให้ไม่อยู่ใต้อาณัติของรัฐบาล และไม่อยู่ใต้อาณัติของตุลาการ  3 อำนาจอธิปไตย จำเป็นที่จะต้องถ่วงดุลและเป็นอิสระจากกัน

 

"หวังว่าจะสามารถจัดการเรื่องนิติบัญญัติภายในองค์กรเองได้ หากนิติบัญญัติยังต้องพึ่งพาองค์กรที่เต็มไปด้วยคำถาม เรื่องความเป็นกลางทางการเมือง โดยเฉพาะองค์กรอิสระ ที่ยังมีองคาพยบมาจากการสืบทอดอำนาจของ คสช." นายปดิพัทธ์ กล่าว