svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดช่อง"ฟาสต์แทร็ก"นักโทษวีไอพีแหกทุกข้อจำกัด 

28 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเชื่อว่า "ทักษิณ ชินวัตร" จะตัดสินใจกลับประเทศไทย เพื่อมารับโทษจำคุก 10 ปี ตามคำพิพากษาที่ถึงที่สุดแล้ว 3 คดี และลุ้นติดคุกอีกไม่รู้กี่ปี ใน 4-5 คดีที่ยังเหลือ

จากปรากฏการณ์ "ทักษิณ ชินวัตร" ประกาศจะกลับบ้าน ทำให้ทุกฝ่ายเชื่อตรงกันว่า น่าจะมีช่องทางที่ทำให้เจ้าตัวติดคุกสั้นที่สุด ส่วนการไม่เข้าเรือนจำเลยนั้น ไม่น่าจะมีช่องทางทำได้

"เนชั่นทีวี" ได้พูดคุยกับ "อดีตบิ๊กราชทัณฑ์" ว่าช่องทาง "ฟาสต์แทร็ก” มีจริงหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้ มีแบบนี้  โดยอดีตบิ๊กกรมคุกรายนี้ ออกตัวว่า ขอไม่พูดพาดพิงไปถึงตัวบุคคล และเรื่องพระราชอำนาจ

เปิดช่อง\"ฟาสต์แทร็ก\"นักโทษวีไอพีแหกทุกข้อจำกัด 

ประเด็นแรก ช่องทางลดโทษตามกฎหมาย และกฎระเบียบของราชทัณฑ์ 

โดยอดีตบิ๊กย้ำว่า ช่องทางเหล่านี้มีอยู่จริง ใช้กับทุกคน เพียงแต่การใช้นั้น มีศิลปะแตกต่างกัน บางคนรู้ข้อมูลในรายละเอียดเยอะกว่า มีที่ปรึกษาดีกว่า รู้ช่องทางละเอียดกว่า ก็ได้ประโยชน์เยอะกว่า จึงไม่แปลกที่ คนรวย อภิสิทธิ์ชน คนที่ปัญญาจ้างทนายเก่งๆ ได้ มีที่ปรึกษาดี หรือบุคคลระดับวีไอพี จึงติดคุกสั้นกว่าตาสีตาสา ลูกยายมา ยายมี 

ทั้งนี้ 3 ช่องทางที่สำคัญ คือ 

1. "ลดวันต้องโทษ"

-ลดได้สูงสุดเดือนละไม่เกิน 5 วัน เฉพาะผู้ต้องขังชั้นเยี่ยมเท่านั้น ซึ่งผู้ต้องขังมี 6 ชั้น

  1. ชั้นเยี่ยม
  2. ชั้นดีมาก
  3. ชั้นดี
  4. ชั้นกลาง
  5. ชั้นเลว
  6. ชั้นเลวมาก


ซึ่งทันทีที่เข้าเรือนจำ จะมีสถานะเป็น "ผู้ต้องขังชั้นกลาง" ก่อน จากนั้นจะค่อยๆ ขยับชั้น ถ้าปฏิบัติตัวดี รับโทษมาแล้ว 180 วัน หรือ 6 เดือน ก็ขยับเป็นชั้นเยี่ยม และจะได้รับสิทธิ์ "ลดวันต้องโทษ" เดือนละ 5 วัน 

เปิดช่อง\"ฟาสต์แทร็ก\"นักโทษวีไอพีแหกทุกข้อจำกัด 

สำหรับช่องทางนี้มี "ฟาสต์แทร็ก" ด้วย ก็คือ ถ้ามีเงื่อนไขพิเศษ เช่น มีอาการป่วย อายุเยอะ อายุเกิน 70 ปี อาจไม่ต้องจำคุกถึง 180 วัน ก็ขยับเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมได้เหมือนกัน

2. "การพักโทษ" หรือภาษากฎหมายเรียก "พักการลงโทษ"

-ตามกฎหมายและระเบียบของราชทัณฑ์ การจะขอพักโทษได้ ต้องรับโทษไปแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ก็คือน้อยที่สุด โดยมีเงื่อนไขประกอบเรื่องอายุ และสุขภาพ เช่น ถ้าอายุมาก มีอาการป่วย ก็อาจจะได้จะได้รับการพักโทษง่ายขึ้น 

แต่ "ฟาสต์ แทร็ก" จริงๆ คือ ป่วยใกล้จะเสียชีวิต อาจจะได้รับการยกเว้นเงื่อนไขรับโทษแล้ว 1 ใน 3 โดยอนุญาตให้พักโทษได้เลย แต่ "ฟาสต์ แทร็ก" แบบนี้ คงไม่มีใครอยากเข้าเงื่อนไข 

เปิดช่อง\"ฟาสต์แทร็ก\"นักโทษวีไอพีแหกทุกข้อจำกัด 

3. พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เรียกว่า "อภัยโทษหมู่"

-ซึ่งมีการประกาศตามวาระสำคัญต่างๆ โดยปกติจะมีเงื่อนไขอภัยโทษ สำหรับผู้ต้องขังที่รับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษที่ได้รับเช่นกัน ส่วนจะลดเท่าไหร่ เช่น 1 ใน 3 , 1 ใน 2 , 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 5 ก็ขึ้นกับลักษณะความผิดที่กระทำ และประเภทของคดี 

ช่องทางนี้มี "ฟาสต์ แทร็ก" ที่คนนอกคุก อาจจะไม่ค่อยทราบ คือ การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคล ทำเรื่องขอได้เลยตั้งแต่เข้าคุกวันแรก เมื่อคดีถึงที่สุด ซึ่ง "วิษณุ เครืองาม" มือกฎหมายของรัฐบาล ก็มาแย้มให้ฟังแล้ว 

ส่วนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ เป็น "พระราชอำนาจ" ซึ่งบัญญัติรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ โดยฉบับปัจจุบัน อยู่ที่มาตรา 179 เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์เหมือน "อภัยโทษหมู่" แต่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล 

นอกจากนี้ "อดีตบิ๊กราชทัณฑ์" ยังอธิบายต่อว่า ช่องทางลดโทษ โดยเฉพาะการ "ลดวันต้องโทษ" กับ "พักโทษ" จะว่าไปแล้ว ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากตัวนักโทษมากนัก เพราะเงื่อนไขเยอะ และไม่ค่อยเห็นผล คือ ลดไม่ได้มาก ไม่ได้น้ำได้เนื้อ ไม่เหมือนการอภัยโทษที่ลดเยอะ สูงสุดอาจถึง 1 ใน 2 หรือครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว 

แต่วิธีการที่จะทำให้เกิด "ฟาสต์แทร็ก" มีมากกว่าการรอ "อภัยโทษหมู่" และ "ขอพระราชอภัยโทษ" เป็นรายบุคคล โดยต้องใช้แนวทางแบบบูรณาการ 

ยกตัวอย่างสมมติ ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น...

1.นักโทษเด็ดขาดคนหนึ่ง คดีถึงที่สุดแล้ว โทษจำคุกรวม 10 ปี เข้าคุกวันแรก 10 ส.ค.นี้ ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคลทันที 

ผลที่จะเกิดขึ้นได้ พระราชทานอภัยโทษทั้งหมดเลย หรือลดโทษตามสัดส่วน เรื่องนี้เป็นพระราชอำนาจ คาดเดาไม่ได้ จึงยกไว้ก่อน 

2.นักโทษรายนี้ เมื่อเข้าเรือนจำรับโทษ 10 ส.ค. ก็น่าจะมีสิทธิ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษหมู่ ในวาระสำคัญของชาติในเดือนส.ค. สมมติได้ลดโทษ 1 ใน 3 โทษของตัวเองจะลดไป 3 ปี 3 เดือน จะเหลือโทษจำคุก 7 ปี 9 เดือน 

ทันทีที่โทษจำคุกลดลง จากการอภัยโทษหมู่ ผลที่จะเกิดขึ้น แต่ทุกคนอาจจะลืมไปก็คือ เงื่อนไขรับโทษ 1 ใน 3 เพื่อพักโทษ ก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย อย่างตัวเลขโทษจำคุกที่เหลือ 7 ปี 9 เดือน รับโทษ 1 ใน 3 ก็จะเหลือ 2 ปีกว่าๆ ไม่ใช่ 3 ปีกว่าๆ เหมือนตอนโทษยังเหลือเต็ม 10 ปี 

3.นักโทษรายเดิม รับโทษต่อไปอีกราวๆ 4 เดือน ถึงเดือนธ.ค. มีพระราชทานอภัยโทษหมู่อีกครั้ง ในวาระสำคัญของชาติ ครั้งนี้สมมติได้ลดโทษ 1 ใน 2 เพราะโทษรวมเริ่มเหลือน้อยแล้ว (7 ปีกว่า) เมื่อลดรอบนี้ โทษรวมจะลดลงอีกครึ่งหนึ่ง เหลือ 3 ปีกว่าเท่านั้น 

ซึ่งทันทีที่โทษจำคุกลดลงเหลือ 3 ปีกว่า เงื่อนไขติดคุก 1 ใน 3 ก็จะลดลงไปอีก เหลือแค่ปีเศษ และติดจริงมาแล้ว 4 เดือน ก็จะเหลืออีกไม่ถึงปี หรือราวๆ ครึ่งปีกว่าๆ ก็เข้าเงื่อนไขพักโทษแล้ว โดยการพักโทษก็คือ กลับไปอยู่บ้าน ใส่กำไลอีเอ็ม ภายใต้มาตรการคุมประพฤติ 

4.อย่าลืมว่า ยังมีกระบวนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคลไว้อีก หากโชคดี นักโทษรายนี้ได้รับพระราชทาน ในจังหวะใดจังหวะหนึ่ง อาจจะ 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 2 

โทษจำคุกรวมจะลดลงอีก และเงื่อนไขติดคุกมาแล้ว 1 ใน 3 ก็จะยิ่งลดลง เผลอๆ ปลายปีนี้ ก็ได้พักโทษแล้ว 

ขอย้ำว่านี่คือเหตุการณ์สมมติเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับใครทั้งสิ้น และไม่ได้การันตีว่าจะเกิดขึ้นจริง

5.นักโทษคนเดียวนี้ อายุเกิน 70 ปี มีอาการป่วยตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำ เพราะเป็นคนรวย อภิมหาเศรษฐี ต้องเข้าคุกก็ทำใจไม่ได้ ตรอมใจ ทำให้ร่างกายทรุด สามารถขอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ทันที อาจไปอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ หรือกรณีเป็นโรคเฉพาะ อาการป่วยเฉพาะทาง อาจต้องย้ายไปโรงพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาะทางได้เหมือนกัน เช่น โรงพยาบาลดังๆ อย่างโรงพยาบาลพระราม 9 โรงพยาบาลตำรวจ 

เปิดช่อง\"ฟาสต์แทร็ก\"นักโทษวีไอพีแหกทุกข้อจำกัด 

โดยระหว่างป่วยรักษาตัวอยู่ ก็ทำ 4 ข้อข้างบนนั้นไปพร้อมกัน สุดท้ายอาจได้พักโทษกลับบ้าน โดยไม่ต้องอยู่ในเรือนจำ หรืออยู่จริงแค่วันสองวัน นอกเหนือจากนั้นอยู่โรงพยาบาลก็เป็นได้ แต่สถานะยังเป็นนักโทษ เป็นผู้ต้องขังอยู่เหมือนเดิม 

นี่ยังไม่นับการเป็นบุคคลสำคัญ อายุมาก มีอาการป่วย แม้ไม่หนักถึงกับเข้าโรงพยาบาล แต่สามารถขออยู่ห้องพิเศษได้ในเรือนจำ เพื่อไม่ให้อาการทรุด หรือไม่ให้โรคของตนเองแพร่ไปยังนักโทษอื่น เป็นห้องเดี่ยว เหมือนที่ "วิษณุ" อรรถาธิบายไว้ 

นี่คือช่องทาง "ฟาสต์แทร็ก" สำหรับนักโทษคนหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ และน่าจะอธิบายได้กับหลายๆ กรณีในอดีตที่เห็นคนดัง เซเลบ วีไอพี บางคนติดคุกแป๊บเดียว ก็ออกมาเที่ยวนอกคุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ...ทั้งหมดนี้คือคำตอบ

logoline