11 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ถึงการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย ได้จับมือกับพรรคการเมืองต่าง ๆ พร้อมใจยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยไปแล้วจำนวนมาก ประกอบด้วย
ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะยังไม่แถลงข่าวร่วมกัน แต่แสดงความชัดเจนว่าจะยกมือ 40 เสียงให้พรรคเพื่อไทย ทำให้มีเสียงรวมกันอยู่ที่ 278 เสียง โดยขณะนี้ชัดแล้วว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะมายกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย
หากเป็นเช่นนั้นจะเพิ่มอีก 36 เสียง และพรรคประชาธิปไตยใหม่อีก 1 เสียง จะทำให้รวบรวมเสียงได้ 315 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งหมด 500 คนแล้ว
แต่การโหวตนายกฯต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภาที่ประกอบด้วย สส.และสว. รวม 748 คน (สส.ลาออก 1 คน, สว.ลาออก 1 คน) ทำให้ต้องได้เสียงสว.เพิ่มเพียง 60 เสียง เพื่อมีเสียงรัฐสภาเกินกึ่งหนึ่งหรือ 375 เสียง เพื่อผลักดันแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย
ในส่วนของเก้าอี้รัฐมนตรี ขณะนี้ยังไม่มีการหารือว่าในสัดส่วนของพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลจะได้คนละกี่เก้าอี้ เพราะต้องเอาตัวเลขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดมาคำนวณ โดยจะนำจำนวน 315 เป็นตัวตั้งหารด้วยเก้าอี้รัฐมนตรี 35 เก้าอี้ ตก 9 เสียงต่อ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี และจะมีความชัดเจนว่าพรรคไหนได้กระทรวงใดหลังเลือกนายกฯเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม สมการร่วมรัฐบาลล่าสุดนี้ ส่งผลให้พรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่