svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ย้อนรอยคดี "บอส อยูวิทยา" หลัง ป.ป.ช. ส่งชื่อ "เพิ่มพูน - สว.ธานี" ฟันวินัย

15 กันยายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ย้อนรอยคดี "บอส อยูวิทยา" หลัง ป.ป.ช. ส่งชื่อ "เพิ่มพูน รมว.ศึกษา- สว.ธานี" ให้ผู้บังคับบัญชาฟันวินัย หลังการชี้มูลคดีกลับคำสั่งไม่ฟ้อง "บอส อยู่วิทยา" ขับรถยนต์ชน "ด.ต.วิเชียร" เสียชีวิต เมื่อปี 55

14 กันยายน 2566 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  เปิดเผยวานนี้ว่า(14 ก.ย.) กล่าวว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 66 ได้ชี้มูลความผิดกรณีผู้ถูกกล่าวหาในคดีกลับคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ในข้อหาขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ นายดาบตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 เนื่องจากมีขบวนการช่วยเหลือในการเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วของรถ ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 15 ราย ประกอบด้วย อดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการ เจ้าหน้าที่ข้าราชการตำรวจที่ยังรับราชการอยู่ พนักงานสอบสวนคดี พนักงานอัยการ และนักการเมือง

โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา ได้แก่ 

  • พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
  • นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด
  • นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส
  • นายพิชัย (ชูชัย) เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ปัจจุบันดำรงตำแหน่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
  • นายสายประสิทธิ เกิดนิยม และพนักงานสอบสวนบางส่วน

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ส่วนนายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กับ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลปัจจุบัน

ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นควรส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้ง หรือถอดถอน ดำเนินการทางวินัยตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากเห็นว่ากรณีดังกล่าว มิใช่เป็นความผิดร้ายแรง ตามมาตรา 64 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 

ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น คือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งหมดลงรายมือชื่อในสำนวน และเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วจะได้แถลงข่าว พร้อมให้รายละเอียดพฤติการณ์ทั้งหมดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทั้งนี้การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาจึงมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้

ธานี อ่อนละมัย สมาชิกวุฒิสภา(สว.)

  • ย้อนรอยคดี "บอส อยู่วิทยา"

ทั้งนี้คดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดง ขับรถเฟอร์รารีสุดหรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อกลางดึกวันที่ 5 ก.ย. 2555 "บอส" วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ขับรถหรูเฟอร์รารี ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ  ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ตราโล่อยู่บนถนนสุขุมวิท ก่อนจะลากร่าง ด.ต.วิเชียร ไปไกลถึง 200 เมตร จนเสียชีวิต และหลบหนีไปที่บ้านพักของตนเอง

ตำรวจแกะรอยตามคราบน้ำมัน ไปจนเจอว่ารถหรูคันที่ก่อเหตุ ขับเข้าไปในคฤหาสน์เนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 53 ซึ่งเป็นบ้านของ "เฉลิม อยู่วิทยา" เจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง 

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในขณะนั้น ต้องนำกำลังถึง 2 กองร้อยล้อมบ้าน พร้อมลั่นวาจา "ถ้าไม่ได้ตัวคนผิด จะขอลาออก" กระทั่งได้หมายค้นเข้าตรวจสอบพบรถเฟอร์รารี่ มีร่องรอยการเฉี่ยวชนอย่างรุนแรง กันชนหน้ารถพังยับเยิน ยิ่งสลดไปกว่านั้น ยังพบ เครื่องหมายยศดาบตำรวจของ ด.ต.วิเชียร ติดคากระจกรถหรู 

ในเวลาต่อมาสารวัตรปราบปราม สน.ทองหล่อ มีความพยายามนำตัว พ่อบ้าน "ตระกูลอยู่วิทยา" มามอบตัว อ้างว่าเป็นคนขับรถชน ด.ต.วิเชียร  ซึ่งค้านกับคำให้การของพยานหลายปาก รวมทั้งพ่อบ้าน ไม่มีร่องรอยจากอุบัติเหตุใดๆบนร่างกาย สุดท้ายเจ้าตัวรับสารภาพว่า มารับผิดแทนลูกของเจ้านาย เพราะสำนึกในบุญคุณของ "ตระกูลอยู่วิทยา"

ท้ายที่สุด "บอส อยู่วิทยา" ยอมมามอบตัว พร้อมรับสารภาพว่าเป็นคนขับเฟอร์รารี่ชน ด.ต.วิเชียร แต่ไม่มีเจตนาหลบหนี เพียงแค่ตกใจจึงขับรถกลับบ้านไปตั้งหลัก แม้ผลตรวจร่างกายจะพบแอลกอฮอล์ แต่เจ้าตัวก็อ้างว่าดื่มหลังจากประสบอุบัติเหตุแล้วเพราะเครียด

รถเกิดเหตุ

  • ตำรวจใช้เวลา 4 ปี ถึงส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง

จากวันเกิดเหตุต่อมาอีก 4 ปี ตำรวจจึงสรุปสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง "บอส อยู่วิทยา" 2 ข้อหา คือ

     1. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

     2. ข้อหาขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย 

  • คดีหมดอายุความ 2 ข้อหา เลื่อนพบอัยการ 8 ครั้ง

ขณะที่ข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถูกปล่อยให้หมดอายุความไปตั้งแต่เดือน ก.ย. 2556 ก่อนที่ในเวลาต่อมา ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน ซึ่งมีอายุความ 5 ปี ก็หมดอายุตามไปในวันที่ 3 ก.ย. 2560

นับตั้งแต่อัยการเตรียมสั่งฟ้องคดีต่อศาล "บอส อยู่วิทยา" ส่งทนายขอเลื่อนพบอัยการถึง 7 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2559 ด้วยเหตุผลว่าติดภารกิจที่ต่างประเทศ 

กระทั่งวันที่ 27 เม.ย. 2560 อัยการสูงสุด ออกหมายเรียกให้ "บอส อยู่วิทยา" เข้ารับทราบข้อกล่าวหา คดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นข้อหาเดียวที่เหลืออยู่ เป็นครั้งที่ 8 พร้อมยื่นคำขาดว่าหากไม่มา จะออกหมายจับทันที ซึ่งก็เป็นไปตามคาด คือ "บอส อยู่วิทยา" ไม่มาตามนัด นำไปสู่การออกหมายจับในเวลาต่อมา

หลังศาลออกหมายจับมีการขึ้นบัญชีแดงแจ้งไปยังด่านต่างๆ ประสานตำรวจสากล (อินเตอร์โพลแสดงความเป็นบุคคลที่มีหมายจับบนหน้าเว็บไซต์) รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ถอนหนังสือเดินทางของ "บอส อยู่วิทยา" 

  • 11 ปี "บอส อยู่วิทยา" พ้นผิดทุกกรณี สาเหตุถูกอุบเงียบ

นับตั้งแต่วันถูกออกหมายจับจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 11 ปี "บอส อยู่วิทยา" พ้นผิดทุกกรณี หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง ในทุกข้อกล่าวหา โดยได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2563 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้นแถลงยืนยันว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดสั่งไม่ฟ้อง เมื่อคณะกรรมการตำรวจพิจารณากับฝ่ายกฎหมายแล้ว ก็เห็นพ้องตามอัยการสั่งไม่ฟ้องด้วย 

ส่วนเหตุผลไม่สามารถเปิดเผยได้ ทำให้คดีนี้ถึงที่สุด หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนถอนหมายจับ "บอส อยู่วิทยา" ทั้งในไทย และประสานตำรวจสากลถอนหมายจับสากลอินเตอร์โพล นั่นหมายความว่า บอส อยู่วิทยา กลายเป็นผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง และสามารถกลับเข้าประเทศได้ตามปกติ

แต่ในส่วนของบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือ บอส อยู่วิทยา ทาง ป.ป.ช. ยังเดินหน้าพิจารณาชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหา 15 ราย ทั้งตำรวจที่เกษียณแล้ว และยังรับราชการอยู่ รวมทั้งอัยการ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้ต้นสังกัดดำเนินการแล้ว

logoline