ชะตากรรม "กลุ่มทะลุวัง"ปัจจุบัน-อนาคต ภายหลัง"บุ้ง" สร้างวีรกรรม

การเคลื่อนไหวของ "กลุ่มทะลุวัง" ที่กระทำต่อสถานที่ราชการ และสถานที่เอกชน อย่าง "พรรคเพื่อไทย" เมื่อช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ด้วยการแสดงพฤติกรรมเชิงสัญลักษณ์ ทั้งฉีดสีสเปรย์  กระทบกระทั่งเจ้าหน้าที่ หรือแม้แต่มีปากเสียงกับ บุคคลทางการเมืองระดับรัฐมนตรี มีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่ง มีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มดังกล่าว ต้องยื่นศาลขอถอนประกัน บรรดาแกนนำ  

ไม่เพียงเท่านั้น ศิษย์เก่าที่เคยอยู่ใน "กลุ่มทะลุวัง" ได้ออกมาโพสต์ข้อความแฉพฤติกรรมของกลุ่มทะลุวัง ชนิดรับไม่ได้กับการใช้ความรุนแรงนำการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะ “พลอย” ผู้ต้องหา"คดี 112" ที่ลี้ภัยไปอยู่แคนาดา โพสต์ข้อความ เปิดเผยเบื้องหลัง แกนนำกลุ่ม อย่าง “บุ้ง”  และการได้รับเงินบริจาคอย่างน่ากังขา  

เดือดร้อนไปถึงกลุ่มมวลชนที่มีการเคลื่อนไหวในแนวทางอุดมการณ์เดียวกัน จำเป็นต้องออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของ "กลุ่มทะลุวัง" บางกลุ่มยังออกมาระบุว่า ไม่มีแนวทางเคลื่อนไหวเหมือนกลุ่มทะลุวัง   

จากเหตุการณที่เกิดขึ้นทั้งหลายทำให้ “กลุ่มทะลุวัง” ถูกสืบค้นขึ้นมาอีกครั้ง ถึงเบื้องหน้าและเบื้องหลัง แท้ที่จริงเป็นอย่างไรกันแน่  

จุดเริ่มต้นกลุ่มทะลุวัง
เดิม “ทะลุวัง” เริ่มต้นมาจากการรวมตัวกันของ "กลุ่มมังกรปฏิวัติ" กับ "กลุ่มนักเรียนเลว" และ "กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ" โดยแกนนำสำคัญที่ออกมาเคลื่อนไหว ประกอบด้วย “บุ้ง" เนติพร เสน่ห์สังคม , “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ , “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง , พิมพ์ชนก ใจหงส์ , "ใบปอ" ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ (ซึ่งเดินทางกลับเกาหลีใต้วันนี้ ), ”เมนู” เมลิญณ์ ชัยลอม (ลี้ภัยไปฝรั่งเศส) และ "พลอย" เบญจมาภรณ์ นิวาส (ลี้ภัยไปแคนาดา )

สถานที่พัก พักอาศัยคอนโดแห่งหนึ่ง ในเมืองกรุง ซึ่งมีบุคคลคอยโอนเงินเพื่อจ่ายค่าเช่าคอนโดให้ทุกเดือน  

ครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปขอตรวจค้น จากการที่กลุ่มใช้คอนโดในการไลฟ์สดโจมตีสถาบัน แต่กลุ่มปฏิเสธในการให้ ตร.เข้าตรวจค้น พร้อมกับบันทึกภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำไปเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล กลายเป็นกระแสไวรัล โด่งดังมาครั้งหนึ่ง 

ภายหลัง สมาชิกกลุ่มต้องลี้ภัย ไปต่างประเทศ "บุ้ง"ได้สร้างแกนนำรุ่นใหม่และให้การดูแล จัดแจงแจกจ่ายมอบหมายหน้าที่ เช่น "หยก" คือ เยาวชน รุ่นใหม่ ถัดจาก 3-4 รายข้างต้นที่ลี้ภัยไปแล้ว     

การแตกตัวของกลุ่มทะลุวัง มีเครือข่าย จากการสร้างกลุ่มย่อย  ไม่ว่าเป็น กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ  นักเรียนเลว ทะลุแก๊ส  14 ขุนพล คณะราษฎร  ร่องนภา  กลุ่มเหล่านี้ มียอดผู้ร่วมเคลื่อนไหว ไม่เกิน 20 คน 

"การจัดตั้งกลุ่มย่อย แต่จำนวนคนเท่าเดิม" 

วัตถุประสงค์ เพราะ การใช้ชื่อกลุ่มต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยง การเปิดรับบริจาคเงินในการเคลื่อนไหว โดยกำหนดให้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เปิดรับบริจาค แต่เงินบริจาคจะกระจายไปยังกลุ่มเครือข่ายอีกครั้ง  

นอกจากนั้น การกระจายชื่อกลุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงการจับตาความเคลื่อนไหว ของเจ้าหน้าที่ และเป็นแนวทางจิตวิทยามวลชน ให้เห็นว่า มีการเกิดกลุ่มมวลชน ที่มีแนวความคิดทางการเมืองเดียวกัน หลายกลุ่ม ทั้งที่จำนวนผู้เคลื่อนไหวยังเท่าเดิม