"พิธา" ให้กำลังใจ "เศรษฐา" ห่วงเกิด "วิกฤตศรัทธา"

25 สิงหาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่ช่วย นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์  ผู้สมัคร สส.เขต 3 จ.ระยอง หาเสียงเลือกตั้งซ่อมว่า ได้ลงพื้นที่มาหาเสียงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สามแล้ว โดยสัปดาห์นี้จะมาพูด เรื่องน้ำมันรั่วที่จ.ระยอง ที่ศาลเพิ่งตัดสินคดีที่ผ่านมา จึงมีความเป็นห่วง โดยได้นำ สส.บัญชีรายชื่อที่ทำเรื่องขยะอุตสาหกรรมและมลพิษมาให้ความมั่นใจว่า เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้แค่เพียง “โย พงศธร” คนเดียว แต่จะได้ทั้งอดีตสส.ที่เคยทำงานในเขตนี้ และได้ สส.บัญชีรายชื่อที่มีความเชี่ยวชาญด้วย

การเลือกตั้งในครั้งนี้ พรรคก้าวไกลมีความมั่นใจ แต่ไม่ประมาท ซึ่งมั่นใจว่าประชาชนยังไม่ลืมเรา ถึงแม้จะเป็นฝ่ายค้านก็จะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ก็ยังสามารถสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้ แต่ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งซ่อมหลายคนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เพราะฉะนั้นจึงประมาทไม่ได้ต้องรณรงค์สม่ำเสมอ ให้คนเห็นประโยชน์ของการเลือกตั้งและความสำเร็จจากการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า มองว่า “รัฐบาลเศรษฐา”(นายเศรษฐา ทวีสิน) จะถูกครอบงำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตามมารยาทการเมืองก็คงต้องให้เวลา และต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ถ้าผลงาน กระบวนการทำงานมีความตรงไปตรงมา และประสิทธิภาพการทำงานเป็นที่ประจักษ์ ก็คิดว่าจะฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนได้ แต่ที่กังวลใจในรัฐบาลชุดนี้ เมื่อโผคณะรัฐมนตรี(ครม.) ยังไม่ออกมา คือเรื่องวิกฤตศรัทธา เพราะการเข้าสู่อำนาจไม่ได้ตรงตามที่พูดคุยกับประชาชนตามที่หาเสียงไว้ แต่ถ้าตั้งใจทำงาน มีความสุจริตในการบริหารราชการแผ่นดินและมีผลงาน ก็จะได้รับศรัทธาคืนจากประชาชน และเป็นกำลังใจให้นายเศรษฐา

ส่วนกรณีกระแสข่าวการจัดตั้งพรรคอนาคตไกลนั้น นายพิธา ยืนยันว่า ตนไม่รู้จักพรรคอนาคตไกล และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล ซึ่งในการเมืองทั่วไปก็เป็นสิทธิเสรีภาพใครจะตั้งพรรคก็ได้ และจังหวะในการตั้งพรรคเพื่อชี้นำประเด็นอะไรบางอย่าง ตนเชื่อว่า ประชาชนเขารู้ทัน

นายพิธา กล่าวถึงสภาพจิตใจของตัวเองและคนในพรรคว่า สำหรับตน เวลาลงพื้นที่ประชาชนก็บอกว่าอย่าเสียใจ ตนพูดได้เต็มปากเต็มคำ ตนภูมิใจมากกับสิ่งที่เราได้ทำด้วยกัน ตอนเริ่มทำแคมเปญก็บอกแค่ 30 เสียง ตอนนี้โตมา 5 เท่า เป็น150 เสียง เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรให้เสียใจ มีแต่เรื่องที่จะต้องภูมิใจกับสิ่งที่เรียนรู้มาและก็รู้สึกว่า ตนเองเป็นนักการเมืองที่ดีขึ้นมาก ตอนนี้เป็นนายพิธา เวอร์ชั่น 2 ที่รู้จักรับฟัง มีวุฒิภาวะ และเข้าใจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นตนรู้สึกภูมิใจในการเดินทางของพรรคก้าวไกลเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีความเสียใจเลยแม้แต่นิดเดียว

ทั้งนี้การลงพื้นที่ในช่วงบ่าย เริ่มต้นซอยบ้านนา 3 ต.ทางเกวียน แล้วไปชุมชนโพธิเงิน ถนนเกาะหนองโบสถ์ ชุมชนแหลมยาง ตลาดนัดหนองกะพ้อ และจุดสุดท้ายที่ ตลาดนัดวังหว้า ต.วังหว้า อ.แกลง ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ เข้ามาขอถ่ายรูป ให้กำลังใจนายพิธา และผู้สมัคร สส.ตลอดทาง ซึ่งการปราศรัยส่วนใหญ่จะเป็นการเชิญชวนให้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 10 ก.ย.

แต่ส่วนหนึ่งของการปราศรัย นายพิธา จะย้ำถึงการเป็นฝ่ายค้านด้วยว่า “ประชาชนกว่า 14 ล้านคนในประเทศนี้ เลือกผมมาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เลือกมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นไม่รับ ไม่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไปแน่นอน ต่อไปนี้พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องร้องไห้ ไม่ต้องเสียใจอีกต่อไป เผาความเสียใจ เผาความคับแค้นให้กลายเป็นพลังงาน เอาความรู้สึกคับแค้น ความผิดหวัง ความเสียใจ เผาให้เป็นพลังงานขับเคลื่อนระยอง ขับเคลื่อนประเทศนี้ไปด้วยกัน”