
22 กันยายน 2566 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 2 ยกฟ้องนายสุนทร และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ 2 พ่อลูกในคดีรุกป่า ป.ป.ช. จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ว่า จะต้องนำคำพิพากษามาวินิจฉัยในการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งมีกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย โดยต้องหยิบยกประเด็นในคำพิพากษามาชี้ให้เห็นถึงเหตุผล
โดยเฉพาะเจตนาว่ารู้หรือไม่รู้ว่ามีการบุกรุกที่อุทยาน เช่น อยู่ในแนวเขตอุทยานหรือไม่ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องฟัง ย้ำว่าจากพิสูจน์ของ ป.ป.ช. ใช้ระบบ GPS ในการวิเคราะห์ สอดคล้องกับข้อมูลของกรมอุทยานที่ยืนยันว่าเป็นที่ของกรมอุทยาน ยืนยันว่าไม่ล่าช้า
ส่วนกรณีที่ศาลระบุว่า ป.ป.ช. ไต่สวนโดยมิชอบจะส่งผลกระทบ หรือสะท้อนต่อการทำงานของ ป.ป.ช. อย่างไรบ้าง นายนิวัติไชย ชี้แจงว่า ตามที่ศาลมีคำพิพากษาว่าโดยมิชอบต้องดูว่าไม่ไม่ชอบอย่างไร เป็นประเด็นหรือไม่ที่มีการกล่าวหาทั้ง 2 ราย เนื่องจากศาลจะต้องพิจารณาตามคำร้องที่ได้ยื่นไป
ส่วนการวินิจฉัยจะต้องดูพยานหลักฐานว่าอะไรบ่งชี้ว่า ป.ป.ช. ไต่สวนไม่ชอบ ซึ่งมีหลายคดีที่มีคำพิพากษาในลักษณะนี้ โดยยกตัวอย่างคดีศาลอาญาทุจริตฯ มีคำพิพากษาว่า ป.ป.ช. ไปยัดเยียดข้อ กล่าวหามาตรา 147 เนื่องจากคดีใกล้ขาดอายุความ ซึ่ง ป.ป.ช. ต้องพิจารณาว่าคำพิพากษาเช่นนี้มีเหตุผลและพยานหลักฐานอะไร ทุกอย่างต้องถูกตรวจสอบได้
ขณะเดียวกันยอมรับว่าคำพิพากษาอาจมีผลกระทบต่อหน่วยงานอื่น ส่วนตัวเห็นว่าจะต้องมีความชัดเจนว่าประเด็นไหน หลักฐานคืออะไร สำคัญที่สุดต่างก็ทำงานในกระบวนการยุติธรรมเหมือนกัน และเห็นว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหา เป็นสิทธิของทุกคนที่จะฟ้องร้องหากเห็นว่าการทำงานของ ป.ป.ช. เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือเป็นการทุจริต ปัจจุบันผู้เสียหายสามารถฟ้องโดยตรงต่อศาลคดีอาษาทุจริตได้
ซึ่งผลจากการทำงานของ ป.ป.ช. ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ แต่ขอให้มีหลักฐาน พร้อมยืนยันว่าการทำสำนวนในคดีนี้รอบคอบแน่นหนา พร้อมกันนี้ได้ถามกลับว่านักข่าวได้ลงพื้นที่ไปทำข่าวได้เห็นสภาพจริงหรือไม่ หรือวิญญูชนที่ไปดูสภาพป่า ตรงนั้นจะเห็นได้ว่าเป็นป่าหรือไม่ หรือเป็นพื้นที่ทำการเกษตรมาก่อน
"ในวันนี้จะต้องดูตามข้อเท็จจริง ป.ป.ช. ทำงานเพื่อเรียกร้องทรัพยากรธรรมชาติกลับคืนมาเป็นของแผ่นดิน เราทำงานอย่างนี้ เราไม่ต้องไปปรักปรำหรือใส่ร้ายใคร และพาผู้สื่อข่าวออกไปดูการทำงานว่าวันนี้ทรัพยากรธรรมชาติถูกเขาทำลาย เบียดบัง ไปออกเอกสารสิทธิอะไรต่าง ๆ เยอะแยะไปหมด ถ้าวันนี้ ป.ป.ช. ไม่ทำ ก็ไม่รู้ใครจะทำ เพราะคนที่ทำมีอิทธิพล" นายนิวัติไชย กล่าว
นายนิวัติไชย กล่าวว่า แรงสะท้อนกลับมาทำให้ ป.ป.ช. เข้มแข็งขึ้น และจะต้องตรวจสอบว่ามีความบกพร่องอะไรยังขาด แต่ไม่มีวันแพ้ เพราะเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ เพราะสร้างองค์กรนี้ให้มาทำงานกับผู้มีอิทธิพลหรือนักการเมืองที่ทำไม่ชอบ ไม่ถูกต้อง ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ส่วนคดีรุกป่าของนางกนกวรรณ ที่อยู่ในชั้นพิจารณาของ ป.ป.ช. อีกเรื่อง คำพิพากษาจะส่งผลต่อการทำงานให้ ป.ป.ช. ต้องเข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ว่า ต้องดูข้อเท็จจริงที่ศาลตัดสินหรือรอคำพิพากษา หากทำมาพิจารณาอาจนำไปอุดช่องโหว่ ในการทำทุกคดีของ ป.ป.ช. มีความมั่นคง
นายนิวัติไชย ยังกล่าวถึงนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมที่ถูกหมายจับในคดีออกใบอนุญาติก่อสร้างคอนโดสูงเมืองพัทยามิชอบนั้น ตนทราบมาว่าก่อนหน้านี้มีประสานขอมอบตัว แต่ตอนนี้เข้าไม่ได้แล้ว หากเข้ามาเจอตัวก็ต้องจับ เพราะหมายมีผลอยู่ หรือจะมอบตัวก็สามารถติดต่อได้ทุกหน่วยงาน ซึ่งการมอบตัวนั้นต้องมอบต่อศาล เพราะเป็นผู้ออกหมายจับ