
หลายคนคงคุ้นหน้าคร่าตา เพราะเห็นบ่อยในช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งผ่านมา กับบทบาทแม่ทัพเมืองหลวง กทม. พาผู้สมัคร สส. เดินสายหาเสียงตามพื้นที่ต่างๆ
“เนชั่นทีวี” พามาทำความรู้จัก “พวงเพ็ชร” ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน เพราะคร่ำหวอดอยู่กับ “เพื่อไทย” มาตั้งแต่ยุค “ไทยรักไทย” จนถูกขนานนามว่าเป็นคนตัวเล็กแต่ใจใหญ่ แถมพึ่งพาได้เสมอ จึงเป็นที่นับถือของเหล่าบรรดานักการเมือง นักธุรกิจ และคนดังทั่วประเทศ
ตลอดเส้นทางการเมืองของ “พวงเพ็ชร” นับว่ามีสายสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวชินวัตรมาโดยตลอด โดยเฉพาะช่วงที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องลี้ภัยอยู่ในต่างแดน “พวงเพ็ชร” เดินทางไปพบบ่อยครั้ง นับเป็นขุนพลการเมืองที่ครอบครัวชินวัตร ไว้วางใจมากที่สุดคนหนึ่งก็ว่าได้ ปัจจุบัน “พวงเพ็ชร” มีบทบาทสำคัญ ใฐานะเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพมหานครของพรรคเพื่อไทย
ย้อนกลับไปก่อนเข้าสู่ถนนการเมือง “พวงเพ็ชร” แจ้งเกิดครั้งแรก โดยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเลย (ส.อบจ.เลย) เขตอำเภอภูเรือ เมื่อปี 2538 ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2539 ตัดสินใจลงสมัคร สส.เลย นามพรรคชาติพัฒนา ซึ่งลงเลือกตั้งในทีมเดียวกันกับ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก อดีตผู้บัญชาการทหารบก และผลเลือกตั้งครั้งนั้น ได้คะแนน 109,880 คะแนน ทำให้ได้เป็น สส.สมัยแรก
จากนั้น “พวงเพ็ชร” เข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2548 โดยได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ และที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรีและเลขานุการรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวง
ต่อมาหลังการรัฐประหารปี 2549 “พวงเพ็ชร” ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2550 เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรค ทำให้ได้รับสถานะเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จนกระทั่งหลุดบ่วงคำพิพากษา ก็ได้หวนคืนสู่เวทีการเมืองอีกครั้ง ในปี 2556 โดยได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
จนในปี 2561 ได้แยกตัวออกจากเพื่อไทย สร้าง “พรรคไทยรักษาชาติ” พร้อมรับหน้าที่นั่งเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. เขต และผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ แต่สุดท้าย “ไทยรักษาชาติ” ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ประสบอุบัติเหตุ จากการเสนอชื่อแคนดิเดตฯ ทำให้พรรคต้องอันตรธารไปจากสารบบการเมืองไทย
ถึงจะหายไปแต่ก็ยังทำงานเบื้องหลัง โดยเฉพาะช่วงศึกเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ พรรคเพื่อไทย มีการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานพื้นที่เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ โดย “พวงเพ็ชร” รับหน้าที่สนับสนุน “สุรชาติ เทียนทอง” จนสามารถเอาชนะ “สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” ภรรยา “สิระ เจนจาคะ” จากพลังประชารัฐ เจ้าของพื้นที่เดิมไปได้
ต่อมาได้นั่งเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย และโชว์ศักยภาพด้วยการกวาดเก้าอี้ สก. มาได้ 20 ตัว จากทั้งหมด 50 ที่นั่งให้กับเพื่อไทย จนสื่อมวลชนพากันขนานนามให้เป็น “มาดามนครบาล” เมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง สก. พรรคเพื่อไทย แต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยการเลือกตั้งทั่วไป 14 พ.ค. 2566 “พวงเพ็ชร” ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ระบบบัญชีรายชื่อ ในลำดับที่ 98 และด้วยความสามารถพร้อมคอนเนคชั่นที่ไม่ธรรมดา และว่ากันว่าสมรภูมิเมืองกรุง ได้รับความสนใจไม่น้อย จึงถูกรับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกแบ่งเป็น 6 โซน
ซึ่ง “พวงเพ็ชร” ถูกตั้งเป็นประธานรับผิดชอบโซนที่ 2 ประกอบด้วย เขตดินแดง, ห้วยขวาง, พญาไท, ราชเทวี, จตุจักร, บางซื่อ ,หลักสี่, จตุจักร, ลาดพร้าว และวังทองหลาง เรียกว่ามีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้ง กทม. รอบที่ผ่านมา ทำให้ชื่อเสียงเรียงนาม ภายใต้ “มาดามเมืองหลวง” หรือ “มาดามนครบาล” คนใหม่ จึงถูกพูดถึงและให้การยอมรับจากคนเพื่อไทยเรื่อยมา
สำหรับประวัติส่วนตัว
“พวงเพ็ชร” เกิดเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2500 กรุงเทพมหานคร เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนเส้นทางชีวิตครอบครัว สมรสกับ “อัญญฤทธิ์ นิรมร” มีบุตรธิดาด้วยกัน 2 คน คือ “อลิน นิรมร” และ “อรัญชัย นิรมร”
ส่วนประวัติการศึกษา