svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ฐิติวุฒิ" ผ่าทางตันรัฐบาล ทวงคืนนโยบายปราบยาเสพติด

11 กันยายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สาระสำคัญของรัฐบาลปัจจุบัน กับนโยบายปราบปรามยาเสพติด ภายหลังมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว กลับพบว่าเป็นนโยบายที่ยึดโยง กับนโยบายของรัฐบาลชุดอดีตอยู่ จึงเกิดคำถามขึ้น

"ทีมข่าวเนชั่นทีวี" ได้คุยกับ รศ.ดร.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ม.เชียงใหม่ บอกว่า โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการ "บำบัดผู้ติดยาเสพติด" นโยบายเกี่ยวข้องกับการ "ยึดทรัพย์เพื่อตัดองค์กรยาเสพติด" รวมทั้งความพยายามในการ "เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อควบคุมยาเสพติด"

หากแต่ "สามประเด็น" ดังกล่าวข้างต้นยังไม่พบว่า มีจุดเด่นหรือนโยบายใหม่อะไร ที่จะสามารถทำให้ปัญหา "ยาเสพติด" ของประเทศไทยลดน้อยลงไปมากกว่าเดิม อีกทั้ง การโฆษณาหาเสียงที่ผ่านมา ยังไม่พบว่ามีนโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรมมากนัก ในการปราบปรามยาเสพติด

แถมยังไม่มีความเข้มข้น หากเปรียบเทียบภาพลักษณ์ของการปราบปรามยาเสพติดใน "ยุครัฐบาลเพื่อไทย" ที่ถือได้ว่ามีจุดเด่น กลายเป็นความหวังของประชาชน ที่มีต่อรัฐบาลในปัจจุบัน
\"ฐิติวุฒิ\" ผ่าทางตันรัฐบาล ทวงคืนนโยบายปราบยาเสพติด

จุดอ่อนที่สำคัญของนโยบาย หากรัฐบาลปัจจุบันพยายามนั่นคือ จะต้องสืบสาวต่อนั่นก็คือ  รัฐบาลจะต้องสามารถสร้างระบบการประเมินผล ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ในระบบของการ "บำบัดผู้ติดยาเสพติด" นั้น มีจำนวนสัดส่วนของคนที่มีการกลับมาติดยาซ้ำด้วยสาเหตุอะไรบ้าง

ด้านกลไกสาธารณสุข จะต้องปรับและพัฒนาในแง่ของการให้ "ภาคเอกชน" เข้ามามีส่วนร่วมในการบำบัดได้อย่างไร แม้แต่ภาครัฐเองสนับสนุนกลไกเหล่านั้นได้มากน้อยแค่ไหน

อีกทั้งในส่วนของนโยบายยึดทรัพย์ หรือ "ตัดวงจรการฟอกเงิน" ของยาเสพติด รัฐบาลต้องสามารถสร้างกลไกในการประเมินได้ว่านโยบายการยึดทรัพย์นั้น เป็นนโยบายการยึดทรัพย์ภายหลังการตัดสินของศาลหรือไม่
\"ฐิติวุฒิ\" ผ่าทางตันรัฐบาล ทวงคืนนโยบายปราบยาเสพติด
การ"ยึดทรัพย์"ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวนปัญหาที่พบในปัจจุบัน คือเกิดการฟ้องกลับจากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ โดยรัฐบาลจะต้องหาต้นเหตุของสถานการณ์ดังกล่าวให้ชัดเจน

ในด้านการเจรจาของกับ" ประเทศเพื่อนบ้าน" ในการสกัดกั้น และการปราบปรามยาเสพติดนั้น รัฐบาลเอง จะต้องสามารถประเมินได้เช่นกันว่า การเจรจาที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จเกิดจากสาเหตุอะไร หรือหากมีการเจรจาแล้ว แต่ทำไมดัชนีตัวเลขการจับยาเสพติด และการลักลอบยาเสพติดเข้าสู่ในประเทศไทยจึงยังไม่ลดลง

อาจกล่าวได้ว่าจุดอ่อนของรัฐบาลในการสร้าง "นโยบายปราบปรามยาเสพติด" คือ การไม่หันไปทบทวนจุดอ่อน กับช่องว่างในอดีตก่อน ที่จะมีการดำเนินนโยบายยาเสพติดต่อไปในอนาคต ซึ่งหากไม่มีการประเมินแล้ว นอกจากจะทำให้ยาเสพติดมีพิษร้ายต่อสังคมต่อ เนื่องแล้วยังทำให้เป็น "การสร้างความล้มเหลวในเชิงนโยบายซ้ำซ้อน"
\"ฐิติวุฒิ\" ผ่าทางตันรัฐบาล ทวงคืนนโยบายปราบยาเสพติด

ข้อพิจารณาที่สำคัญต่อ "รัฐบาล" ก่อนที่จะมีการดำเนินการนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดนั่นคือ การลดปัญหาอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวเนื่องกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้แก่

"ประการแรก" การปรับประกาศและกฎกระทรวงที่เกี่ยวเนื่องกับ "สารตั้งต้น" โดยเฉพาะสารตั้งต้นที่เกี่ยวเนื่องกับ "ยาเสพติด" ที่มีการส่งออกนอกประเทศ หรือประเทศไทยกลายเป็นทางผ่าน ซึ่งในสารตั้งต้นที่ระบุในประกาศในแต่ละกระทรวงมีหลากหลายประเภท และมีความไม่ชัดเจน โดยเฉพาะสารตั้งต้นบางประเภท ไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด

แต่เมื่อถูกส่งออกแล้วกลับถูกนำไปผลิตยาเสพติด อีกทั้งในบางบัญชีของแต่ละกระทรวงยังระบุสารตั้งต้นไม่ตรงกัน ฉะนั้น "รัฐบาล" ต้องตั้งคณะกรรมการหรืออนุกรรมการในการตรวจสอบแก้ไขปัญหาประกาศและกฎกระทรวงอย่างเร่งด่วน
\"ฐิติวุฒิ\" ผ่าทางตันรัฐบาล ทวงคืนนโยบายปราบยาเสพติด
"ประการที่สอง" การปรับประกาศและกฎกระทรวงที่เกี่ยวเนื่องกับการตรวจสอบ หรือให้การสนับสนุน "บริษัทเอกชน" ในการตรวจสอบการขนส่งยาเสพติด แม้ว่าในปัจจุบันจะมีประกาศที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบยาเสพติดที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัทเอกชนแล้ว แต่อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐเองก็มีความสุ่มเสี่ยงเช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะการให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบภาคเอกชนในการตรวจสอบ "พัสดุ" ที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดก่อนส่งทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ในปัจจุบันกำลังรอคอยการตรวจสอบและแก้ไขจากรัฐบาลด้วยเช่นกัน

"ประการที่สาม" การปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน โดยเฉพาะ "เงินลงทุน" ที่เกี่ยวเนื่องกับภาคธุรกิจในประเทศไทยในปัจจุบัน ทั้งที่มาจากนักลงทุนภายนอกประเทศ และนักลงทุนภายในประเทศ ซึ่งอาจจะมีข้อกังขาต่อแหล่งเงินในการลงทุน และในกรณีของยาเสพติดนั้น ยังเกี่ยวเนื่องกับการลงทุนทางด้านเศรษฐกิจที่ใช้เป็นข้ออ้างในการ "ฟอกเงิน" อีกด้วย
\"ฐิติวุฒิ\" ผ่าทางตันรัฐบาล ทวงคืนนโยบายปราบยาเสพติด
ซึ่งช่องว่างดังกล่าวในปัจจุบัน "การฟอกเงิน" หรือจับกุม "ขบวนการฟอกเงิน" หากไม่มีฐานความผิดจะไม่สามารถจับกลุ่มได้ แต่ในข้อเท็จจริงรัฐบาลสามารถที่จะหากลไกในการตรวจสอบเพื่อป้องกันการลงทุนเงินเกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดได้เช่นเดียวกัน และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องแก้ไขปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

"ประการที่สุดท้าย" ความท้าทายที่รัฐบาลทุกรัฐบาล พยายามที่ใช้เป็นข้ออ้างนั่นก็คือการแก้ไขปัญหายาเสพติด จะต้องมีการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน หากแต่คำถามที่สำคัญคือว่ารัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน มีศักยภาพหรือมีอำนาจมากน้อยเพียงใดในการเข้าไปแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือทำได้เพียงการสกัดจับ "ยาเสพติด" ในพื้นที่รอบนอกเท่านั้น

อีกทั้ง "รัฐบาล" ยังมีความจำเป็นจะต้องระมัดระวังการให้ความร่วมมือกับประเทศมหาอำนาจและองค์กรระหว่างประเทศ ที่ทำงานที่เกี่ยวเนื่องกับ "ยาเสพติด" โดยเฉพาะไม่ทำให้ประเด็นยาเสพติดกลายเป็นส่วนหนึ่ง ของการแข่งขันของชาติมหาอำนาจ นโยบายชายแดนที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด

จึงมีความจำเป็นที่ "รัฐบาล" จะต้องสร้างความกระจ่างให้ชัดเจนว่า การเจรจาจะต้องเจรจากับ "รัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน" หรือผู้กลุ่มอำนาจ หรือกองกำลังติดอาวุธ ที่กุมอำนาจที่แท้จริงในระดับพื้นที่กันแน่?

หาไม่แล้วนโยบายการป้องกันปราบปรามยาเสพติด จะเป็นเพียงนโยบายแค่ต้องการให้ตั้งรับ และทำให้กลไกของรัฐไล่ติดตามปัญหายาเสพติดอยู่ร่ำไป

logoline