"รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้ความเห็นต่อกรณีพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล โดยมองเป็นการแก้เกมของพรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้ได้วิเคราะห์ไว้กับ "เนชั่นทีวี" ว่า พรรคเพื่อไทยกำลังถูกรุมกินโต๊ะ
รศ.ดร.โอฬาร กล่าวต่อว่า เมื่อการรวมกันของ 2 พรรค คือ เพื่อไทย 141 เสียง กับภูมิใจไทย 71 เสียง รวมกันมีถึง 212 เสียง ทำให้เกิดอำนาจต่อรองสูง ประกอบกับ การที่ภูมิใจไทยมาร่วมครั้งนี้ ก็น่าจะเกิดจากความไม่พอใจกรณีที่ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" เลขาธิการพรรค ถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบประเด็นการถือครองที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ยังเปิดทางให้ สส. จากค่ายอื่นๆ ซึ่งก็น่าจะหมายถึงพรรคที่เคยปรากฏเป็นข่าว คือ พลังประชารัฐ ไม่รวม "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย รวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์ บางส่วนได้เข้าร่วม โดยเฉพาะคนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เพื่อไทยต้องการมากกว่าพลังประชารัฐ เนื่องจากไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ ประกอบกับยังมีเสียง สว. สนับสนุนมากกว่าจากฝั่งพลังประชารัฐ แต่ทั้งหมดเพื่อไทยก็ยังประมาทไม่ได้
ขณะที่ "รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช มองการจับมือจัดตั้งรัฐบาลของ 2 พรรคครั้งนี้ คงเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทย เห็นว่าจะมีข้อวิจารณ์ได้น้อยสุด ในการเดินหน้าฟื้นฟูความล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ เพราะภูมิใจไทยเป็นพรรคที่เงื่อนไขน้อยที่สุดในขณะนี้ ไม่มี 2 ลุง ดังนั้น การวางยุทธศาสตร์เดินหน้าของเพื่อไทยต่อจากนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ การประกาศจัดตั้งรัฐบาลต้องค่อยเป็นค่อยไป ครั้งนี้เป็นก้าวแรกของเพื่อไทย
ส่วนการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยในครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่นั้น ให้ 50/50 เพราะยังต้องฝ่าอีกหลายด่าน ทั้ง ท่าที สว. ที่มีต่อ "เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย หากมีการเสนอชื่อขึ้นโหวตนายกฯในการประชุมครั้งหน้าไม่ผ่าน มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะไหลไปสู่ "อนุทิน ชาญวีรกูล" หรือไปสู่ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ซึ่งมั่นใจว่าสถานการณ์การเมืองเช่นนี้ ทางพรรคเพื่อไทย จะไม่ส่ง "คุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร" ลงสนามอย่างแน่นอน เพราะมีความเสียงเกินไป