17 สิงหาคม 2566 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ก้าวไกล ยื่นร่างรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยการตั้ง ส.ส.ร.คู่ขนาน NGO ที่ต้องการประชามติแก้ได้ทุกหมวด ทุกมาตรา อันตรายกว่าแก้ ม.112
จากข่าวที่ NGO รับเงินจากต่างชาติ จะรวบรวมรายชื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญด้วยการร่างใหม่ทั้งฉบับ แก้ได้ทุกหมวดและทุกมาตรา
ล่าสุดพรรคก้าวไกลเสนอวาระเข้าสภา เพื่อมีมติเสนอครม. ดันการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยส.ส.ร. เป็นการทำงานคู่ขนานกัน
เรื่องนี้อันตรายกว่าการแก้ไขมาตรา112 เพราะข้อมูลของขบวนการสามนิ้ว ที่เขาต้องการแก้ไข จากการรวบรวมข้อมูลอดีต จะประกอบไปด้วย
1.แก้ไขหมวดพระมหากษัตริย์ ให้สามารถฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ได้ สภาผู้แทนฯอยู่เหนือสถาบัน เพราะพระมหากษัตริย์ต้องปฏิญาณตนต่อสภา ยกเลิกองคมนตรี และยังมีอื่นๆ อีกเพื่อด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์
2.แก้ไขมาตรา 1 ที่ประเทศเป็นราชอาณาจักร แบ่งแยกไม่ได้ เพราะมีแผนที่จะแก้ให้จังหวัดเป็นรัฐ ผู้ว่าฯมาจากการเลือกตั้ง แต่มีอำนาจแบบผู้ว่าการรัฐ รวมทั้งให้เกิดการปกครองตนเองบางพื้นที่
3.สร้างระบบสภาเดียว มีแต่ สส. ไม่มี สว. สภาผู้แทนจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ขาดการถ่วงดุล เพื่อจะได้แต่งตั้งองค์กรอิสระเอง และโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ
การแก้รัฐธรรมนูญด้วยร่างทั้งฉบับโดย ส.ส.ร. จึงเป็นเป็นแผน ลับลวงพลาง เพื่อล้มล้างสถาบัน ยึดครองประเทศที่อันตรายมาก บอกแล้วว่าอันตรายกว่าการแก้ไขมาตรา 112 เพราะประชาชนแทบจะตามไม่ทัน