"กกต." ประกาศรับรอง "โย พงศธร" สส.ระยอง เขต 3

19 กันยายน 2566 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า กกต. มีมติประกาศรับรอง นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นสส.เขต 3 จ.ระยอง โดยให้มารับหนังสือรับรองตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) ที่สำนักงานกกต. ชั้น 5 ส่วนเรื่องร้องเรียน สำนักงานกกต.ได้ตรวจสอบตามเงื่อนไขแล้วว่า มีเรื่องร้องเรียนหรือไม่ โดยฟังรายงานจากผู้ตรวจการเลือกตั้ง เห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต จึงให้ประกาศผลรับรอง

ทั้งนี้ได้รับทราบจากทางกกต.ระยอง แล้วว่ามีเรื่องร้องเรียนในวันที่ 18-19 ก.ย. 66 แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ได้เป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง จึงไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว

เมื่อถามถึง การเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง สว. นายแสวง กล่าวว่า เรื่องพวกนี้เป็นไปตามวาระงาน ซึ่งแต่ละงานก็จะมีปฏิทินงาน อย่างการเลือกตั้งสว. ที่ใกล้จะสิ้นวาระ ทางสำนักงานกกต.ก็ได้เตรียมความพร้อมเป็นเรื่องของระเบียบกฎหมาย การซักซ้อมที่จะทำงานประสานงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยภาพรวมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถึงแม้ว่า จะเป็นเรื่องที่ประชาชนยังไม่ค่อยคุ้นเคยระบบการเลือกตั้งที่เป็นกลุ่มอาชีพ ดังนั้นการประชาสัมพันธ์และการวางแผนงานที่ดี จะทำให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

สำหรับเรื่องการทำประชามติก็เป็นลักษณะเดียวกัน โดยวันนี้(19 ก.ย.) สำนักงาน กกต.ได้ส่งรายชื่อภาคีเครือข่ายประชาชนส่งมากว่า 210,000 รายชื่อ แต่ตรวจสอบแล้วมีคุณสมบัติครบ 159,000 รายชื่อ (ตามหลักแค่ 50,000 ชื่อก็พอ) ซึ่งได้ส่งไปที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว

เมื่อถามถึง งบประมาณการทำประชามติ นายแสวง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คำนวณเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ก็มีของเดิมที่เคยทำไว้ คงจะเพิ่มแค่เรื่องการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มีสิทธิในการออกเสียงประชามติจำนวนมากขึ้น ส่วนหน่วยเลือกตั้งหรือการวางแผนบริหารจัดการ ก็จะคล้ายๆกับการเลือกตั้งสส. แต่ความซับซ้อนและงบประมาณจะน้อยกว่า เช่นเรื่องการพิมพ์บัตรก็จะพิมพ์ง่ายกว่า เพราะมีแค่ช่องเห็นชอบและไม่เห็นชอบ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบคำถาม และก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องงบประมาณ

เมื่อถามถึง การเลือกคณะกรรมบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะมีกรอบในการเลือกกี่วัน นายแสวง กล่าวว่า เป็นไปตามข้อบังคับของพรรค 120 วัน ส่วนเรื่องการอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะเครื่องลงคะแนนทางสำนักงานกกต.ก็ให้การสนับสนุน และจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์กระบวนการคัดเลือกหัวหน้าพรรคด้วย

เมื่อถามว่า การจัดการสัมมนาเสนอโครงการประเมินผล และถอดบทเรียนการเลือกตั้งสส. เป็นการทั่วไป 2566 นั้น เป็นการปรับปรุงและถอดบทเรียนอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า เป้าหมายใหญ่ของเราคือ ประสิทธิภาพและประสิทธิผล การบริหารจัดการเลือกตั้ง การอำนวยความสะดวกที่ดี และการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนกับประชาชน นี่คือโจทย์ของสำนักงาน และต้องประหยัดงบประมาณ นี่คือสิ่งที่เราได้ถอดบทเรียนมา แต่สุดท้ายแล้วจะต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้อย่างสะดวก

เมื่อถามว่า การเสนอร่างแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะมีผลกระทบต่อกกต. อย่างไร นายแสวง กล่าวว่า ต้องรอดูเพราะไม่รู้ว่ารัฐธรรมนูญจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน ต้องรอดูว่าสภาฯจะพิจารณาอย่างไร เพราะขณะนี้ไม่สามารถคาดคะเนได้

เมื่อถามย้ำว่า กกต.จะมีข้อเสนอแนะในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่มีเสียงสะท้อนว่ามีเบอร์พรรค และเบอร์ผู้สมัครทำให้ประชาชนมีความสับสน นายแสวง กล่าวว่า ความตั้งใจของสำนักงานในทุกครั้งที่เสนอไป จะเป็นแบบฟรีแอนด์แฟร์ ง่ายต่อประชาชนเข้าไว้ เพราะในวันเลือกตั้งมีประชาชนกว่า 50 ล้านคนออกไปเลือกตั้ง มี กปน.กว่า 1 ล้านคน อะไรที่มันไม่สับสน และง่ายต่อการออกเสียงลงคะแนน เพราะความง่าย บ่งบอกถึงความโปร่งใส และทุกคนต้องการเห็นความโปร่งใสในการเลือกตั้ง