svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

โฉม"ครม.เศรษฐา 1"สะท้อนรัฐบาลฉันทานุมัติเครือข่ายอำนาจ

29 สิงหาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สำหรับโฉมหน้า "ครม.เศรษฐา 1" กำลังกลายเป็นที่โฟกัสจากสังคม เพราะเกิดคำถามกับรายชื่อที่ปรากฏว่าตั้ง ถูกฝา ถูกฝั่ง ถูกตัว จริงแท้แค่ไหน และเหมาะสมมากน้อยเพียงใด

โดย "รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้ความเห็นผ่าน “เนชั่นทีวี” ถึงเรื่องนี้ ซึ่งขอเรียกว่า "รัฐบาลนิดหน่อย" ส่วนสาเหตุต้องเรียกชื่อนี้ คือ 1.นายกฯชื่อ "นิด" และ 2.มีอำนาจ "หน่อย" เดียว

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว

ทั้งนี้ เพราะเป็นรัฐบาลที่ตั้งขึ้นจากฉันทานุมัติเครือข่ายอำนาจในสังคม จึงต้องร่วมไม้ร่วมมือกันกับเครือข่าย ทำให้การตั้ง ครม. ไม่สามารถทำได้ตามอำเภอใจ หรือตามอำนาจตัวเอง เป็นการตั้งเพื่อแชร์อำนาจผลประโยชน์ให้กับกลุ่มอำนาจที่ให้ฉันทานุมัติ

"เราจะเห็นตัวแทนกลุ่มทุน พรรคร่วม และบรรดาพรรคร่วมมีโควตามุ้งต่างๆ ที่ดูแล สส. หรืออยู่ในอำนาจเข้าของพรรคจริงๆ หรือคนของตระกูลต่างๆ คนใกล้ชิดคุณทักษิณ ซึ่งเป็นนายกฯตัวจริง ทำให้หน้าตารัฐบาลที่ออกมา ไม่ค่อยประทับใจประชาชนเท่าไหร่นัก" รศ.ดร.โอฬาร ระบุ

รศ.ดร.โอฬาร ขยายความต่อว่า เพราะประชาชนรู้สึกผิดหวัง เนื่องจากต้องอยู่กับรัฐบาลประยุทธ์ มา 9 ปี ก็อยากสร้างความหวังใหม่ โดยเห็นหน้าตารัฐบาลชุดใหม่ แต่สุดท้ายหน้าตายังคงเดิม คือ ในสมัยของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แค่เพิ่มเติมพรรคเพื่อไทยเข้ามา ดังนั้น จะว่ายี้ก็ได้

ส่วนรัฐบาลเศรษฐา 1 จะอยู่ได้นานแค่ไหน ซึ่งโครงสร้างที่แบ็คอัพเพื่อไทยนั้นมีความได้เปรียบอยู่ เพราะมีกลุ่มทุน ข้าราชการ รวมถึงการเมือง ซึ่งปัจจัยโครงสร้างที่ส่งผลให้อยู่ได้ยาว แต่รัฐบาลก็จะมีปัญหาเรื่องการบริหารอำนาจใน ครม. และ "นายเศรษฐา ทวีสิน" กลายเป็นนายกฯอุปโลกน์ เพราะ "นายทักษิณ ชินวัตร" สั่งการผ่านเลขานายกฯ ทำให้ไม่มีอำนาจจริง เห็นได้จากการตั้ง ครม. ที่ดูจะไม่ให้ราคาคุณเศรษฐา

โฉม\"ครม.เศรษฐา 1\"สะท้อนรัฐบาลฉันทานุมัติเครือข่ายอำนาจ

นอกจากนี้ ปัญหาที่จะตามมาของ ครม.เศรษฐา 1 เมื่อมาจากกลุ่มทุน ก็นำไปสู่โอกาสถอนทุน ซึ่งปัญหาคอร์รัปชันตามมา จากภายใน และจากที่นายเศรษฐา ไม่มีอำนาจ จนเกิดบุฟเฟ่ต์คาบิเนต เมื่อสังคมที่ผิดหวังอยู่แล้วจากเพื่อไทย ทำให้ประชาชนไปหนุนก้าวไกลมากขึ้นในการตรวจสอบ อาจทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ถึง 4 ปี หรือครบเทอม

"แม้โครงสร้างเอื้ออำนวย แต่การทำงานร่วมกับพรรคร่วมลักษณะนี้ ก็ส่งผลต่ออายุรัฐบาลให้สั้นลง เพราะแรงสนับนุนประชาชนไม่มี และฝ่ายค้านตรวจสอบเชิงรุก คนอาจไปร่วมฝ่ายค้าน และอาจเกิดม็อบลงถนน" รศ.ดร.โอฬาร ระบุ

อย่างไรก็ตาม ถ้าให้คนร้องว้าว หน้าตา ครม. ต้องไม่เป็นแบบนี้ เมื่อเป็นรัฐบาลก็ลำบาก ซึ่งการฟื้นเศรษฐกิจก็ต้องทำเต็มที่ เช่น เงินเดือนปริญญาตรี 2.5 หมื่นบาท ดิจิทัลวอลเล็ต หากให้ดีหน่อย ก็ต้องหักหลัง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร เพราะทางยุทธศาสตร์ เพื่อไทยถือว่าสำเร็จแล้ว 90 เปอร์เซ็น ในการเอานายทักษิณ กลับบ้าน เหลือ 10 เปอร์เซ็น คือ การขอพระราชทานอภัยโทษ นอกเสียจาก พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร ไหวตัวทัน

"ตอนนี้เพื่อไทยไม่รู้กอบกู้ยังไง จะหักกลังพล.อ.ประยุทธ์ โชว์ แต่ได้หัก พล.อ.ประวิตร มาหน่อย ยกตัวอย่าง เช่น กระทรวงกลาโหม เป็นของเพื่อไทย และถ้าคุณทักษิณ ออกมาได้ บ้านป่ารอยต่อ จะกลายเป็นบ้านพักชายชราผู้สิ้นหวัง คุณประยุทธ์ คุณประวิตร ก็ไปนั่งสูบไปป์ ที่นั่น" นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ประเมิน

ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยจะเอาพลเรือนมาคุมกระทรวงกลาโหม เชื่อว่าทำได้ แต่อาจจะต้องมี รมช.กลาโหม ที่เป็นทหารเข้ามาช่วยเสริม แต่ไม่รู้เครือข่ายอยู่หรือไม่ และโฉมหน้า ครม. โดยเฉพาะเอาคนใกล้ชิดนายทักษิณ เช่น "นายพิชิต ชื่นบาน" เข้ามาดูกฎหมาย นั่นคือการแสดงถึงความไม่พร้อมของเพื่อไทยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะคนคิดเรื่องนี้ คือ "นายชูศักดิ์ ศิรินิล" จึงสะท้อนเป็นรัฐฉันทานุมัติเครือข่ายอำนาจ

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทย ที่เป็นของพรรคภูมิใจไทย ทำให้ดูว่าภูมิใจไทยมีการต่อรองสูง ซึ่งจริงๆ กระทรวงนี้ไม่ควรให้พรรคร่วมอื่น แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็เคยเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้เพื่อไทยต้องประนีประนอมกับผู้ว่าฯ โดยเฉพาะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ที่เคยพูดไว้ ซึ่งเพื่อไทยถือว่าถอยอย่างมีชั้นเชิง หากไม่เกิดขึ้นก็อ้างได้ว่ากระทรวงนี้ภูมิใจไทยดูแล หรือการปฏิรูปกองทัพ ที่นายเศรษฐาพยายามเลี่ยง โดยใช้คำว่าบริหารร่วมกัน ทั้งหมดเป็นภาพรวม ครม. ที่ยอมทำตามฉันทานุมัติเครือข่ายอำนาจ

 

logoline