svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ส่องเกม" เพื่อไทย VS ก้าวไกล...ใครกันไอโอ? 

08 กันยายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สถานการณ์ "พ่ายทั้งกระดาน" มีเหตุปัจจัยตรงกันข้ามกับ "จุดแข็ง" หรือพูดง่ายๆ คือ จุดทั้งหมดที่ทำให้เพื่อไทยเป็นผู้ชนะทางการเมือง นั่นหมายความว่า จุดแข็งเหล่านั้น เป็น "จุดอ่อน" ของพรรคก้าวไกลนั่นเอง 

สาเหตุปัจจัยที่ทำให้เป็นจุดแข็ง เมื่อกะเทาะออกมา คือ  

1.ความเก๋าทางการเมือง แน่นอนว่าพรรคก้าวไกลเพิ่งตั้งไม่นาน ผ่านการเลือกตั้งมาเพียง 2 ครั้ง รวมถึงแกนนำและสมาชิกเป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้ "ความเขี้ยว" และประสบการณ์การเมืองมีน้อย หรือ เที่ยวบินยังไม่สูงนัก 

2.บุคลากรของพรรคมีประสบการณ์ไม่มาก ทั้งเรื่องเกมการเมือง และกฎหมาย จะสังเกตเห็นได้ชัดว่า ก้าวไกลตายตามตื้นบ่อยครั้ง เช่น 

  • คดีกู้เงิน ที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ
  • คดีหุ้นสื่อ หัวหน้าพรรคโดน ทั้ง 2 คน 2 ยุค คือ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล 
  • สส.พรรคเป็นพวกหน้าใหม่ ยังวัยรุ่น ยังไปเที่ยวสังสรรค์ เฮฮา ไม่อยู่ตามเซฟเฮาส์ กลายเป็นข่าวอื้อฉาวบ่อยครั้ง 
  • สส.พรรคอายุน้อยกว่า 35 เป็นส่วนใหญ่ ทำให้แม้ได้เป็นรัฐบาล ก็มีคนพร้อมเป็นรัฐมนตรีไม่มาก ต้องพึ่งพาคนนอก เนื่องจากคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป 

3.พันธมิตรทางการเมืองมีน้อย จะเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกลมีแต่ศัตรู ไม่มีพรรคการเมืองไหนอย่างร่วมงานด้วย เนื่องจากนโยบายแรง และกระทบกลุ่มอำนาจเก่า หรือกลุ่มทุนที่มีบทบาทสูงในประเทศ 

4.นโยบายไม่ยืดหยุ่น ตรง แรง มุ่งรื้อ ปฏิรูปแนวปฏิวัติ ไม่ใช่ปรับเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป การหาเสียงสไตล์ "ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม" ทำให้หลายคนกลัวว่าการเปลี่ยนแปลง จะนำพาไปสู่สิ่งที่ไม่คาดคิด และดึงกลับมา หรือแก้ไขกลับมาไม่ได้ ถ้าทำแล้วผิดพลาดไป 

5.วาทกรรมที่พรรคใช้ มักเป็นแนวสร้างกระแสกลุ่มตน ปลุกระดม ปลุกใจ แต่ไม่เน้นความหมายเชิงบวกในทางการเมือง ยกตัวอย่าง เช่น ยกเลิกเกณฑ์ทหาร , ปฏิรูปกองทัพ , ยุบ กอ.รมน. ฯลฯ 

ความพ่ายแพ้ในหน้ากระดานการเมืองหลังเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล ทำให้แกนนำพรรครวมตัวหารือกันบ่อยครั้ง และประเมินทิศทางอนาคตของพรรคตน 

  1. สู้ต่อไป ไม่ท้อ ไม่ถอย 
  2. มั่นใจว่า เลือกตั้งครั้งหน้า พวกตนจะกลับมา และได้ สส.มากกว่าเดิม 
  3. เชื่อมั่นว่า การตั้งรัฐบาลสลายขั้วของเพื่อไทย ทำให้เสียคะแนนนิยมมาก หากเลือกตั้งใหม่พรุ่งนี้ เพื่อไทยจะเหลือ สส.แค่ 60 เก้าอี้ 
  4. แต่ก็ยอมรับว่า ข้อ 3 จะไม่เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลนี้น่าจะอยู่ครบ 4 ปี เพราะไม่มีใครอยากเลือกตั้งเร็ว 
  5. นายกฯเศรษฐาอาจไปไม่รอด แต่รัฐบาลไม่ล้ม ขั้วการเมืองนี้จะอยู่ต่อไป แต่อาจเปลี่ยนตัวนายกฯแทนหากถึงทางตัน 
  6. หากมีการเลือกตั้งใหม่ ขั้วการเมืองนี้จะจับมือกันหลวมๆ เหมือน "อัมโน" ของมาเลเซีย แล้วรวมตัวกันสู้กับก้าวไกล ด้วยการไม่ส่ง สส. แข่งกันเอง อาจมีการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดกติกาเลือกตั้งใหม่ที่คิดว่าฝ่ายรัฐบาลได้เปรียบ 

ชัยชนะของก้าวไกลถูกวางแผนเอาไว้จากการทำงานสภาอย่างเข้มแข็ง ทำงานพื้นที่อย่างจริงจัง และสร้างกระแสบนสื่อสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง และมีเรื่องใหม่ๆ ที่ทันกระแสอยู่เสมอ 

ทั้งนี้ ก็ต้องยอมรับว่า ข้อมูลบางส่วนอาจมีลักษณะเป็น "ไอโอ" หรือปฏิบัติการข่าวสาร ที่อาจไม่ตรงความจริงเสียทีเดียว และคู่แข่งเริ่มรู้เท่าทัน ก็มีการใช้ "ไอโอ" กลับ และบางฝ่ายพยายามให้ข้อเท็จจริงที่รอบด้านกับสังคมมากขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่นการโจมตีว่า "รัฐบาลเศรษฐา" ก็คือ "รัฐบาลประยุทธ์ ที่ไม่มีประยุทธ์" 

เรื่องนี้ "ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น" ผอ.เนชั่นโพล และผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เลขาธิการสมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย ก็ยังมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดไปจากความจริงพอสมควร 

  • ข้อครหาที่มีต่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1 ที่ว่อนโลกโซเชียลฯนั้น สร้างความสะใจให้กับแฟนคลับของตน แต่ข้อมูลไม่ตรงกับความจริง 
  • ครม.ชุดนี้มีทั้งหมด 34 คน มีรัฐมนตรีหน้าเก่าจากรัฐบาลชุด "บิ๊กตู่" จำนวน 10 คน คิดเป็น 29.4% หรือน้อยกว่า 1 ใน 3 ของ ครม.เศรษฐา 1 
  • หากไม่นับชื่อ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" และ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" ซึ่งทั้งสองเคยเป็น รมต.ในรัฐบาล "ลุงตู่" ก็จริง แต่ปัจจุบันย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ช่วงก่อนเลือกตั้ง ดังนั้น หลังเลือกตั้งจึงต้องนับสองคนนี้ในนามพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คือ เพื่อไทยที่เป็นสังกัดใหม่ ไม่ใช่ในนาม พปชร. สังกัดเก่า 


ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถนับรัฐมนตรีที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาลของรัฐบาล "ลุงตู่" เหลือเพียง 8 คน จาก 34 คน หรือคิดเป็น 23.5 % ซึ่งน้อยกว่า 1 ใน 4 ด้วยซ้ำ ดังนั้น ประโยคที่ว่า "เปลี่ยนแค่หัว แต่ รมต. หน้าเดิม" จึงไม่ตรงกับความจริงที่ปรากฏของรัฐบาลเศรษฐา 1 

นี่คือตัวอย่างงานท้าทายของก้าวไกล เพราะคู่แข่งรู้เท่าทันว่าเอาชนะมาได้อย่างไร และแก้เกมกันอย่างขะมักเขม้น ทำให้ชัยชนะในอีก 4 ปีข้างหน้า อาจไม่ง่ายหรือโรยด้วยกลับกุหลาบเสมอไป

logoline