svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

จุลพันธ์ ชี้ ยังไม่เสี่ยงเกิดเงินเฟื้อ หวังดิจิทัลวอลเล็ต เป็นกระเป๋าเงินหลัก

ครม. เคาะตั้งคกก. ขับเคลื่อนโครงการเงินดิจิทัล คาด "จุลพันธ์" เป็นประธานอนุฯ รวบรวมข้อมูลภายใน ต.ค. ก่อนเสนอชุดใหญ่มีมติ ยอมรับอาจขยายพื้นที่ 4 กม. ใน ตจว. ยันไม่มีปัญหาข้อกฎหมาย - แบงค์ชาติ แง้มอาจพัฒนาแอพฯ ไม่ทัน 1 ก.พ. 67 ต้องขอเวลาเพิ่ม 1 เดือน! ลั่นค่าเงินบาทอ่อนไม่ใช่เพราะนโยบายรัฐ

3 กันยายน 2566 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงความคืบหน้าการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า วันนี้กระทรวงการคลังได้เสนอเรื่องต่อนายกรัฐมนต รีเพื่อตั้งคณะกรรมการเป็นมาพิจารณาในรายละเอียด หลังจากมีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบและภาคเอกชน จนมีข้อสรุปในเบื้องต้นว่าโครงการนี้มีความสำคัญ

เนื่องจากใช้งบประมาณจำนวนมากจึงต้องละเอียดรอบคอบ จึงเสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น โดยมีองค์ประกอบย่อยที่มาจากคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ รองประธานประกอบด้วย

  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
  • นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
  • นายประเสริฐ จันทรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นอกจากนี้ยังมี นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยปลัดของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตัวแทนสำนักงบประมาณสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมอยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย

โดยคณะกรรมการชุดนี้จะควบคุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เป็นคณะกรรมการที่จะพิจารณาแนวนโยบาย กรอบวงเงินนโยบาย แหล่งที่มาของงบประมาณ กลไกการดำเนินการต่าง ๆ รวมถึงเมื่อโครงการได้เริ่มดำเนินการแล้ว คณะกรรมการก็จะทำหน้าที่ในการติดตามตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตต่าง ๆ และเมื่อโครงการสิ้นสุดก็จะทำหน้าที่สรุปผลว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่เพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรีให้รับทราบต่อไป คาดว่าคณะกรรมการชุดนี้จะเริ่มประชุมนัดแรกได้ภายในสัปดาห์นี้

ซึ่งในการประชุมครั้งแรกจะเป็นการมอบนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท รวมถึงการตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อไปรวบรวมประเด็นต่าง ๆ เสนอต่อชุดใหญ่ ซึ่งคาดว่าตนจะนั่งเป็นประธานอนุกรรมการชุดนี้ ร่วมกับนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่ก็จะต้องรอให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการอย่างเป็นทางการคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ จะสามารถส่งข้อมูลกลับมายังคณะกรรมการชุดใหญ่ได้ในทุกมิติ โดยเฉพาะประเด็นที่สื่อมวลชนและสังคมยังคงสงสัย ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ คงต้องรอให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการ และรวบรวมข้อมูลส่งให้คณะกรรมการเรียบร้อยก่อน

ส่วนเรื่องกรอบข้อกฎหมายที่หลายคนเป็นห่วง เช่น พ.ร.บ.เงินตรา ยืนยันว่ามีการพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นการเบื้องต้นแล้วยืนยันว่าไม่ได้ติดข้อกฎหมายใด ๆ มีกลไกที่สามารถทำได้โดยไม่ขัดกับตัวบทกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าเทคโนโลยีที่ใช้ในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังคงเป็น blockchain อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นกลไกที่มีความปลอดภัยตรวจสอบได้ ณ ขณะนี้ไม่มีเทคโนโลยีใดที่จะมีความโปร่งใสเท่านี้อีกแล้ว

ส่วนประเด็นการใช้คำว่านายกรัฐมนตรี มีการขยับกรอบหนี้ นั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า ตนไม่รู้ว่ามาจากไหน เพราะตนไม่เคยเห็นมาก่อนจึงขอยืนยันว่าไม่มีแน่นอน ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่เคยให้คราวนี้ ขอยอมว่ารัฐบาลนี้ยึดมั่นในกรอบวินัยการเงินการคลัง แต่รัฐบาลมีกลไกที่สามารถเลือกได้ว่าจะดำเนินการแบบใดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ส่วนเรื่องเงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในระยะ 4 กิโลเมตรนั้น เป็นหนึ่งในประเด็นที่คณะอนุกรรมการจะต้องไปรวบรวมความคิดเห็น แต่ยอมรับว่าจากเสียงสะท้อนจากประชาชน ก็มีแนวโน้มที่จะขยายกรอบพื้นที่ เพราะในระยะ 4 กิโลเมตร ตนในฐานะสส. ต่างจังหวัด บางหมู่บ้านก็แทบจะหาอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นการขยายกรอบพื้นที่จึงมีความเป็นไปได้สูง แต่สุดท้ายจะเป็นเช่นไรคงต้องรอคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเป็นผู้ฟันธง 

ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายคนเป็นห่วงว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่รัฐบาลมอบให้กับประชาชนสุดท้ายแล้วจะไปอยู่กับผู้ประกอบการรายใหญ่หรือเจ้าสัว นั้น ไม่ว่าประชาชนจะนำเงินไปใช้กับผู้ประกอบการรายย่อย หรือรายใหญ่ ก็ไม่มีความแตกต่าง เพราะรัฐบาลไม่มีการกันไข่ออกจากระบบ ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กรายใหญ่จะอยู่ในระบบหักภาษี หรือไม่ทุกคนก็สามารถขึ้นเงินได้ แต่หากไม่ได้อยู่ในระบบหักภาษีก็จะเป็นในลักษณะได้รับเงินมาและนำไปใช้ต่อ

ซึ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามธรรมชาติตามความต้องการการใช้จริง แต่ก็จะต้องมีกลไกเพื่อสร้างแรงจูงใจในการใช้จ่ายเงินให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในชุมชน รัฐบาลกำหนดไว้เพียง 2 อย่างคือ เรื่องกรอบเวลาในการใช้เงิน ในระยะ 6 เดือน และพื้นที่ในการใช้เงินดิจิตอล 4 กิโลเมตร แต่เชื่อว่าจะมีเงื่อนไขอื่นมาเพิ่มเติมอีกแน่นอน ซึ่งคาดว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายในปลายเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้สามารถเริ่มต้นนโยบายภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ แต่อาจเป็นไปได้ที่จะขยับออกไปอีก 1 เดือน

ส่วนเรื่องการขึ้นเงินนั้นหากมีการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว หากผู้รับเป็นผู้ที่อยู่ในระบบภาษีอยู่แล้วสามารถขึ้นเงินได้เลย แต่หากไม่ได้อยู่ในระบบภาษี ก็จะเป็นในลักษณะนำไปใช้ต่อจะไม่สามารถขึ้นเงินได้ ทั้งนี้นายสุรพันธ์ย้ำว่า ในอนาคตประชาชนจะมีกระเป๋าเงินสด 1 กระเป๋าและมีเงินดิจิทัลวอลเล็ต อีก 1 กระเป๋า เพื่อเป็นกลไกแลกเปลี่ยนค้าขายในอนาคตให้กับประชาชน ซึ่งรัฐบาลมองไกลถึงขนาดว่าอนาคตจะกลายเป็น ซุปเปร์ แอพฯ เที่ยวรวมทุกบริการไว้ในจุดเดียว และเป็นกระเป๋าหลักให้กับคนไทยในการใช้จ่ายระหว่างประเทศได้

พร้อมกันนี้ นายจุลพันธ์ ยังยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องการหาแหล่งเงินทุนมาใช้สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง ในขณะนี้เป็นผลมาจาก ค่าเงินของต่างประเทศแข็งตัวขึ้น และภาวะการไหลออกของเงินบาท ซึ่งผู้รับผิดชอบโดยตรงอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการประชุม เมื่อ 3-4 วันก่อนเพื่อปรับขึ้นดอกเบี้ย 1 สลึง เพื่อหยุดการไหลออกให้ได้โดยเร็ว ส่งเรื่องเงินเฟ้อ ไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงมานาน 10 ปีแล้ว

"ขณะนี้ยังไม่เห็นความเสี่ยงที่เกิดสถานการณ์เงินเฟ้อจากนโยบาย จึงไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงที่รัฐบาลเป็นห่วงเชื่อมั่นว่าเอาอยู่ เราต้องการ ให้กลไกนี้สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจที่ไม่ใช่หมุนอยู่แค่ภายในตัวเมืองใหญ่ แต่ให้หมุนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะต้องการให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP โตขึ้นไม่ต่ำกว่า 5% ภายในรัฐบาลนี้ ประชาชนจะรู้สึกได้ว่าตัวเองมีความมั่งคั่งกว่าเก่า แม้ว่าจะพูดไม่ได้ว่าร่ำรวยขึ้นแต่จะรู้สึกได้ว่าชีวิตดีขึ้นกว่าเก่า" นายจุลพันธ์ ระบุ